รีวิว Asus ProArt StudioBook ONE (W590) ราคาสี่แสน สุดจริง เร็วจริง ฟินจริง

Our score

8.8

รีวิว Asus ProArt StudioBook ONE (W590) ราคาสี่แสน สุดจริง เร็วจริง ฟินจริง

จุดเด่น

1. สเปกโหดตอบโจทย์ทุกการใช้งาน
2. หน้าจอคม 4K แสดงสีตรง
3. ดีไซน์ดูแปลกตา แต่ระบายความร้อนได้ดี

จุดสังเกต

1. พอร์ตมีแต่ USB-C ต้องต่ออะแดปเตอร์เพิ่ม (มีแถมมาให้ในกล่อง)
2. ราคาค่อนข้างสูง

• รูปลักษณ์ การออกแบบ

  8.0

• คุณภาพการใช้งาน

  9.5

• สเปกเครื่อง ประสิทธิภาพ

  10.0

• ซอฟแวร์

  8.5

• ความคุ้มค่า

  8.0

Asus ProArt StudioBook ONE โน้ตบุ๊กเวิร์กสเตชันกับสเปกสุดโหด เกิดมาเพื่อรองรับงานระดับฮาร์ดคอร์โดยเฉพาะ จะสร้างชิ้นงาน 3 มิติ, สร้างภาพอนิเมชัน, สร้างสเปเชียลเอฟเฟกต์ระดับงานจอเงิน (ภาพยนตร์), การประมวลผลข้อมูลมหาศาลจากงานวิทยาศาสตร์, หรือใช้กับการประมวลผลภาพ MRI ก็สบาย ๆ แถมพกไปทำงานที่ไหนก็ได้ รายละเอียดจะเป็นอย่างไร ไปดูพร้อมกันเลยครับ

Asus ProArt StudioBook One โน้ตบุ๊กรุ่นแรกที่ใช้ Quadro RTX 6000

พูดถึงโน้ตบุ๊กเวิร์กสเตชันหลายคนคงคิดถึงเรื่อง “สเปก” เป็นอย่างแรก เพราะสายนี้สเปกต้องโหดจริง (ไม่งั้นอยู่ไม่ได้) ซึ่งตัว Asus ProArt StudioBook ONE ก็ถือว่าใช้สเปกที่ดีที่สุดเท่าที่จะอยู่ในโน้ตบุ๊กได้ ณ เวลานี้ อย่างซีพียูตัวโหดอย่าง Intel Core i9-9980HK พร้อมความเร็ว 2.4GHz ที่บูสต์สูงสุดถึง 5GHz และแกนประมวลผล 8 Cores, 16 Threads กับ 16MB SmartCache ซึ่งถือว่ามากเหลือล้นสำหรับโน้ตบุ๊กแบบพกพา

ด้านชิปประมวลผลภาพ หรือที่หลายคนเรียกติดปากว่าการ์ดจอแยกก็ไม่ธรรมดา เพราะพาชื่อชั้น Quadro RTX การ์ดจอเพื่องานครีเอเตอร์โดยเฉพาะมาด้วย แถมมันยังเป็นโน้ตบุ๊กเวิร์คสเตชันรุ่นแรกของโลกที่ใส่การ์ดจอระดับเทพ NVIDIA Quadro RTX 6000 (GDDR6 24GB) ซึ่งความแรง ณ เวลาที่เขียนรีวิวนี้ อยู่ที่อันดับสองของโลก ถ้าจะเอามาตัดต่องานระดับ 8K หรือเรนเดอร์งาน 3D หนัก ๆ คงไม่มีปัญหา แต่เดี๋ยวเราจะมารีวิวให้ดูครับ

และสำหรับงานระดับฮาร์ดคอร์อีกสิ่งที่มีความสำคัญไม่แพ้กันนั่นคือความจุแรม เพราะแต่ละโปรแกรมที่ต้องเอามารันงานนั้น บริโภคแรมมหาศาล ตัว Asus ProArt StudioBook ONE ก็ไม่ทำให้ผิดหวังเพราะว่าจัดแรมมาให้เน้น ๆ ถึง 64GB เป็นแบบ DDR4 ที่ความเร็วบัส 2666MHz ส่วนความจุตัวเครื่องก็เป็น SSD ขนาด 1TB แบบ PCIe NVMe Gen 3

มาพูดถึงสเปกจอกันบ้าง Asus ProArt StudioBook ONE มาพร้อมกับจอด้าน IPS LED-backlit ขนาด 15.6 นิ้ว ส่วนความคมก็ระดับ 4K (3840 x 2160) ความสว่างระดับ 350 Nits แสดงสี Adobe RGB 100% และมีค่าความเที่ยงตรงของสี Delta E <1 (ยิ่งน้อยยิ่งแสดงสีได้ใกล้เคียงกับตาเห็น) ที่ผ่านมาตรฐาน PANTONE® Validated

ส่วนสเปกอื่น ๆ ที่ก็จะเป็น Windows 10 Pro เชื่อมต่อ Wi-Fi Dual-band 2×2 802.11ac (Wi-Fi 5) และ Bluetooth 5.0 รวมถึงมีพอร์ต Thunderbolt™ 3 ที่เป็น USB-C รองรับ Display Port 1.4 (40Gbps) จำนวน 3 พอร์ต และมีพอร์ต DC-in อีกหนึ่งพอร์ตครับ ส่วน Webcam ก็ได้ระดับ HD 720p มา แต่ไม่รองรับการใช้งาน Windows Hello ในการใช้ใบหน้าปลดล็อกเครื่องนะ

ซึ่งจุดสังเกตของสเปกนี้อยู่ที่การเชื่อมต่อครับ คือพอร์ตน้อยไปหน่อยสำหรับเครื่องระดับนี้ คือที่ตัวเครื่องจะไม่มีพอร์ตดังนี้

• USB-A ปกติ
• พอร์ต HDMI
• พอร์ต LAN
• ช่องอ่านการ์ด SD ที่มืออาชีพมักจะใช้กัน
• ช่องหูฟัง 3.5 mm

แม้ Asus จะแถม USB-C Hub มาด้วยเพื่อแปลงพอร์ตให้เป็น USB-A 3.0, HDMI และพอร์ตแลน (แต่ยังขาดช่องอ่าน SD Card และช่องหูฟัง 3.5 mm ที่คงต้องใช้หูฟังแบบ USB-C เอา) เราก็คิดว่าการเชื่อมต่อกับเครื่องได้โดยตรงก็น่าจะทำงานสะดวกกว่าครับ นอกจากนี้ยังไม่รองรับ Wi-Fi 6 มาตรฐานล่าสุดในปัจจุบันด้วย

ดีไซน์ของ Asus ProArt StudioBook One (W590)

ดีไซน์ ProArt StudioBook ONE ถือว่าแปลกใหม่มากสำหรับเครื่องระดับ Creator ครับ ด้วยการยกเอาชิ้นส่วนหลักไปอยู่ด้านหลังจอ อย่าง CPU, GPU, RAM แล้วใส่พัดลมระบายความร้อนขนาดใหญ่ลงไป เมื่อเปิดฝาเครื่องออกมาทำงาน ฝาหลังจอก็จะเผยอออกด้านหลังเพื่อเปิดทางให้อากาศเข้าเครื่องได้มากขึ้นครับ โดยรวมดีไซน์เครื่องพิเศษแบบนี้ทำให้เครื่องระบายความร้อนได้ดีขึ้น แม้ทำงานหนักเสียงเครื่องก็ไม่ดังจนเกินไป เราใช้งานหนัก ๆ มานานก็ไม่มีเสียงดังจนน่ารำคาญเลยนะครับ ซึ่ง Asus เคลมว่าเสียงพัดลมจะเบากว่า 46 dB

Asus ProArt StudioBook One มีสีเดียวคือเทา Star Grey ครับ ก็เป็นสีสันที่เรียบหรูดี พร้อมตัดขอบเครื่องแบบเอียงให้หรูหราขึ้นไปอีก โดยรวมแล้วเครื่องนี้หนัก 2.9 กิโลกรัม (ไม่รวมอะแดปเตอร์) ซึ่งถือว่าไม่หนักเลยสำหรับเครื่องที่แรงขนาดนี้ และมีจอใหญ่ 15.6 นิ้วครับ

ส่วนคีย์บอร์ดนั้นเป็นแบบปุ่มเตี้ย ๆ ที่มีไฟ Backlit ครับ ให้ความรู้สึกในการพิมพ์เหมือนคีย์บอร์ดของ MacBook ซึ่งเรื่องนี้ก็แล้วแต่ความชอบของแต่ละคนเลย แต่ตำแหน่งปุ่มบนคีย์บอร์ดทั้งหมดได้มาตรฐานครับ ถ้าพิมพ์คีย์บอร์ดมาตรฐานคล่องอยู่แล้วก็สามารถใช้งานได้ทันที ที่น่าสนใจคือปุ่ม Power นั้นมีเซนเซอร์สแกนนิ้วมืออยู่ด้วย ก็ถือว่าซ่อนได้แนบเนียนดีครับ ส่วน Trackpad ก็มีขนาดใหญ่และกดได้ง่ายครับ

และลำโพงของ Asus ProArt StudioBook One นั้นก็ให้เสียงดังสดใสกังวานดี แม้จะไม่ได้อ้างอิงกับลำโพงแบรนด์ดัง ๆ อย่าง harman/kardon ที่อยู่ในซีรีส์ ZenBook

ประสิทธิภาพของ Asus ProArt StudioBook One (W590)

พูดถึงเรื่องสเปกไปเยอะแล้วมาดูผลทดสอบจริงกันบ้างว่าพลังของซีพียูตัวโหด การ์ดจอตัวเทพ i9-9980HK + Quadro RTX 6000 จะเป็นอย่างไร ดูผลคะแนนที่ด้านล่างนี้เลยครับ

• 3D MARK
  • Sky Drive: 33,005 คะแนน
  • Night Raid: 23,684 คะแนน
  • Fire Strike: 18,622 คะแนน
  • Time Spy: 10,931 คะแนน
• GeekBench 5: Single Core 1197 คะแนน / Multi-Core 7543 คะแนน
• PCMARK: 4,578 คะแนน
• CINEBENCH: R15 1,248 cb
• CINEBENCH 20: 3,888 pts
• CrystalDiskMark: อ่าน 2,862 MB/s / เขียน 2,394 MB/s

จากการทดสอบประสิทธิภาพถือได้ว่าเป็นเบอร์ต้น ๆ ของเครื่องโน้ตบุ๊กเวิร์กสเตชันในปี 2020 เดี๋ยวเราเอาไปลงสนามจริง กับการใช้งานโปรแกรมจริง ๆ กันบ้างครับ

การใช้งานจริง ของ Asus ProArt StudioBook One (W590)

มาต่อด้วยการเรนเดอร์โหด ๆ โปรแกรม Adobe Premiere Pro กันครับ ก็บอกได้เลยครับว่าพลังของ i9-9980HK + Quadro RTX 6000 นั้นจัดว่า “แรงมาก” ความเร็วในการเรนเดอร์ไฟล์งาน 8K ก็เร็วกว่าโน้ตบุ๊กทั่วไป ๆ เลยล่ะครับ และด้วยแรมที่มีมาให้มากถึง 64GB ก็ทำให้การพรีวิววิดีโอแบบ Real-time หรือการเปิดโปรแกรมที่กินสเปกเยอะ ๆ อย่าง Adobe Photoshop, Adobe After Effect, Adobe Audition, Google Chrome (สิบห้าแท็ป) ทิ้งไว้ได้แบบไม่มีปัญหา ไม่มีโปรแกรมปิดตัวเองแต่อย่างใด และที่ไม่มีปัญหานั้นก็เพราะว่าเจ้ารุ่นนี้ได้รับการรับรองจาก Independent Software Vendor (ISV) ว่าสามารถใช้งานซอฟต์แวร์ตระกูล Adobe, Autodesk, DDS (Dassault Systems), PTC ได้อย่างลื่นไหล 

ด้านการใช้งานกับโปรแกรม 3 มิติ (3D Software) อย่าง Adobe Dimension, Autodesk, SketchUp ก็ถือว่าเปิดประสบการณ์ใหม่สำหรับคนที่เปลี่ยนมาใช้เครื่อง Workstation เลยครับ การเรนเดอร์ไฟล์เร็วมาก จากผลทดสอบก็น่าจะเห็นกันไปแล้วว่าคะแนนอยู่อันดับต้น ๆ ของผลทดสอบเลยครับ

แม้ว่า Asus ProArt StudioBook One จะมาพร้อมกับจอขั้นเทพ 4K แสดงสีระดับ Delta E <1 แต่กับบางคนยังต้องการต่อจอแยกที่ใหญ่กว่าอยู่ รุ่นนี้ก็สามารถต่อจอแยกความละเอียด 8K ได้ถึง 3 หน้าจอเพราะว่ามีพอร์ต Thunderbolt 3 ที่เป็น Display Port ในรูปแบบ USB-C ก็ถือว่าใช้งานได้ยืดหยุ่นเลยครับ

ส่วนใครที่สงสัยว่าโน้ตบุ๊กสเปกแบบนี้สามารถเอามาเล่นเกมได้ไหม คำตอบคือได้สบาย ๆ ครับ ความที่การ์ดจอ Quado RTX 6000 เป็นการ์ดจอสำหรับเรนเดอร์งาน 3 มิติอยู่แล้ว กับการเล่นเกมก็ดูเหมือนจะเป็นอะไรที่พอไปกันได้ (แม้จะไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อการเล่นเกมก็ตาม) โดยการเล่นเกมออนไลน์อย่าง Overwatch, PUBG, DOTA 2, Valorant ในความละเอียด 4K และปรับความละเอียดภาพสูงที่สุด สามารถทำ FPS ได้เกิน 60 ขึ้นไปทุกเกมเลยครับ

แบตเตอรี่ ของ Asus ProArt StudioBook One (W590)

เมื่อเป็นโน้ตบุ๊กเวิร์กสเตชันแบบพกพา เราก็ต้องมาดูเรื่องประสิทธิภาพของแบตเตอรี่กันบ้าง Asus ProArt StudioBook One มาพร้อมกับแบตฯ ขนาด 90Wh 12-cell หรือประมาณ 7380 mAh ซึ่งถือว่าเยอะมาก ๆ สำหรับโน้ตบุ๊ก แต่ด้วยสเปกระดับนี้ก็ย่อมบริโภคแบตเยอะเป็นธรรมดา หากเราเปิดใช้งานแบบ Best Performance กับการใช้งานทั่วไป (พิมพ์งาน ท่องเว็บ) ใช้งานได้อยู่ประมาณ 6 ชั่วโมง แต่ถ้าเป็นงานหนัก ๆ ที่ต้องใช้สเปกเยอะ ๆ ก็แบตก็จะลดลงมาเหลือ 2-3 ชั่วโมงเลยครับ นั้นก็เพราะว่าพลังการประมวลผลของ CPU ครับ ถ้าต้องไปเรนเดอร์งานนอกสถานที่ก็ต้องพก Adaptor ไปด้วยครับ

ราคาของ Asus ProArt StudioBook One (W590)

มาถึงจุดที่ทุกคนอยากรู้ Asus ProArt StudioBook One W590G6T- HI004R ราคาเท่าไร ? สำหรับสเปกโหด ๆ อย่าง Intel Core i9-9980HK / Quadro RTX 6000 / 64GB / SSD 1Tb เคาะราคาอยู่ที่ 399,990 บาท ถือว่าน่าสนใจมากสำหรับใครที่มองหาโน้ตบุ๊กเวิร์กสเตชัน พร้อมสเปกที่ตอบโจทย์ทุกการทำงานครับ

ส่วนใครที่อยากอ่านข้อมูลเจ้าเครื่องนี้แบบละเอียด หรืออยากดูภาพเพิ่มเติมก็คลิกลิงก์เข้าไปดูที่ด้านล่างนี้ได้เลยครับ
asus.com/th/Laptops/ProArt-StudioBook-One-W590G6T

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส