Our score
8.8Sony SRS-RA3000
ลำโพงแนวคิดใหม่ที่ทั้งรักและเกลียด
Sony SRS-RA3000 เป็นลำโพงที่เก่งและฉลาดอย่างที่ลำโพงต่อไวไฟควรจะทำได้ มีลำโพงนี้ทำให้เราเปิดเพลงฟังได้บ่อยขึ้น สามารถปรับปรุงเสียงเพลงทั่วไปให้ก้องกังวานไปทั่วห้องได้ แต่เพลงที่บันทึกในแบบ 360 องศากลับมีทั้งเพลงที่ทำออกมาได้ดี และเพลงที่มิกซ์ใหม่ไม่ดี
จุดเด่น
- เป็นลำโพง Wi-Fi ที่แค่เสียบปลั้กค้างไว้ก็พร้อมใช้งานตลอดเวลา พอจะฟังก็เปิดแอปฟังเพลงมาเลือกลำโพงได้เลย ใช้ได้ทั้ง Spotify และ Tidal
- คุณภาพเสียงดี สามารถแปลงเพลงสเตอริโอทั่วไปให้กลายเป็นเพลงที่มีมิติ ปูเสียงไปเต็มห้องได้ ไม่ว่าจะอยู่ตรงไหนในห้องก็ได้ยินเสียงเป็นมิติ
- ดีไซน์สวยงาม วางเนียนในห้องได้ไม่สะดุดตา มี 2 สีให้เลือก พร้อมทนความชื้นด้วย
- สั่งงานง่ายด้วยปุ่มควบคุมบนลำโพง หรือจะสั่งผ่านแอปก็ได้
จุดสังเกต
- การเล่นเพลง 360 Reality Audio ผ่านลำโพงนี้ คุณภาพเสียงยังไม่แน่นอน ขึ้นอยู่กับการมิกซ์เป็นเสียง 360 องศาของต้นฉบับ
- ไม่มีแบตเตอรี่ในตัว ใช้เป็นลำโพงบ้านเท่านั้น ไม่ใช่พกพาไปฟังได้ทุกที่
- ไม่มีไมโครโฟน ใช้สั่งงาน Google Assistant ในตัวไม่ได้ แต่ใช้เป็นลำโพงปลายทางในระบบ Google Assistant ได้
- ไม่รองรับเพลงระดับ Hi-Res ไม่รองรับ Apple AirPlay
- รองรับ Bluetooth Codec แค่ SBC และ AAC ไม่รองรับ LDAC (แต่ปกติเราก็ไม่ได้ใช้ Bluetooth กับลำโพงนี้เท่าไหร่ ฟังผ่าน Wi-Fi เป็นหลัก)
-
คุณภาพเสียง
8.5
-
การออกแบบ
9.5
-
ลูกเล่นพิเศษ
9.0
-
ความคุ้มค่า
8.0
ทุกวันนี้ตลาดลำโพงในบ้านแข่งกันดุเดือดมากนะครับ ทั้งแข่งกันเสียงดี แข่งกันอัจฉริยะ แข่งกันที่ดีไซน์ ล่าสุด Sony ได้เริ่มวางขาย SRS-RA3000 ลำโพงบ้านที่เน้นให้เสียง 360 องศา กระจายให้ครอบคลุมทั้งห้องในไทยเรียบร้อย เราจึงได้โอกาสเทสต์ลำโพงเทคโนโลยี 360 Reality Audio ที่โซนี่ตั้งใจผลักดันให้ดูกันครับว่าดีแค่ไหน
360 Reality Audio เทคโนโลยีเสียง 360 องศาคืออะไร
เทคโนโลยี 360 Reality Audio หรือที่เรามักจะย่อกันว่า 360RA เป็นเทคโนโลยีของ Sony ที่พัฒนาจากมาตรฐาน MPEG-H 3D audio ครับ โดยอาศัยเทคโนโลยี object-based spatial audio มาช่วยบันทึกข้อมูลมิติเสียง และสร้างใหม่ผ่านลำโพงหรือหูฟังที่รองรับ 360RA ซึ่งสามารถให้มิติของเสียงได้แบบ 360 องศาแม้ว่าจะไม่ได้วางลำโพงอยู่รอบตัว
โดยการเล่นเสียงแบบ 360RA ในปัจจุบัน นอกจากหูฟังหรือลำโพงของเราจะต้องรองรับเทคโนโลยีนี้แล้ว ก็ต้องใช้เพลงที่มีข้อมูลของ 360RA อยู่ในเพลงด้วยครับ ซึ่งปัจจุบันในไทยจะหาฟังได้จาก Tidal ที่สมัครแพ็กเกจ HiFi ขึ้นไปเท่านั้นครับ และตอนนี้ยังไม่มีภาพยนตร์เรื่องไหนที่รองรับ 360RA ที่ให้เสียง 360 องศาผ่านหูฟังหรือลำโพงแบบ RA3000 ได้นะครับ
เจาะลึกตัวลำโพง Sony SRS-RA3000
งานออกแบบของ Sony SRS-RA3000 นั้นเรียบง่ายครับ ดีไซน์เป็นทรงกระบอกที่มีแถบสีทองอยู่ 3 แถบรอบลำโพง ซึ่งจริงๆ แล้วลำโพงรุ่นนี้จะมี 2 สีคือสีเทาและสีดำ-ทองครับ แต่ในประเทศไทยจะมีขายแค่สีดำเท่านั้น ซึ่งก็เป็นสีที่ดูดีเหมาะสำหรับการใช้งานในบ้านนะ แถมยังมีคุณสมบัติทนความชื้นด้วย ก็น่าจะเอาไปใช้ในห้องน้ำได้ไม่มีปัญหา
ภายในของ Sony SRS-RA3000 นั้นประกอบไปด้วยลำโพง Beam Tweeter 2 ตัวที่อยู่ด้านล่างของแถบสีทอง 2 แถบด้านหน้าครับ ให้เสียงแหลมที่พุ่งขึ้นสูง แยกมิติ 2 ด้านเพื่อสร้างสนามเสียงที่โอบล้อมในห้อง นอกจากนี้ก็มีลำโพงแบบ Full Range อีก 1 ตัวอยู่ตรงกลางที่ให้เสียงออกด้านบน โดยผ่านแผ่น Omni Diffuser ที่ติดตั้งอยู่ด้านบนลำโพง เพื่อกระจายเสียงออกไปรอบลำโพง ส่วนเสียงเบสนั้นได้มาจาก Passive Radiators 2 ตัวที่ติดตั้งอยู่ด้านข้างลำโพงครับ
ด้านบนของลำโพงยังมีปุ่มควบคุมแบบสัมผัสอยู่ด้วย ซึ่งสามารถเล่นเพลง-หยุดเพลง เร่ง-ลดเสียง เปิด-ปิดลำโพง หรือกดเพื่อเชื่อมต่อกับ Bluetooth หรือปุ่มรูปตัวโน้ตจะเปิดใช้โหมดเสียง Immersive Audio Enhancement เพื่อเปลี่ยนเพลงสเตอริโอธรรมดาให้มีเสียงโอบล้อมรอบห้องก็ได้ ซึ่งถ้าโหมดนี้ทำงานไฟตรงนี้จะเป็นสีขาว แต่ถ้าเปิดเพลงแบบ 360 Reality Audio จริงๆ ไฟตรงนี้จะเป็นสีเขียวให้ผู้ใช้แยกออกได้ง่ายๆ ครับ
นอกจากนี้ด้านหลังเครื่องจะมีช่อง AUX 3.5 mm อยู่สำหรับต่อเสียงภายนอกแบบมีสายเข้าลำโพงโดยตรงครับ ก็สำหรับคนที่ต้องการเอาไปต่อกับเครื่องเล่นเพลงแบบมีสายต่างๆ นะครับ
การใช้งาน Sony SRS-RA3000
ลำโพงรุ่นนี้ถือว่าเป็นลำโพงบ้าน ไม่มีแบตเตอรี่ภายในตัว ต้องเสียบปลั้กเพื่อใช้งานตลอดเวลานะครับ และเน้นหนักที่ความเป็นลำโพง Wi-Fi มากกว่า Bluetooth ซึ่งใครที่ต้องการลำโพงสำหรับพกพาไปใช้นอกบ้าน คงต้องบอกว่า Sony RA3000 คงไม่ใช่ทาง แต่ถ้าใครต้องการลำโพงที่วางประจำจุดในบ้าน เป็นลำโพงที่พร้อมใช้งานตลอดเวลา กดมือถือแล้วเปิดเพลงไปออกลำโพงได้ตลอดเวลาที่อยู่บ้าน ก็ต้องบอกว่าคุณเหมาะกับลำโพงรุ่นนี้แล้ว
เพราะหลังจากที่คุณเซ็ตอัป Sony RA3000 เข้ากับไวไฟในบ้านผ่านแอป Google Home มันก็พร้อมใช้งานตลอดเวลาครับ ไม่ว่าคุณจะอยู่ไหนในบ้าน ก็สามารถเปิดเพลงผ่าน Spotify หรือ Tidal แล้วเลือกให้ออกที่ลำโพงได้ทันที ไม่ต้องเดินมากดเปิดลำโพงด้วยซ้ำ (แต่ไม่รองรับ Apple AirPlay นะ) แม้ลำโพงจะอยู่ในโหมด Standby มันก็สามารถเปิดขึ้นมาทำงานได้เมื่อเราสั่งเปิดเพลงครับ โดยลำโพงรุ่นนี้รองรับทั้ง Spotify Connect และ Chromecast Audio เพื่อให้เสียงผ่านไวไฟไปออกได้ รวมถึงเราสามารถสั่งเปิดเพลงผ่าน Google Assistant ได้ โดยพูดสั่งผ่านลำโพงอัจฉริยะอื่นๆ หรือสมาร์ตโฟนมาเปิดที่ Sony RA3000 ก็ได้ แต่ที่ตัวลำโพงไม่มีไมโครโฟนสำหรับรับคำสั่งเสียงนะครับ มันจึงเป็น Google Assistant ในตัวไม่ได้
นอกจากจะใช้แอป Google Home เพื่อจัดการลำโพงในฐานะอุปกรณ์ IoT ในบ้านได้แล้ว ตัวลำโพงยังสามารถใช้แอป Sony Music Center เพื่อควบคุมได้ โดยสามารถปรับ EQ, เปิด-ปิดระบบปรับแต่งเสียง ปรับระบบ Auto-Volume หรือปรับตัวเลือกพลังงานให้ลำโพงเข้าโหมด Standby เองก็ได้
เมื่อฟังก์ชันเสียงผ่านไวไฟจัดเต็มมาขนาดนี้ ฟังก์ชันเสียงผ่าน Bluetooth จึงเป็นเหมือนของแถม เพราะรองรับ Codec เสียงแค่ SBC และ AAC เท่านั้น ไม่มี LDAC รูปแบบเสียงคุณภาพสูงของ Sony ด้วยซ้ำ ซึ่งเอาจริงๆ ถ้าอยู่ในบ้านเราเอง จะไม่ต้องใช้ Bluetooth เลยครับ เพราะเสียงผ่านไวไฟนั้นให้คุณภาพดีกว่า ซึ่งเราจะได้ใช้ Bluetooth ก็น่าจะเป็นจังหวะที่เราต้องย้ายลำโพงออกไปนอกสถานที่ที่ไม่มีไวไฟ แล้วต้องการเปิดเพลงเร็ว ๆ โดยไม่ต้องเซ็ตอัปไวไฟใหม่เท่านั้นแหละ
เสียงของ Sony SRS-RA3000
เรื่องของเสียงนี้เป็นประเด็นที่พูดยากที่สุดในรีวิวเจ้า RA3000 แล้วครับ เราฟังลำโพงตัวนี้มานานนับเดือน ใช้จนมั่นใจแหละว่าเปิดนานพอจนได้เสียงของลำโพงจริง ๆ หลังการเบิร์นลำโพงแล้ว ต้องบอกว่าเป็นความสัมพันธ์แบบทั้งรักและเกลียดของแท้เลย ด้วยความที่โซนี่วางลำโพงนี้เป็นผลิตภัณฑ์ในบ้านตัวแรกที่ใช้ระบบเสียง 360 Reality Audio เต็มรูปแบบ เราก็ควรจะสมัคร Tidal Hi-Fi แล้วฟังเพลงที่มิกซ์แบบ 360RA ผ่านลำโพงตัวนี้แล้วฟินไปกับเสียงใช่ไหมครับ แต่เอาเข้าจริงแล้วคุณภาพเสียงเพลงแบบ 360 องศาผ่าน RA3000 ยังแกว่ง ๆ อยู่
ส่วนหนึ่งเพราะว่าเพลงแบบ 360RA แต่ละเพลงนั้นมีคุณภาพแตกต่างกันพอสมควรเลย เพลงอย่าง Holiday ของ Lil Nas X หรือเพลงของ Pentatonix ฟังแบบ 360 องศาออกมาได้เพราะมาก เสียงมีมิติ ซอกแซกยิบยับ ได้ความหนักแน่นอยู่ แต่กลับกันเพลงของ Dua Lipa ในแบบ 360 องศากลับให้เสียงที่ล่องลอย โปร่งฟุ้ง เบสจางหายไปเยอะเลย ซึ่งหลายเพลงในแบบ 360 องศาจะเป็นแบบนี้ครับ อันนี้คือความสัมพันธ์แบบเกลียดกับลำโพงตัวนี้
แต่จุดที่เรารักมากเลยคือการฟังเพลงปกติที่มิกซ์มาในแบบสเตอริโอ แล้วใช้โหมดเสียง Immersive Audio Enhancement เพื่อขยายมิติเสียงให้ฟูเต็มห้อง กลับให้เสียงที่น่าพอใจมาก เราทดสอบกับเพลง Don’t Start Now ของ Dua Lipa เทียบเพลงมิกซ์ดั่งเดิมกับมิกซ์แบบ 360 องศาผ่าน RA3000 ปรากฎว่าเสียงดั่งเดิมแบบสเตอริโอให้เนื้อเสียงที่มีน้ำมีนวล ไม่แห้งเหมือนเพลงแบบ 360 องศา
โชคดีที่เพลงในโลกนี้ทั้งหมดเป็นแบบสเตอริโอครับ เราไม่ได้มีเพลง 360 องศาให้เลือกฟังเยอะเท่าไหร่ เพราะฉะนั้นถ้าพูดในเชิงว่าเราซื้อ Sony SRS-RA3000 ไปเพื่อเปิดเพลงทั่วไปแบบสเตอริโอแล้วให้ลำโพงปรับเสียงให้ฟูขึ้น ลำโพงตัวนี้ก็จะให้เสียงดีคุ้มค่าตัว คุณสามารถวางลำโพงตัวนี้ไว้มุมห้องหรือกลางห้อง ก็ให้เสียงมีมิติไปทั่วห้องได้ วางตัวเดียวก็เอาอยู่
เคาะแนวเสียงของ Sony SRS-RA3000
ถ้าฟังจากเพลงสเตอริโอปกติพร้อมเปิด Immersive Audio Enhancement จะให้เสียงที่โปร่งกว้างมากจนสามารถเติมเต็มห้อง อยู่ตรงไหนก็ห้องก็รู้สึกว่าเสียงยังมีมิติ ไม่ใช่เสียงแบบโมโนเหมือนลำโพงบ้านแบบชิ้นเดียวทั่วไป ส่วนเสียงเบสจัดว่ามาเยอะสร้างแรงกระแทกได้พอดี ๆ สำหรับการฟังในห้องกว้าง ๆ ส่วนการฟังในห้องแคบ ๆ นั่งฟังใกล้ลำโพงจะให้มิติที่ทึบกว่าการฟังห่าง ๆ ลำโพงในห้องกว้างหน่อย สรุปแล้วลำโพงนี้น่าจะเหมาะสำหรับการใช้งานในบ้านโปร่ง ๆ ห้องกว้าง ๆ ที่มีระยะฟังห่างจากลำโพงสัก 2-3 เมตรครับ
แต่ Sony SRS-RA3000 ยังไม่รองรับเสียงระดับ Hi-Res นะครับ ถ้าเปิด Tidal แล้วเล่นเพลงคุณภาพระดับ Master ที่เป็นไฟล์ Hi-Res เวลาเล่นจริงมันก็จะปรับกลับมาเหลือคุณภาพระดับ Hi-Fi หรือเท่า CD เพลงทั่วไปเท่านั้น โดยเสียงระดับ Hi-Res โซนี่จำกัดไว้ว่าต้องเป็นรุ่นพี่ RA5000 ขึ้นไปครับ เพียงแต่ว่ารุ่นใหญ่นี้ไม่ได้ขายในไทยเท่านั้นเอง
สรุป Sony SRS-RA3000 ดีน่าจัดไหม?
เราค่อนข้างชอบลำโพงโซนี่ตัวนี้นะครับ มันเหมาะมากสำหรับการประจำการอยู่ในบ้าน พร้อมเปิดเพลงให้บ้านมีชีวิตชีวาได้ตลอด ไม่จำกัดว่าต้องนั่งฟังเพลงอยู่หน้าลำโพง แต่อยู่ตรงไหนก็ของห้องก็ได้ยินเพลงที่ดี มีมิติ แถมเปิดง่ายด้วย แค่เลือกลำโพงจากในแอปเล่นเพลงก็พร้อมใช้ทันที ไม่ต้องเดินไปเปิดสวิตช์ก่อนเหมือนลำโพง Bluetooth ทั่วไป
โดย Sony SRS-RA3000 ตั้งราคาเปิดตัวในไทยไว้ที่ 10,990 บาท ก็ไม่ถูกไม่แพงจนเกินไป ซื้อลูกเดียวก็จบ ไม่ต้องซื้อ 2 ตัวทำเป็นสเตอริโอครับ
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส