Our score
7.3dtac Phone Eagle 5.0
จุดเด่น
- ฝาหลังออกแบบดูดี สวยงาม
- มีโหมดสำหรับผู้สูงอายุและเด็ก ทำให้เครื่องใช้ง่ายขึ้น
- เครื่องเร็วพอที่จะใช้งานในชีวิตประจำวันได้สบายๆ
- รับประกัน 15 เดือน
- มาพร้อมโปรโมชั่น Happy ได้โบนัสค่าโทร+อินเทอร์เน็ตมากกว่าราคาเครื่อง
จุดสังเกต
- ถ้าเล่นเกม 3 มิติหนักๆ เครื่องจะหน่วงบ้าง
- รองรับ multitouch แค่ 2 จุด
-
ความสวยงามของเครื่อง
8.0
-
ประสิทธิภาพ
6.5
-
คุณภาพภาพถ่าย
7.0
-
การตอบสนองของเครื่อง
7.0
-
ความคุ้มค่า
8.0
ปีนี้ถือเป็นยุคทองของ Android และสมาร์ทโฟนอย่างแท้จริงนะครับ ที่ผู้ผลิตหลากหลายค่ายต่างพยายามสร้างสมาร์ทโฟนราคาประหยัด แต่สามารถใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างลื่นๆ ซึ่ง dtac ในฐานะผู้ให้บริการก็เข็นสมาร์ทโฟนในแบรนด์ dtac Phone ออกมาเหมือนกัน ซึ่งเราคงจะคุ้นหูคุ้นตากับสมาร์ทโฟน Joey, Cheetah หรือ Lion จาก dtac แต่ครั้งนี้ dtac ขอเปิดตัวพรีเซนเตอร์ตัวใหม่ที่บ่งบอกบุคลิกของสมาร์ทโฟนซี่รี่ย์ใหม่จาก dtac อย่าง Eagle ครับ
รูปลักษณ์ภายนอก หรูหราเกินราคา
dtac Phone Eagle 5.0 ชื่อก็บอกอยู่แล้วนะครับว่าเป็นสมาร์ทโฟนจอ 5 นิ้ว ซึ่งรุ่นนี้จะมีจำหน่าย 2 สีด้วยกันคือ ขาว-ทอง กับ ดำ-เทาแบบ Gunmetal ซึ่งตัวที่เว็บแบไต๋ได้มารีวิวนี้เป็นรุ่นสีทอง ซึ่งถือว่าทำรูปลักษณ์ภายนอกได้ดูดีเกินราคาเลยแหละครับ ด้วยฝาหลังมันวาวสีทอง พร้อมลวดลายคล้ายๆ โลหะขัด ซึ่งฝาหลังนี้ก็จะเห็นโลโก้ของ dtac และ ZTE ผู้ผลิตมือถืออย่างชัดเจน แต่จุดที่สะดุดตาที่สุดคือกล้องขนาดใหญ่ที่ยื่นออกมาเล็กน้อยพร้อมไฟแฟลชและลำโพงที่อยู่ด้านข้าง ซึ่งการที่กล้องหลังยื่นออกมากลับส่งผลดีกับลำโพงที่วางอยู่ด้านข้างแบบนี้ คือเมื่อวางเครื่องราบลงกับพื้น ลำโพงหลังจะไม่ถูกปิดจนเสียงไม่ออก แถมช่องว่างระหว่างเครื่องกับพื้นที่กล้องหลังค้ำขึ้นมานั้นช่วยให้เสียงสะท้อนจนดังขึ้น ทำให้ผู้ใช้ได้ยินเสียงเรียกเข้าจากเครื่องได้ชัดขึ้นด้วย
ผู้ใช้สามารถเข้าไปเลือกได้ว่าจะให้ปุ่ม back อยู่ปุ่มซ้ายหรือปุ่มขวา
ที่นี้มาดูด้านหน้าของเครื่องกันบ้างที่อาจไม่ได้สะดุดตาเท่าฝาหลัง แต่ก็ยังอยู่ในระดับมาตรฐาน จุดที่ด้านหน้าแตกต่างจากโทรศัพท์รุ่นอื่นๆ ไปบ้างคือปุ่มด้านล่างที่ 2 ปุ่มซ้าย-ขวานั้น dtac เลือกที่จะใช้สัญลักษณ์เป็นจุดแทนที่จะเป็นไอคอนของปุ่ม back หรือปุ่ม option อย่างโทรศัพท์รุ่นอื่นๆ เพราะความสามารถหนึ่งของ Eagle 5.0 ตัวนี้คือผู้ใช้สามารถเข้าไปเลือกได้ว่าจะให้ปุ่ม back อยู่ปุ่มซ้ายหรือปุ่มขวา ซึ่งถือว่าดีสำหรับคนที่เคยใช้ Android รุ่นอื่นๆ มาที่อาจจะชินกับ Back ที่อยู่ด้านซ้ายหรือด้านขวาอย่างเครื่องเดิม แต่สำหรับคนใช้ Eagle 5.0 ครั้งแรกอาจจะสับสนบ้างว่าเราต้องกดปุ่มอะไรกันแน่
และที่สำคัญคือ dtac Phone Eagle 5.0 เครื่องนี้ในกล่องมีฟิล์มกันรอยมาให้เสร็จสรรพ ไม่ต้องลำบากตามหาฟิล์มขนาดพอดีเครื่องให้เหนื่อยใจกันอีก
ประสิทธิภาพเครื่อง ทำได้สมราคา
dtac Phone Eagle 5.0 ตัวนี้จัดเป็นสมาร์ทโฟนราคาประหยัด ราคาเปิดตัวที่ 3,790 บาท จึงไม่ได้เน้นประสิทธิภาพให้เร็วแรงระดับเล่นเกม 3D หนักๆ ได้ลื่น แต่สเปกที่ให้มานั้นพอเพียงกับการใช้งานทั่วไปหรือไม่ มาลองดูกัน
ต้นแบบของ Eagle 5.0 คือ ZTE Blade L3 Apex ครับ เพราะฉะนั้นสเปกที่ให้มาคือสเปกตัวเดียวกันคือ
- หน้าจอ: 5 นิ้ว IPS ความละเอียด 1280 x 720
- CPU: MediaTek MT6582 4-core 1.3 GHz
- GPU: Mali-400MP
- RAM: 1 GB
- ROM: 8 GB รองรับ MicroSD สูงสุด 32 GB
- รองรับเครือข่าย 3G 850/2100 MHz
- Android 4.4.2
- ใส่ 1 MicroSim กับ 1 Sim
- แบตเตอรี่ 2000 mAh
เมื่อวัดผลด้วย AnTuTu 5.7 แล้ว Eagle 5.0 ทำคะแนนได้ในระดับ 18055 คะแนน และ Geekbench 3 ก็ได้คะแนน Single-core ที่ 351 และ Multi-core ที่ 1155 ก็ถือว่าไม่น้อยไปสำหรับราคาระดับนี้ครับ ซึ่งเมื่อทดสอบการใช้งานจริงกับการท่องอินเทอร์เน็ตและการใช้เฟซบุ๊ก ถือว่าการตอบสนองอยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจ เขียนคอมเมนต์ อ่านเนื้อหา เปิดเว็บทำได้ลื่นใช้ได้
ทดสอบเล่นเกม 2 มิติอย่าง Cut the Rope 2 ถือว่าเล่นได้สมบูรณ์ ภาพคมชัด การแสดงผลลื่นไหล
ในส่วนของการเล่นเกม ทีมงานได้ทดลองเล่นเกม 3 มิติอย่าง Asphalt 8 และ Despicable Me: Minion Rush ก็พบว่าการแสดงภาพ 3 มิติทำได้ดี ตัวเกมสามารถปรับคุณภาพภาพให้เหมาะสมกับการเล่นบนเครื่องได้ แต่สำหรับเกม Minion Rush การควบคุมจะหน่วงเล็กน้อย ส่วนการทดสอบกับเกม 2 มิติอย่าง Cut the Rope 2 ถือว่าเล่นได้สมบูรณ์ ภาพคมชัด การแสดงผลลื่นไหล
นอกจากนี้ในส่วนของการดูหนัง ฟังเพลง dtac Phone Eagle 5.0 ก็ยังทำได้ดีครับ สามารถเปิด Youtube ชมได้อย่างไม่มีปัญหาอะไร ภาพลื่นไหลไม่มีสะดุด คุณภาพเสียงจากลำโพงหลังเครื่องถือว่าฟังได้ชัดเจน นอกจากนี้ Eagle 5.0 ยังสามารถเสียบหูฟังเพื่อใช้เป็นวิทยุได้ด้วย
และในเรื่องของอายุแบตเตอรี่ เมื่อทดสอบด้วย Geekbench 3 ใช้เวลา 6 ชั่วโมง 55 นาที ในการทดสอบเปิดจอ และปล่อยให้แบตเตอรี่จาก 100% ลดลงเหลือ 0% จนเครื่องดับไป ได้คะแนนการทดสอบแบตเตอรี่ไป 1845 คะแนน ก็ถือว่าเมื่อชาร์จจนเต็ม ก็สามารถใช้งานพันวันไปได้ไม่น่าอย่างไม่มีปัญหา
กล้อง ใช้ในชีวิตประจำวันได้
สเปกของกล้องใน dtac Phone Eagle 5.0 ตัวนี้ค่อนข้างเด่นกว่าสมาร์ทโฟนระดับ 3000 บาทตัวอื่นๆ ตามนี้
- กล้องหลัง 13 ล้านพิกเซลพร้อมไฟแฟลช และ Auto-focus
- กล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล
ส่วนคุณภาพภาพที่ออกมาจริงๆ ต้องถือว่าใช้งานในชีวิตประจำวันได้โอเคครับ กล้องโหมดอัตโนมัติทำงานได้ดี สามารถเก็บภาพในสถานการณ์ส่วนใหญ่ออกมาได้ ลักษณะภาพที่ได้ออกจะออกในโทนสว่าง ไม่ได้มี Contrast จัดมากนัก กล้องหน้าก็เก็บภาพได้ชัดเจนดี โทนสีโอเค แม้ว่า White-balance อาจจะโดนหลอกจนภาพสีเพี้ยนบ้างก็เถอะ ส่วนการเก็บภาพในที่แสงน้อย กล้องก็จะพยายามเปิดรับแสงนานทำให้ได้ภาพที่สว่างขึ้น แต่การถ่ายในพื้นที่แสงน้อยก็ต้องระวังเรื่องภาพเบลอครับ เพราะกล้องจะรับแสงนานได้แบบไม่เกรงใจมือคนถ่ายเลยทีเดียว
แอปกล้องที่ให้มานั้นมีโหมดกล้องหลากหลาย ทั้งการถ่ายตั้งเวลา เช่น 3 วินาทีจับ 1 ภาพไปเรื่อยๆ, ถ่ายพาโนราม่า, โหมดรวมหลายภาพเป็นภาพเดียว, โหมดบิ้วตี้สำหรับถ่าย Selfie ให้เนียนสะใจก็มี
โดยรวมก็ถือว่ากล้องโอเคสำหรับการใช้งานทั่วไปครับ แต่ถ้าถามว่าสมคำว่า 13 ล้านพิกเซลไหม อาจต้องปรับปรุงอีกนิดครับ เพราะเมื่อซูมภาพเข้าไปจะเห็นว่าภาพยังให้รายละเอียดไม่สูงนัก
ความสามารถพิเศษอื่นๆ
dtac Phone Eagle 5.0 มาพร้อมแอปหลายตัว ตัวที่เด่นๆ ก็เช่น Family Mode สำหรับปรับสมาร์ทโฟนให้เหมาะสำหรับเด็กและผู้สูงอายุ ได้หน้าจอที่มีปุ่มใหญ่สะใจ สามารถเลือกแอป เลือกรายชื่อติดต่อที่ใช้บ่อยๆ มาแสงให้เห็นชัดๆ ในหน้าแรกเลย
นอกจากนี้ก็มีแอปที่จำเป็นต้องใช้อย่าง LINE, facebook หรือแอปตัดต่อวิดีโอง่ายๆ ติดเครื่องมาให้เลย ไม่ต้องดาวน์โหลดเพิ่ม พร้อมแอปจากค่าย dtac อีกพอสมควร อย่าง Deezer, Watchever, ร่วมด้วยช่วยกันก็ติดตั้งมาด้วย โดยเฉพาะแอป Farm info ที่มีประโยชน์สำหรับคนไทยมาก เพราะสามารถบอกราคากลางของสินค้าทางการเกษตรได้ หรือจะเป็นราคารับซื้อที่เกษตรกรควรรู้ จะได้วางแผนการเกษตรได้