Our score
7.7รีวิว Vivo V20 SE
จุดเด่น
- จอ AMOLED สีสันสมจริง
- กล้องหน้าดีงาม ละมุนถูกใจสาว ๆ
- ร่างบาง น้ำหนักเบา
- สเปกคุ้มราคา
จุดสังเกต
- ฟีเจอร์วิดีโอกล้องหน้าน้อย
- เลือกได้แค่สองสี
- ลายนิ้วมือติดฝาหลังง่าย
-
ความลื่นไหล
7.5
-
หน้าจอ
7.5
-
กล้อง
8.0
-
แบตเตอรี่่
8.0
-
ดีไซน์
7.5
หลังจากที่ #beartai จัดคลิปรีวิวชุดใหญ่ไฟกะพริบไปกับ Vivo V20 และ V20 Pro เรียบร้อยแล้ว(ใครยังไม่ได้ดู คลิกลิงก์ดูก่อนได้นะ) วันนี้เรากลับมาพร้อมกับ Vivo V20 SE สมาร์ตโฟนน้องเล็กสุดในซีรีส์ มีจุดเด่นเรื่องกล้องถ่ายได้ละมุน สเปกคุ้ม ๆ ในราคาน่าคบหา ไม่ถึงหมื่น รายละเอียดเป็นอย่างไร วันนี้เรามา #beartai ให้อ่านกัน
สเปกหลัก ๆ ของ Vivo V20 SE
- หน้าจอ AMOLED ขนาด 6.44 นิ้ว ความละเอียด Full HD (1080p)
- ชิปเซต Qualcomm Snapdragon 665 (รองรับ 4G)
- แรม 8GB
- ความจุ 128GB (เพิ่ม MicroSD สูงสุด 1TB)
- กล้องหน้า 32MP
- กล้องหลัง Triple Camera ความละเอียด 48 MP + 8MP + 2MP
- แบตเตอรี่ 4,100 mAh
- ชาร์จเร็ว 33W (FlashCharge 2.0)
- ระบบปฏิบัติการ Android 10 + Funtouch OS 11
ดีไซน์ภายนอกของ Vivo V20 SE
เริ่มที่ดีไซน์การออกแบบของฝาหลัง Vivo V20 SE จัดว่าเรียบง่าย ไม่มีลวดลายใด ๆ มีเพียงอักษรโลโก้ vivo ที่เด่นชัดขึ้นมาจากมุมซ้ายล่างเท่านั้น ส่วนขอบข้างทั้งสองด้านก็เป็นแบบโค้งสามมิติ (3D Curve) แถมยังบางแค่ 7.83 มม. ช่วยให้การจับถือกระชับมือ
ฝาหลังมีให้เลือกสองสีคือ สีดำ (Gravity Black) และ สีฟ้า (Oxygen Blue) แน่นอนว่าความสวยงามก็จะต่างกัน โดยสีดำก็จะดูสุขุมนุ่มลึก แต่ก็แฝงมาด้วยความน่าค้นหา จากลูกเล่นไล่โทนมืดไปสว่างยามแสงตกกระทบ ส่วนสีฟ้าจะให้ความรู้สึกที่สดชื่น ปลอดโปร่งเหมือนกับสูดออกซิเจน จากการไล่เฉดสีจากฟ้าไปขาว
ส่วนวัสดุฝาหลังที่ใช้ก็ทำเอาเซอร์ไพรส์ หากมองด้วยตาเปล่า ความมันวาวแบบนี้ คิดว่าต้องเป็นกระจกแน่ ๆ แต่แท้จริงแล้วไม่ใช่ ฝาหลังของ Vivo V20 SE ทำจากพอลิเมอร์เกรดสูง (High Polymer) ข้อดีคือให้ความมันวาวคล้ายกระจก (รอยนิ้วมือติดง่ายเหมือนกัน) แต่มีน้ำหนักเบากว่า โดยน้ำหนักตัวอยู่ที่ 171 กรัม
รอบตัวเครื่องของ Vivo V20 SE
โดยรวมรอบตัวเครื่องของ Vivo V20 SE ก็เหมือนกับสมาร์ตโฟนทั่วไป ไม่ได้แตกต่างมากนัก มีปุ่มควบคุมเสียงและปุ่มปลดล็อกเครื่องอยู่ด้านข้าง ส่วนบนเป็นช่องใส่ซิมการ์ด 4G แบบสองซิม พร้อมกับใส่เมมโมรี่การ์ดเพิ่มได้สูงสุด 1TB เก็บรูปเก็บ เก็บวิดีโอได้จุใจไม่ต้องกลัวเต็ม
ในรุ่นนี้ยังคงมีช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. พร้อมกับแถมหูฟังมาให้ในกล่อง ด้านพอร์ต USB-C ก็รองรับการชาร์จไว แรงดันไฟ 33W (FlashCharge) เข้าแบตฯ 4,100 mAh เร็วทันใจ 0-62% ใน 30 นาที ความอึดของแบตฯ ก็พอสมควร ใช้งานทั่วไปได้จบวันแบบไม่ต้องลุ้น สำหรับเรื่องเสียงก็เป็นลำโพงตัวเดียว (Mono) เวลาฟังเพลงเสียงจะออกด้านล่างจุดเดียว จึงไม่ได้มีมิติเท่ากับลำโพงสเตอริโอ แต่คุณภาพเสียงทุกย่านก็ถือว่าดี ฟังเพลงเพลิน ๆ อยู่นะ
หน้าจอของ Vivo V20 SE
ถึงแม้จะเป็นสมาร์ตโฟนที่ราคาไม่สูงมาก แต่หน้าจอที่ให้มาถือว่าน่าสนใจ ใช้จอแบบแบน (Flat) ที่เป็น AMOLED ขนาด 6.44 นิ้ว แบบ 60Hz ที่แม้จะไม่ไม่ใช่จอนุ่ม แต่ก็แสดงสีสันตามมาตรฐาน NTSC ได้ถึง 103% เรียกว่าสีสันที่สดสมจริง
และข้อดีของจอแบบแบนคือจะไม่มีอาการจอลั่นเหมือนจอโค้ง เหมาะกับการใช้งานมือเดียว หรือการเล่นเกม นอกจากนี้ใต้จอยังมีเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ปลดล็อกทันใจ รวมถึงการปลดล็อกผ่านใบหน้าด้วย
กล้องหน้าของ Vivo V20 SE
มาถึงไฮไลต์ของ Vivo V20 SE อย่าง “กล้องหน้า 32MP” เชื่อว่าหลายคนคงอยากรู้ว่าภาพที่ออกมาจะเป็นอย่างไร งั้นเดี๋ยวเราให้ภาพเล่าเรื่องดีกว่า
ต้องบอกเลยว่ากล้องหน้าเรียกว่า “ละมุนมาก” จากการสร้างเอฟเฟกต์หน้าสวย ที่ช่วยปรับหน้าให้เรียบเนียน ดูเรียว และผิวโทนชมพู ฯลฯ จุดนี้น่าจะดูถูกอกถูกใจสาว ๆ สายเซลฟีเป็นแน่แท้ แถมรูปถ่ายยังมีคุณภาพคมชัด โทนสีดูสว่างสดใส อมชมพูหน่อย ๆ
และยามแสงอาทิตย์ลับขอบฟ้า การถ่ายในที่แสงน้อย ที่เหลือแต่แหล่งแสงสว่างจากหลอดไฟ ก็ยังคงคุณภาพการถ่ายไว้ดีอย่างคงเส้นคงวา หน้าไม่เป็นวุ้นให้ขุ่นใจ ดูอย่างนาวลิ้มในรูป ผิวเนียนเชียว
เชื่อว่าสายเซลฟี ต้องมีบ้างบางทีที่คิดท่าไม่ออก Vivo V20 SE ก็ตัวช่วยด้วย “ฟีเจอร์ท่าทาง” คอยไกด์ท่าถ่ายรูปด้วยเส้นประ มีหลากหลายสไตล์ ได้ทั้งหญิงและชาย จะถ่ายแบบคูล ๆ หรือแบ๊ว ๆ มีให้เลือกเต็มไปหมด
ส่วนถ้าใครอยากได้ภาพสไตล์ย้อมสี ก็มีฟิลเตอร์ให้เติมแต่งในแอปฯ ถ่ายรูปกว่า 20 รูปแบบ เลือกปรับระดับได้ด้วย
พูดถึงเรื่องการถ่ายวิดีโอ Vivo V20 SE ก็สามารถบันทึกได้สูงสุดที่ 1080p / 30 fps แม้จะไม่ชัดเท่ากับ 4K แต่ก็เพียงพอต่อการตั้งกล้องถ่ายสำหรับลง IG Story หรือ TikTok แล้วจ้า แต่ก็ยังมีจุดส่งเกตหนึ่งที่ต้องพูดถึงคือไม่มีฟีเจอร์กันสั่น Super Steady ทำให้การเดินถ่ายเซลฟีมีอาการภาพสั่นไหว
กล้องหลังของ Vivo V20 SE
ดูต่อกันที่กล้องหลัง Vivo V20 SE รุ่นนี้มีกล้องหลัง 3 เลนส์ การวางตัวเป็นแนวตั้ง ประกอบด้วย เลนส์หลัก 48MP | เลนส์มุมกว้าง 8MP | เลนส์จับระยะ 2MP สำหรับทำเอฟเฟกต์หน้าชัดหลังละลาย ส่วนภาพถ่ายที่ออกมาจะเป็นอย่าง ให้ภาพเล่าเรื่องเหมือนเดิมจ้า
ภาพจากเลนส์หลัก 48MP
สำหรับเลนส์หลัก 48MP กับโหมดภาพถ่าย (ธรรมดา) ต้องบอกเลยว่าทำออกมาได้ดี ความคมชัดเยี่ยม เก็บรายละเอียดได้ครบถ้วน ทั้งตัวแบบและฉากหลัง ส่วนโทนสีผิวและสีของวัตถุต่าง ๆ จะมีการปรับแต่งให้ดูสดใส ตามสไตล์ Vivo
แต่ถ้าไม่ต้องการฉากหลังก็เปิด “โหมดโบเก้” ที่ทำเอฟเฟกต์ละลายฉากหลังให้เป็นวุ้นได้ โดยจะมีการใช้เลนส์จับระยะ 2MP เข้าช่วยในการถ่าย คุณภาพที่ออกมาถือว่าเนียนตา แต่ถ้าซูมเข้าไปดูก็จะเห็นว่าขอบผม หรือขอบเสื้อยังเก็บรายละเอียดได้ไม่ดีเท่าที่ควร จากที่ทดลองใช้แนะนำให้หาฉากหลังที่ไม่ซับซ้อน และตั้งค่าแค่ F/4 เวลาถ่าย จะช่วยให้การเก็บขอบของนางแบบทำได้ดีขึ้น
สำหรับการซูม Vivo V20 SE สามารถซูมภาพจากเลนส์หลัก 48MP แบบ Optical ได้ 2 เท่า และซูมแบบ Digital ได้สูงสุด 10 เท่า โดยคุณภาพระยะที่หวังผลได้คือ 1-2 เท่า แต่ถ้าเลยจากนั้นภาพก็จะแตกขึ้นเรื่อย ๆ ดังที่เห็นในภาพ (ภาพแรก x1 | ภาพสอง x2 | ภาพสาม x5 | ภาพสี่ x10)
ภาพจากเลนส์มุมกว้าง 8MP
ถัดมาดูภาพจาก เลนส์มุมกว้าง 8MP ของ Vivo V20 SE กันบ้าง เลนส์ตัวนี้สามารถเก็บรายละเอียดภาพคนและฉากหลังได้ดี สีสันสดมาก ตัวแบบเวลาถ่ายย้อนแสงหน้าไม่ดำ เพราะมีฟีเจอร์ HDR แถมยังแก้ไขความบิดเบี้ยวของภาพ ทำให้ภาพไม่บวมตามขอบภาพ (สามารถเปิด/ปิดการแก้ไขได้)
นอกจากนี้เลนส์มุมกว้าง 8MP ยังเป็นเลนส์มาโครในตัวด้วย สามารถโฟกัสได้ใกล้ ๆ ได้เลย จะถ่ายดอกไม้ หรือความสวยงามของธรรมชาติก็ให้อารมณ์ที่แตกต่างไปอีกแบบ ระดับความคมชัดแม้จะไม่ได้มากนัก แต่ก็เพียงพอสำหรับอัปโหลดขึ้นโซเชียลมีเดียได้
พูดถึงเรื่องการถ่ายวิดีโอของกล้องหลัง Vivo V20 SE ตัวเลนส์หลัก 48MP สามารถถ่ายวิดีโอได้สูงสุดอยู่ที่ 4K / 30fps แต่ถ้าเป็นกล้องมุมกว้างจะถ่ายได้อยู่ที่ 1080p / 30fps เท่านั้นและถ้าจะเปิดโหมดเพิ่มความงามขณะถ่ายก็ปรับความละเอียดไว้ที่ 720p / 30fps อย่างเดียว อันนี้ถือว่าเป็นข้อจำกัดที่จำเป็นต้องพูดถึง
ประสิทธิภาพของ Vivo V20 SE
ด้านประสิทธิภาพ Vivo V20 SE ก็ถือว่าอยู่ในระดับเกือบกลาง ๆ ด้วยชิปเซต Qualcomm Snapdragon 665 ที่ทำผลทดสอบ Geekbench 5 แบบ Single-Core ได้อยู่ที่ 315 คะแนน และ Multi-Core อยู่ที่ 1,413 คะแนน
ส่วนด้านกราฟิกจาก 3DMark ในแพ็ก Sling Shot Extreme ผลอยู่ที่ 1,148 คะแนน ส่วนแพ็ก Wild Life อยู่ที่ 216 คะแนน แม้จะไม่สูงมาก แต่ก็เพียงพอกับการใช้งานในชีวิตประจำวัน อย่างการดู Netflix, YouTube, Facebook ได้แบบลื่นไหล
จากการทดสอบเล่นเกม Genshin Impect ที่ขึ้นชื่อว่ากราฟิกอลังการ และก็กินสเปกแบบมโหฬาร ก็สามารถเล่นได้ลื่น ๆ โดยตั้งค่าทุกอย่างต่ำสุด พร้อมกับตั้งค่าที่ 60 fps แต่ถ้าปรับภาพสูง + 60fps อันนี้จะมีอาการกระตุกอย่างเห็นได้ชัด ส่วนเกมฮิตติดกันทั่วบ้านทั่วเมืองอย่าง ROV อันนี้เล่นได้สบาย ๆ 60 fps ตลอดเกม ด้วยการตั้งค่ากราฟิกระดับสูง รวมถึงเกมที่เพิ่งเปิดตัวสด ๆ ร้อน อย่าง League of Legends ก็ยังลื่น ๆ เหมือนกันเลย
ด้านแรมและรอม Vivo V20 SE ก็จัดมาให้แบบเต็ม ๆ คือ 8GB + 128GB โดยเราได้ทดสอบความเร็วในการอ่านเขียนข้อมูลด้วย AndroBench ผลปรากฏว่า การอ่านอยู่ที่ 511 MB/s ส่วนการเขียนอยู่ที่ 223 MB/s
สำหรับระบบปฏิบัติการ Vivo V20 SE ยังคงใช้ Android 10 ที่ครอบทับด้วย FunTouch 11 OS จุดเด่นคือความเรียบง่าย สบายตา พร้อมกับ AI จัดการรูปภาพ และ Ultra Game Mode สำหรับเล่นเกม เท่านี้ก็ช่วยให้การใช้งานสะดวกสบายและลื่นไหลแล้ว แต่ล่าสุดเห็นข่าวว่ากำลังจะเปลี่ยนชื่อเป็น Origin OS ในช่วงปลายเดือน พ.ย. นี้ พร้อมกับเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ ๆ เข้ามาคงต้องรอดูกันว่าจะมีอะไรน่าสนใจเพิ่มเข้ามาบ้าง
ราคาค่าตัวของ Vivo V20 SE
เชื่อว่าหลายคนคงรอลุ้นราคาของ Vivo V20 SE จะอยู่ที่เท่าไร จัดไป! ค่าตัวอยู่ที่ 8,990 บาท ถือว่าเป็นมือถือตัวเริ่มต้นที่น่าสนใจไม่น้อย ความสามารถของกล้องหน้าและกล้องหลังแบบนี้น่าจะถูกใจสาว ๆ หลายคน รวมถึงสเปกที่ให้มาก็เพียงพอกับการใช้งาน และยังเล่นเกมได้ เอาเป็นว่าใครสนใจก็สามารถหาซื้อได้ตามร้านค้าตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศได้เลย
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส