สมาร์ตโฟนในตระกูล V จาก Vivo นั้นอยู่ในใจชาวแบไต๋เสมอ เมื่อ Vivo V19 ออก เราจึงไม่พลาดที่จะรีวิวกันอย่างละเอียด เจาะลึกกันไปเลยว่า 6 กล้องนั้นเทพแค่ไหน แถมรุ่นนี้ถ่ายกล้องหน้ากลางคืนได้ดีด้วยนะ ผึ้ง-นภัสนันท์ เจาะลึกให้ฟังกัน
ดีไซน์ตัวเครื่อง
มาดูที่ดีไซน์เครื่องกันก่อน สีที่เราได้มานี้คือ Sleek Silver ซึ่งเป็นสีเงินประกายฟ้า ให้ความรู้สึกถึงอารมณ์เหมือนบรรยากาศในวันที่ท้องฟ้าสดใส แสงอาทิตย์เปล่งประกาย ซึ่งฝาหลังกระจกตัวนี้จะมีขอบข้างโค้งรับฝามือทั้ง 2 ข้าง เพื่อให้จับกระชับมือ และจุดเด่นที่สุดของด้านหลังเครื่องนี้คือกล้องที่มี 4 เลนส์ที่วางเรียงตรงมุมซ้ายบน ส่วนด้านล่างก็มีพอร์ต 3.5 mm สำหรับต่อหูฟัง แล้วก็มีลำโพง 1 ตัวด้านล่างนี้ก็ให้เสียงแบบ Mono นะคะ ไม่ได้มีลำโพงคู่เป็นสเตอริโอ แต่ให้เสียงที่ดังมาก
ส่วนถาดใส่ซิมเป็นแบบใส่ได้ 2 ซิมพร้อมการ์ด MicroSD ได้ด้วย แถมรองรับ 4G เต็มรูปแบบ แต่ยังไม่รองรับ 5G ส่วน Port เป็น USB-C พร้อมเทคโนโลยี Vivo FlashCharge 2.0 ด้วยกำลังไฟ 33 Watt ทำให้ชาร์จไฟเสร็จเร็วมาก แบบกลางคืนลืมชาร์จแบตก็ไม่เป็นไร ตื่นเช้ามาชาร์จก่อนออกไปทำงานก็ชาร์จทัน แถมแบตเตอรี่ในตัวเครื่องยังใหญ่ถึง 4500 mAh ใช้งานแบบไม่ต้องกลัวแบตหมดระหว่างวัน ส่วนหน้าเครื่องก็เป็นเทรนด์ของมือถือปี 2020 นี้ที่เปลี่ยนกลับมาใช้เป็นกล้องหน้าแบบเจาะรูบนหน้าจอ หรือที่เรียกว่า Ultra O Screen ซึ่งกล้องหน้าของ Vivo V19 นั้นมี 2 เลนส์ เป็นเลนส์ปกติกับเลนส์มุมกว้างนั่นเอง
หน้าจอ
หน้าจอของ Vivo V19 นั้นเป็นจอ Super AMOLED ขนาด 6.44 นิ้ว ความละเอียดเป็น Full HD+ นะคะ ก็ให้ภาพสีสันสวยงามดี ภาพสดใสกำลังดี ไม่สดเกินจริงไป เปิด Youtube ก็รองรับ HDR เต็มที่ ส่วนเปิด Netflix ก็ได้ความละเอียดเต็ม 1080p ดูหนังดูซีรีส์ได้เพลิน ๆ แต่ยังไม่รองรับ HDR ของ Netflix จอตัวนี้ผ่านการรับรองมาตรฐานจาก TÜV Rheinland ประเทศเยอรมันว่าสามารถกรองแสงสีฟ้าที่เป็นอันตรายได้ 42% นอกจากนี้จอของ Vivo V19 ยังเป็นจอแบบเรียบไปทั้งแผ่นไม่มีขอบโค้งอะไร ใครที่ไม่ชอบจอขอบโค้งเพราะอาจลั่นได้ง่าย ก็คงชอบจอของรุ่นนี้
ความปลอดภัย
Vivo V19 มาพร้อมเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอที่ทำงานได้เร็วใช้ได้เลย แต่ถ้าคิดว่าเซนเซอร์ลายนิ้วมือนั้นเร็วแล้ว เซนเซอร์สแกนหน้าจากกล้องหน้าตัวนี้เร็วยิ่งกว่า เปิดจอมาเห็นหน้าเรา ก็ปลดล็อกให้แทบจะทันที
กล้องหน้า
มาถึงจุดเด่นของมือถือรุ่นนี้อย่างกล้องหน้า เลนส์ตัวหลักทางซ้ายเป็นกล้องหลัก ที่มีความละเอียด 32 ล้านพิกเซล f/2.07 ส่วนอีกเลนส์ทางด้านขวานี้เป็นเลนส์ Ultra-wide มุมกว้างมาก 105 องศา ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล เพื่อให้ถ่าย Selfie ได้กว้างกว่าเดิม เวลาถ่ายภาพเป็นหมู่คณะก็ไม่มีปัญหา
ซึ่งชื่อชั้นของ Vivo นั้นไม่เคยปล่อยให้ภาพ Selfie ดูแย่อย่างแน่นอน เริ่มต้นจากการถ่ายปกติก็ให้ภาพที่สวยงาม สีสันเป็นธรรมชาติมาก ๆ นอกจากนี้เรายังสามารถกดเปิด Bokeh ให้ฉากหลังละลายอย่างสวยงามเป็นธรรมชาติได้ด้วย และทีเด็ดของรุ่นนี้คือสามารถถ่าย Selfie แบบมุมภาพกว้างได้ด้วย เหมาะมากสำหรับการถ่าย Selfie กับเพื่อน หรือถ่าย Selfie ที่ต้องการเก็บฉากหลังเยอะ ๆ ไม่ได้เห็นแต่หน้าเราอย่างเดียว แล้วถ้าหากใครชอบ selfie ให้หน้าสวยหน่อย ก็เลื่อนเป็นโหมด Portrait ค่ะ จะมีการแต่งหน้าสวยให้ดูดีเลย ปรับความขาว ความเนียน ลดจมูกบาน คางเกิน เก็บไปได้หมด เปิด Bokeh ให้ละลายฉากหลังก็ได้ แถมยังมีโหมดแนะนำท่าทางการโพสต์ด้วย สำหรับคนที่คิดไม่ออกว่าจะโพสต์ท่ายังไง
ส่วนการถ่ายวิดีโอด้วยกล้องหน้า ก็ทำได้ดีค่ะ สามารถเปิดโหมดป้องกันภาพสั่นไหว ให้วิดีโอ Selfie เราออกมานิ่งขึ้นได้ ก็เอาไปใช้งานได้หลากหลายเลย แถมยังมีลูกเล่น Art Portrait Video ที่ถ่ายวิดีโอ Selfie ให้หน้าชัดหลังเบลอก็ได้ หรือจะถ่ายแบบดูดสีฉากหลังให้กลายเป็นขาว-ดำ ก็ยังได้อีก ใครชอบถ่ายรูปตัวเอง Vivo V19 มีความสามารถด้านนี้เพียบเลย
แล้วใครบอกว่า Selfie จะถ่ายกลางคืนไม่ได้ ใน Vivo V19 นั้นสามารถถ่าย Selfie แบบเปิดหน้ากล้องนานด้วย Night Mode หรือที่เรียกว่าโหมด Super Night Selfie สำหรับคนที่ไม่ชอบเปิดแฟลช แต่เราอยากจะบอกว่า มือถือรุ่นนี้มีแฟลชกลางคืนที่อลังการมากค่า โดยเปลี่ยนหน้าจอของเราให้สว่างเป็นแฟลชแบบ Fill Light ขึ้นมาตลอด เวลาถ่าย Selfie ตอนกลางคืนก็ให้อารมณ์เหมือนถ่ายอยู่หน้าไฟแฟลชแยกแบบวง ๆ คือได้ตาเป็นแถมยังถ่ายฉากหลังเบลอพร้อมเก็บรายละเอียดแสงด้านหลังให้สวยงามได้อีกด้วย
กล้องหลัง
มาดูกล้องหลังกันบ้าง ประกอบด้วยเลนส์ทั้งหมด 4 ตัว เลนส์ตัวบนสุดนี้เป็นเลนส์วัดระยะ สำหรับถ่ายหน้าชัดหลังเบลอ ตัวกลางคือเลนส์หลัก 48 ล้านพิกเซล f/1.79 ที่เวลาถ่ายจริงจะรวม 4 พิกเซลเป็น 1 เหลือ 12 ล้านพิกเซล ตัวล่างสุด เป็นเลนส์มุมกว้าง 8 ล้านพิกเซล f/2.2 และตัวที่หลุดแนวออกมานี่คือเลนส์มาโคร 2 ล้านพิกเซล f/2.4 เอาไว้ถ่ายรูปใกล้ประมาณ 4 cm
ที่น่าสังเกตคือกล้อง 4 เลนส์นี้ไม่มีเลนส์ซูมโดยเฉพาะ แต่เอาเลนส์หลักมาขยายแทน ซึ่งสามารถทำให้การซูมแบบ 2 เท่าภาพไม่แตกเลย แต่ถ้ามากกว่านี้ภาพจะเริ่มแตกจากการขยายภาพขึ้นมา โดยภาพถ่ายจากกล้องหลักของ Vivo V19 ถือว่าออกมาดีเลย ถ่ายอะไรก็ให้ภาพได้สวยสบายตา ไม่ได้สดใสเกินจริง ใช้ง่ายด้วย แถมถ่ายหน้าชัดหลังเบลอก็ได้ มีปรับหน้าสวยในโหมด Portrait ซึ่งก็สามารถปรับได้ทั้งใบหน้าและรูปร่างเลย ส่วนใครคิดไม่ออกว่าจะโพสต์ท่ายังไง กล้องก็สามารถแนะนำท่าทางออกมาได้ด้วย
นอกจากนี้ยังสามารถสลับไปใช้เลนส์มุมกว้างเพื่อให้ภาพที่แปลกตาขึ้นไปได้อีก ถ่ายภาพคนให้ดูแขนขายาวขึ้น ก็ใช้โหมดภาพมุมกว้างนี้แหละ หรือจะสลับไปเลนส์ Macro เพื่อถ่ายภาพของเล็ก ๆ ให้ใหญ่ขึ้นก็ได้ค่ะ แต่การซูมนั้นจะใช้กล้องหลักมาขยายเป็นหลักนะคะ เพราะไม่มีเลนส์ซูมเฉพาะ ซึ่งก็สามารถซูมได้เนียนๆ ที่ 2 เท่าค่ะ ถ้าซูมเยอะกว่านี้ภาพจะแตกแล้ว สำหรับการถ่ายภาพในยามค่ำคืน ก็สามารถใช้ Night Mode เพื่อทำให้ภาพสว่างขึ้นได้อย่างดูดี เห็นคุณภาพภาพที่ได้แล้ว คงไม่ต้องกลัวเวลาต้องถ่ายภาพกลางคืนแล้ว
การถ่ายวิดีโอก็ทำได้น่าสนใจค่ะ จุดเด่นของ Vivo V19 คือ Ultra Stable Video ที่เมื่อเปิดโหมดนี้ขณะถ่ายวิดีโอ ก็จะได้วิดีโอที่เคลื่อนไหวนุ่มนวลมาก แม้ถ่ายไปวิ่งไปก็ทำได้ แต่ความละเอียดของวิดีโอในโหมดนี้จะลดลงเหลือแค่ 720p เท่านั้น แต่สำหรับการถ่ายวิดีโอแบบเดินถ่ายทั่วไป ใช้โหมด 1080p 30 fps ก็สามารถป้องกันความสั่นไหวได้ดีพอสมควร
ส่วนถ้าใครอยากถ่ายวิดีโอระดับ 1080p 60 fps หรือ 4K เจ้า Vivo V19 ก็สามารถถ่ายได้เช่นกัน เพียงแต่ว่าระบบป้องกันภาพสั่นไหวอาจจะทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ ส่วนลูกเล่นวิดีโอจากโหมด Art Portrait ที่ถ่ายวิดีโอหน้าชัดหลังเบลอ หรือทำฉากหลังให้เป็นขาว-ดำ ก็สามารถเปิดใช้กับกล้องหลังได้เช่นกัน
Software
อีกเรื่องหนึ่งที่น่าสนใจในซอฟต์แวร์ของ Vivo คือโหมดแก้ไขภาพที่ถ่ายไปแล้ว ซึ่งมีโหมด AI Makeup เราแต่งสวยด้วย AI ที่ปรับหน้า ปรับสีลิปสติก หรือจะแต่งรูปร่างให้ดีขึ้นก็ได้ แต่ทีเด็ดของการแก้ไขรูปคือโหมด AI Image Matting ค่ะ ที่ AI จะวิเคราะห์ออกมาเองว่าจุดไหนในภาพเป็นบุคคลบ้าง พอวิเคราะห์เสร็จก็สนุกเลย เราจะขยับตำแหน่งบุคคล ปรับขนาดบุคคล ลบบุคคลออก เปลี่ยนฉากหลัง ทำอะไรก็ได้ทั้งนั้นแบบไม่ต้องมาไดคัตเอง แถมใช้ภาพจากแหล่งอื่น ๆ ก็ได้ ไม่เฉพาะภาพถ่ายจากกล้องอย่างเดียว ยิ่งเล่นยิ่งสนุกกับความสามารถเหล่านี้
ประสิทธิภาพ
ประสิทธิภาพเครื่อง ซึ่ง Vivo V19 นั้นใช้ชิปประมวลผล Snapdragon 712 มาพร้อมแรม 8 GB และหน่วยความจำอีก 128 GB พร้อมระบบปฏิบัติการ Funtouch OS 10 ครอบทับบน Android 10 ซึ่งผลการทดสอบประสิทธิภาพออกมาดังนี้
- Geekbench 5 ได้คะแนน Multicore – 1524 คะแนน
- 3DMark ชุดทดสอบ Slingshot Extreme ได้คะแนน 2166 คะแนน
- Androbench วัดความเร็วในการอ่านได้ราว 500 MB/s
ส่วนการใช้งานทั่วไป ทั้งเล่นเฟซบุ๊ก ท่องเว็บก็ทำได้ลื่นไหลดี แล้วก็แรงพอที่จะเอาไปเล่นเกมอย่าง PUBG ในระดับ HD ได้ไม่มีปัญหา เพราะ Vivo V19 มีระบบที่เรียกว่า Multi-Turbo 3.0 ที่ใช้หลายเทคนิคในการเร่งความเร็วเครื่องเช่น ART++ Turbo ที่เร่งความเร็วในการเปิดแอปได้ หรือ Game Turbo ที่เร่งประสิทธิภาพในการสัมผัสให้ดีขึ้น ตอบสนองไวขึ้น นอกจากนี้ยังมี Ultra Game Mode หน้าจอสำหรับเกมเมอร์โดยเฉพาะ เพื่อช่วยบันทึกหน้าจอ หรือใช้เปลี่ยนเสียงเกมเมอร์ เวลาตะโกนคุยกันในเกมก็ได้ด้วย Voice Changer
นอกจากนี้ตัวเครื่องมาพร้อมระบบ Copper Tube Liquid Cooling หรือท่อระบายความร้อนพิเศษ เพื่อให้ใช้งานได้ยาวนานโดยที่เครื่องไม่ร้อนด้วย
จุดสังเกต
มาถึงข้อสังเกตของ Vivo V19 กันบ้างนะคะ เราว่าอยู่ที่เลนส์มุมกว้างที่เหมือนระบบของมันเป็นเอกเทศไม่ยุ่งกับใคร ไม่ว่าจะเป็นเลนส์มุมกว้างของกล้องหน้าหรือกล้องหลัง ก็ไม่สามารถถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอได้ หรือใช้เลนส์มุมกว้างถ่าย Night Mode ไม่ได้ แต่มีเลนส์มุมกว้างที่สามารถถ่ายแบบโหมดภาพบุคคลทดแทนมาให้นั่นเอง
ราคา
สุดท้ายรีวิวที่ดีก็ต้องมีราคาค่ะ ราคาของ Vivo V19 นั้นเปิดตัวที่ 12,999 บาท เริ่มวางจำหน่าย 8 พฤษภาคมนี้ ซึ่งก็ถือว่าคุ้มค่าตัวสำหรับมือถือที่มีประสิทธิภาพระดับกลาง มีหน้าจอที่ดี คมชัด ที่สำคัญคือกล้องดีเลย โดยเฉพาะการถ่าย Selfie ยามค่ำคืนนี่ประทับใจสุด ๆ
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส