Play video

ถ้าคิดถึงโน๊ตบุ๊กสำหรับคอนเทนต์ครีเอเตอร์ และการทำงานแบบมัลติทาสก์ที่ไม่เหมือนใคร ก็คงหนีไม่พ้นโน๊ตบุ๊ก 2 หน้าจอในซีรีส์ ASUS ZenBook Duo ซึ่งทาง ASUS เคยเปิดตัวมาแล้วในเจเนอเรชันก่อนหน้าที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก ในรุ่น ZenBook Duo UX481 ค่ะ

และในปี 2021 นี้ ทาง ASUS ก็กลับมาเปิดตัว ZenBook Duo 14 โน๊ตบุ๊ก 2 จอเจเนอเรชันใหม่ในรหัส UX482 ที่มาพร้อมซีพียู 11th Generation Intel Core, การ์ดจอ Intel® Iris® Xe และผ่านมาตรฐาน Intel® Evo™ Platform ด้วยนะ ร่ายมาซะยาวขนาดนี้ จะน่าซื้อแค่ไหน เหมาะกับสายครีเอเตอร์อย่างไร วันนี้เมย์รีวิวให้ดูค่ะ

สเปก

สิ่งแรกที่ทำให้เหมาะกับสายครีเอเตอร์ก็คือ “สเปก” ASUS ZenBook Duo 14 รหัส UX482 รุ่นนี้ใช้ซีพียู Intel® เจเนอเรชัน 11 รุ่นใหม่ล่าสุด อย่าง Core™ i5-1135G7 พร้อมมีการ์ดจอประสิทธิภาพสูง Intel® Iris® Xe กับชิปเซ็ตสำคัญ ๆ เช่น AI, Wi-Fi6, Thunderbolt 4 รวมไว้อยู่ในชิปตัวเดียวค่ะ

จุดนี้ทำให้ตัวซีพียูประหยัดไฟ อีกทั้งยังมีฟีเจอร์ AIPT (ASUS Intelligent Performance Technology) ที่ช่วยจัดการประสิทธิภาพการทำงานให้เหมาะสม ทำให้แบตอึด เมย์ลองใช้พิมพ์งาน ฟังเพลง ดู YouTube แบตก็อยู่ได้ราว ๆ 6-10 ชั่วโมงเลย

เรื่องประสิทธิภาพก็ไม่ธรรมดา เมย์ทดสอบความสามารถของซีพียู ด้วย Geekbench 5 ก็ได้คะแนนแบบ Multi-Core ไปถึง 5,294 คะแนน สำหรับการ์ดจอก็ทดสอบผ่าน 3DMark Wild Life ได้อยู่ที่ 9,034 คะแนน ถือว่าคะแนนสูงสำหรับโน๊ตบุ๊กสายทำงานเลย

แรมเครื่องนี้ก็ให้มามากถึง 16GB ช่วยให้เราเปิดแท็บ Microsoft Edge และเปิดหลาย ๆ โพรแกรมพร้อมกัน ได้แบบไม่มีอาการหน่วงให้เห็นเลย นอกจากนี้แรมเยอะ ๆ ก็เพียงพอกับโปรแกรมสายครีเอเตอร์ เช่น Adobe Premiere Pro เลยค่ะ ไม่มีอาการเด้งออกให้เห็นเลย

ความจุตัวเครื่องเขาก็ให้มาเป็นแบบ SSD NVMe M.2 ขนาด 512GB ค่ะ อันนี้เมย์ทดสอบด้วย CrystalDiskmark การอ่านอยู่ที่ 3551 เมกะไบต์ต่อวินาที และการเขียนอยู่ที่ 2964 เมกะไบต์ต่อวินาที ผลที่ออกมาก็ช่วยให้การโอนถ่ายไฟล์ หรือโยกย้ายไฟล์หนัก ๆ ทำได้รวดเร็วเลย และอีกสิ่งหนึ่งที่ต้องพูดถึงเลยก็คือ ASUS ZenBook Duo 14 รุ่นนี้ ผ่านมาตรฐาน Intel® Evo™ Platform มาด้วยน้า สังเกตจากสติกเกอร์ตรงนี้ได้เลย

กว่าจะได้สติกเกอร์มาแบบนี้ ต้องผ่านข้อกำหนดมากมายที่ Intel กำหนดไว้ค่ะ เช่น ต้องใช้ซีพียู i5 หรือ i7 เจเนอเรชันที่ 11 แบตเตอรี่อึดอยู่ได้ 9 ชั่วโมง มีระบบชาร์จเร็ว เปิดแล้วต้องพร้อมใช้ใน 1 วินาที มีฟีเจอร์ด้าน AI ในตัว รองรับ Thunderbolt 4 , Wi-Fi 6, รองรับการทัชหน้าจอ, รองรับการใช้ปากกา และอีกหลายข้อ เอาเป็นว่าถ้ามีสติกเกอร์นี้แปะมา มั่นใจได้ว่าโน๊ตบุ๊กรุ่นนี้ดีทั้งประสิทธิภาพและความครบเครื่องในตัวเดียวเลยค่ะ!

หน้าจอ

หน้าจอของ ASUS ZenBook Duo 14 ใช้ดีไซน์แบบขอบบางทั้ง 4 ด้านเลย สำหรับจะมีกล้องหน้า IR Camera เอาไว้ปลดล็อกเครื่องด้วยใบหน้าแบบนี้ค่ะ หรือถ้าใครจะประชุมออนไลน์ คุณภาพกล้องหน้าและไมโครโฟนที่อยู่ด้านข้างก็ถือว่าเพียงพอกับการใช้

มาดูจุดเด่นของรุ่นนี้อย่างระบบสองหน้าจอกันบ้าง สำหรับจอหลักมีขนาดอยู่ที่ 14 นิ้ว เป็นจอกระจกเป็นแบบ Anti-glare ตัดแสงสะท้อนจากหลอดไฟเวลาใช้งานในออฟฟิศได้ดี ด้านความละเอียดก็อยู่ที่ Full HD 1920 x 1080 การแสดงสีหน้าจอก็ตรงมากค่ะ เป็นแบบ sRGB 100% เลย จอนี้จึงเหมาะกับการใช้งานจริงจังด้านกราฟิกเลยค่ะ หรือถ้าเอาไปดูหนังก็ฟินตาสีสันสมจริง

ด้านจอที่ 2 หรือ ScreenPad Plus ในรุ่นนี้ก็มีขนาด 12.6 นิ้ว ความพิเศษคือ เมื่อเปิดหน้าจอขึ้นมาจะมีกลไกยกตัวเครื่องขึ้น 4.5 องศา แบบ ErgoLift แบบนี้เลย จุดนี้ช่วยให้การพิมพ์สบายมือ

นอกจากนี้ยังมีกลไก ยกจอที่สองขึ้นอีก 7 องศาแบบนี้ด้วยนะ ล้ำมากเลย ข้อดีคือช่วยลดแสงสะท้อน ทำให้ให้มองเห็นจอได้ชัดเจน และยังเพิ่มช่องรับอากาศเย็นเข้าไปในตัวเครื่อง ทำให้ระบายความร้อนได้ดีขึ้นถึง 49% อันนี้ทาง ASUS เรียกว่าระบบระบายความร้อน Active Aerodynamic System Plus (AAS Plus)

แล้วทั้ง 2 หน้าจอ เรายังใช้นิ้วทัชสกรีนได้ รวมถึงวาดเขียนด้วยปากกา ASUS Pen ที่เขาแถมมาให้ได้ด้วยนะ พูดถึงสัมผัสการวาดเขียนก็ดีเลยค่ะ ลงน้ำหนักมือได้ 4096 ระดับ วาดรูปเพลิน ๆ เลยค่ะ
ด้านซอฟต์แวร์ภายในที่ใช้ควบคุมหน้าจออย่าง ScreenXpert 2.0 ก็ต้องบอกว่ามีการอัปเกรดให้ใช้งานสะดวกขึ้น และตอบโจทย์ขึ้นค่ะ เช่น Faster Access เมย์สามารถเรียกหน้าเมนูควบคุมได้ง่าย ๆ เลื่อนให้ไปอยู่ตรงไหนก็ได้ และใครต้องการย้ายหน้าต่างไปมาก็ทำได้สบาย ๆ ด้วย Windows Flick ใช้นิ้วปัดลง หรือสะบัดขึ้นแบบนี้เลย

รวมถึงมี TASK GROUP ที่อัปเกรดมาใหม่ ให้เซตง่ายกว่าเดิมค่ะ การเรียกใช้งานก็ง่าย บันทึกไว้ได้สูงสุด 4 กลุ่ม อันนี้เหมาะกับคนทำงาน Multi tasking หรือคนที่ต้องทำหลาย ๆ อย่างพร้อมกัน

ส่วนฟีเจอร์เด็ดที่เมย์คิดว่ามีประโยชน์มาก ๆ ในการใช้หน้าจอนี้คือการทัชด้วย 3 นิ้วเพื่อเปลี่ยนจอให้กลายเป็นทัชแพด สำหรับคนที่ต้องการใช้ทัชแพดใหญ่ ๆ อย่างกราฟิกดีไซน์เนอร์ค่ะ

นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ Control Panel ที่เปลี่ยนหน้าจอให้กลายเป็นแผงควบคุมลัด สำหรับปรับค่าในโปรแกรมตระกูล Adobe อย่าง Photoshop, Lightroom Classic, After Effect และ Premiere Pro

เวลาเราเปิดโปรแกรมขึ้นมาฟีเจอร์นี้ก็จะถูกเรียกใช้ขึ้นมาโดยอัตโนมัติเลย เวลาจะปรับค่าก็สะดวกแบบนี้หมุน ๆ เลื่อน ๆ ได้เลย ซึ่งสะดวกกว่าการไปเลื่อนปรับบนหน้าจอเยอะเลย

หรือถ้าไม่ถนัดก็สามารถปรับแก้ไขแผง ให้เป็นในรูปแบบของเราได้เลยค่ะ โดยปุ่มแบ่งออกเป็น แบบเลื่อน แบบหมุน แบบกด และตั้งเลยค่ะ เมย์เชื่อว่าคนทำงานสายนี้ต้องอยากได้แน่ ๆ เลย ลำโพงรุ่นนี้ให้มาเป็นของ Harman Kardon ตำแหน่งอยู่ใต้เครื่องค่ะ

คีย์บอร์ด

รุ่นนี้เป็นแบบ Full Size ให้สัมผัสเวลาพิมพ์ที่เด้งดีนะ เมย์ชอบ แต่คีย์บอร์ดตรงนี้ต่ำไปหน่อย เวลาวางมือกับโต๊ะแล้วไม่ค่อยสบายเท่าไร แต่เขาก็แถมฐานรองโน๊ตบุ๊คมาให้เลย แปะกับใต้เครื่องแบบนี้ ด้านทัชแพดอันนี้จะแปลกหน่อยเพราะอยู่ทางขวา และมีปุ่มคลิกขวาคลิกซ้ายแยกออกมาอาจจะไม่ถนัด ต้องปรับตัวสักหน่อย

สำหรับดีไซน์ ZenBook Duo 14 UX482 รุ่นนี้ยังมีดีไซน์ที่หรูหราตามสไตล์ Zen ตัวเครื่องมีสีเดียวคือ สีน้ำเงินเข้ม Celestial Blue

ฝาหลังมีการขัดลายวงกลม ที่เสริมให้โลโก้ดูเด่นขึ้น วัสดุก็ทำจาก Magnesium-Aluminum ที่แข็งแรง แต่แอบติดรอยนิ้วมือง่ายไปหน่อยค่ะ ส่วนขอบเครื่องก็มีการตัดขอบเงา ๆ แบบนี้เลยค่ะ

ด้านการพกพาตัว เครื่องก็มีน้ำหนักอยู่ที่ 1.5 กิโลกรัม พอรวมอะแดปเตอร์กับปากกาแล้วน้ำหนักอยู่ที่ 1.8 กิโลกรัม ส่วนความหนาอยู่ที่ 1.69 ซม. ถือว่าไม่หนักมากเท่าไรกับโน๊ตบุ๊กที่มีหน้าจอแบบนี้ เราพกใส่กระเป๋าที่เขาแถมมาให้ได้เลยค่ะ

พอร์ตเชื่อมต่อ

ฝั่งขวามี ช่องอ่าน MicroSD, ช่องหูฟัง 3.5 มม., ช่อง USB ธรรมดา ส่วนฝั่งซ้ายก็มีพอร์ต Thunderbolt 4 สองช่อง ที่นอกจากโอนถ่ายข้อมูลได้รวดเร็วแล้ว ยังเสียบใช้ชาร์จไฟ 65W จากอะแดปเตอร์ได้เลย และยังต่อจอแยกระดับ 8K ได้หนึ่งจอด้วยนะ หรือถ้าต่อจอ 4K ก็จะได้สองจอค่ะ สุดท้ายเป็นพอร์ต HDMI เอาไว้ต่อพรีเซนต์งานค่ะ ถือว่าพอร์ตให้มาครบเลยค่ะ

ข้อสังเกต

ASUS ZenBook Duo 14 UX482 ในรุ่นนี้เมย์เจออยู่สองจุดค่ะ คือถ้าใครใช้โน๊ตบุ๊กธรรมดามา แล้วเจอตำแหน่งคีย์บอร์ดแบบนี้ต้องปรับตัวพอสมควรค่ะ เพราะไม่มีที่วางมือและตำแหน่งทัชแพดอยู่ด้านขวา และอีกจุดที่ต้องพูดถึงคือการทำงานของ Control Panel ที่บางครั้งยังติดบัก กดต่อไม่ได้ ต้องปิดแล้วเปิดใหม่ถึงจะทำงานได้เป็นปกติค่ะ ในจุดนี้เป็นเรื่องของซอฟต์แวร์ที่อาจจะต้องรอการอัปเดตแก้ไขในอนาคตนะคะ

รีวิวที่ดีต้องมีราคา

ASUS ZenBook Duo 14 รหัส UX482 สเปก Core i5 มีค่าตัวอยู่ที่ 39,990 บาท มาพร้อมกับ Windows 10 Home และ Microsoft Office Home and Student 2019 ตั้งแต่โรงงาน รวมถึงการรับประกันแบบ Onsite Service 3 ปีเต็ม มาให้ด้วยน้า คุ้มเลย ใครที่สนใจเมย์จะขึ้น QR Code ไว้ให้สแกนเข้าไปดูกันได้เลย หรือจะกดลิงก์ในแคปชันก็ได้น้า โน้ตบุ๊กที่ตอบโจทย์ความเป็นครีเอเตอร์แบบเมย์ไม่จัดได้ไงละค้า!

สุดท้ายเมย์มีโปรโมชันพิเศษสำหรับ ZenBook Duo UX481 โน๊ตบุ๊กสองจอเจเนเรชันก่อนหน้าที่ยกจอไม่ได้แบบนี้ ราคาไม่แรงนะเริ่มต้นที่ 33,990 บาทเอง

คลิกดูข้อมูลเพิ่มเติมที่นี่

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส