
Our score
9.0Huawei Freebuds 4i
จุดเด่น
- ให้คุณภาพเสียงที่ดีเกินราคา ตัดเสียงรบกวนภายนอกได้ หรือจะดึงเสียงภายนอกเข้ามาก็ได้ เหมาะสำหรับคนทั่วไปที่ชอบฟังเพลง
- ขนาดเล็กกระทัดรัด เคสชาร์จพกพาสะดวก
- สามารถใช้คุยโทรศัพท์ได้ดี สามารถใช้หูฟังข้างไหนคุยโทรศัพท์ก็ได้ ไม่ต้องใส่ 2 ข้าง
- สามารถปรับแต่งการทำงาน และการควบคุมได้ผ่านแอป
- ราคาคุ้มค่า เป็นหูฟัง TWS ที่ความสามารถครบเครื่องในราคาไม่แพง
จุดสังเกต
- ไม่สามารถปรับระดับเสียงจากตัวหูฟังได้ ต้องปรับจากตัวโทรศัพท์เท่านั้น
- การเปลี่ยนโหมดระหว่างตัดเสียงรบกวนกับโหมดดึงเสียงภายนอกผ่านตัวหูฟังทำได้ช้า ใช้เวลาประมาณ 5 วิกว่าจะเปลี่ยน
- ไม่รองรับการชาร์จไร้สาย
- เมื่อสายเข้า การใส่หูฟังไม่ได้รับสายให้เอง และไม่ได้เปิดโหมดดึงเสียงภายนอก (Awareness) อัตโนมัติเวลาคุยสาย
-
คุณภาพเสียง
8.5
-
คุณภาพวัสดุ
8.0
-
ความคล่องตัวในการใช้
10.0
-
ความสามารถในการคุยโทรศัพท์
9.0
-
ความคุ้มค่า
9.5
ถือว่าที่ผ่านมาหัวเว่ยประสบความสำเร็จกับการพัฒนาหูฟังแบบ True Wireless หลากหลายรุ่นเพื่อใช้กับสมาร์ตโฟนนะครับ นับตั้งแต่ Freebuds 3 ที่เป็นหูฟังแบบ EarBuds ที่ตัดเสียงรบกวนได้ มาถึง Freebuds Pro ที่เป็นการพัฒนาไปอีกขั้นสู้หูฟังแบบ In-Ear เกรดพรีเมี่ยม และล่าสุดกับ Huawei Freebuds 4i ที่เปิดตัวช่วงต้นปี 2021 นี้ ก็ถือเป็นการเขย่าตลาดหูฟังอีกครั้งด้วยราคาเปิดตัวแค่ 2,799 บาท แต่ได้หูฟัง In-ear ที่สามารถตัดเสียงได้ดี และเสียงดีใช้ได้เลย
การดีไซน์ของ Huawei Freebuds 4i

เราชอบเคสชาร์จของ Huawei Freebuds 4i นะครับ มันเล็กและเบา พกพาได้สะดวกๆ ซึ่งดีไซน์เคสชาร์จตัวนี้เป็นเหมือนก้อนหินกลม ๆ ตามริมแม่น้ำครับ แต่จะมีส่วนโค้งเหมือนก้อนหินกลม ๆ แค่ด้านหน้าที่มีโลโก้ Huawei เท่านั้น ด้านหลังจะมีดีไซน์ตัดเรียบเพื่อให้วางกับพื้นได้อย่างมั่นคง ถือว่าดีไซน์มาให้เหมาะกับการใช้งาน วางเคสบนโต๊ะแล้วไม่น่าจะกลิ้งไปไหนได้
Huawei Freebuds 4i มีให้เลือก 3 สีคือสีดำ, สีขาว และสีแดง ซึ่งเป็นสีแบบมันวาวทั้งหมดครับ ให้ความรู้สึกเป็นก้อนหินมน ๆ วาว ๆ แต่ก็เพราะความมันวาวก็ทำให้ลายนิ้วมือติดง่ายครับ แต่ก็ไม่ได้ดูเลอะเทอะจนน่าเกลียดครับ
และที่ตัวเคสชาร์จก็มีช่องเสียบ USB-C สำหรับชาร์จไฟ ซึ่งหาที่ชาร์จได้ไม่ยาก แล้วก็มีไฟดวงเล็ก ๆ ด้านใต้โลโก้หัวเว่ยเพื่อบอกสถานะการทำงาน และมีปุ่มกดซ่อนอยู่ด้านขวาของเคสที่สามารถกดเพื่อเข้าโหมดเชื่อมต่อหูฟังได้ (โดยเปิดฝาเคสหูฟังก่อน แต่ยังไม่เอาหูฟังออกจากกล่อง แล้วกดปุ่มนี้ค้างจนไฟกะพริบ และเอามือถือเชื่อมต่อกับหูฟัง)
ตัวหูฟังดีไซน์เป็นแบบก้านยาวครับ ยาวกว่าก้านของ Freebuds Pro ซึ่งอาจจะมีความเสี่ยงจะถูกเกี่ยวหลุดออกจากหูได้ถ้าใส่หน้ากากอนามัยบางแบบ ก็ต้องใช้อย่างระมัดระวังนิดหนึ่งครับ ส่วนตัวจุกหูฟังก็มีซิลิโคน 3 ขนาดให้เลือกเหมือนหูฟังแบบ In-Ear ทั่วไปในท้องตลาด โดยรวมแล้วเป็นหูฟังที่ใส่สบาย มีน้ำหนักเบา ใส่นานๆ แล้วไม่ล้าหูครับ
การใช้งาน Huawei Freebuds 4i

ตามสไตล์ของหูฟังแบบ True Wireless นั้นจะใช้การควบคุมด้วยการแตะที่ตัวหูฟังเป็นหลักนะครับ โดยค่ามาตรฐานของตัวหูฟังคือ
- แตะ 2 ครั้งที่หูฟังข้างไหนก็ได้เพื่อเล่นหรือหยุดเพลง
- แตะค้างที่หูฟังข้างไหนก็ได้เพื่อเปลี่ยนโหมดตัดเสียงรบกวนภายนอกกับโหมดดึงเสียงภายนอก
- เมื่อถอดหูฟังออกจากหู เพลงจะหยุดอัตโนมัติ ถ้าไม่ชอบสามารถปิดได้ในแอป
เราสามารถใช้แอป Huawei AI Life เพื่อปรับการตั้งค่าหูฟังได้ครับ โดยในแอปเราสามารถเลือกโหมดการตัดเสียงรบกวนได้ 3 แบบคือตัดเสียงภายนอก, ปิดระบบ และดึงเสียงภายนอกเข้ามาภายในหูฟัง แล้วเรายังสามารถระบุรูปแบบการแตะสั่งงานได้ เช่นให้แตะ 2 ครั้งที่ข้างซ้ายเป็นเล่น-หยุดเพลง ส่วนแตะ 2 ครั้งที่ข้างขวาเป็นเปลี่ยนเพลง หรือเรียกผู้ช่วยดิจิทัลออกมาก็ได้ ส่วนการแตะค้างทำได้เพียงเปิด-ปิดการสั่งงานของระบบตัดเสียงรบกวนเท่านั้น ไม่สามารถเปลี่ยนเป็นคำสั่งอื่นๆ ได้ครับ ที่น่าสังเกตคือหูฟังตัวนี้ไม่สามารถปรับระดับเสียงจากการแตะที่ตัวหูฟังได้ ต้องปรับที่โทรศัพท์อย่างเดียว
ตัวแอป Huawei AI Life มีทั้ง Android และ iOS แต่ถ้าโหลดแอปแล้วยังไม่เจอการตั้งค่าของ Huawei Freebuds 4i ก็อาจจะต้องรอแอปอัปเดตอีกสักหน่อยนะครับ ส่วนถ้าใครใช้มือถือของหัวเว่ย เมื่อเปิดเคสหูฟังโทรศัพท์ก็จะแสดงรายละเอียดแบตเตอรี่ของหูฟังและเคสชาร์จให้ด้วย และสามารถตั้งค่าการทำงานของหูฟังจากหน้า Bluetooth ได้ทันทีโดยไม่ต้องลงแอปเพิ่มครับ
อายุแบตเตอรี่

ส่วนอายุแบตเตอรี่ของ Huawei Freebuds 4i ตามสเปกบอกว่า
- เล่นต่อเนื่องได้สูงสุด 10 ชั่วโมงเมื่อปิดระบบตัดเสียงรบกวน
- เล่นต่อเนื่องได้นาน 7.5 ชั่วโมงเมื่อเปิดระบบตัดเสียงรบกวน
- เมื่อชาร์จผ่านเคสก็จะได้อีกรอบกว่า ๆ รวมแล้วใช้งานได้ 22 ชั่วโมงแบบปิด ANC
ส่วนการใช้งานจริง ตัวหูฟังจัดว่าแบตอึดอย่างสเปกครับ ไม่เคยหมดคาหูเลย แต่แบตเตอรี่ฝั่งเคสชาร์จจะลดลงเร็วหลังจากที่เราใช้หูฟังและเอากลับลงกล่องไปสักพัก ถ้ามีเวลาก็คอยหมั่นชาร์จดีกว่าครับ แต่หูฟังรุ่นนี้ต้องสายผ่านสายอย่างเดียว ไม่สามารถชาร์จด้วย Wireless Charge ได้นะครับ
คุณภาพเสียงของ Huawei Freebuds 4i

หูฟังรุ่นนี้สร้างมาตรฐานใหม่สำหรับหูฟังแบบ True Wireless กลุ่มราคาไม่เกิน 3,000 บาทนะครับ ตัวไดรเวอร์นั้นมีขนาด 10 ม.ม. ที่แผ่นไดอะแฟรมทำจากวัสดุ PEEK + PU composite ให้ความยืดหยุ่นสูง ให้เสียงที่สมดุล และค่อนข้างเหมาะกับเพลงพอปเลย
- เสียงต่ำ : ขับได้แน่นระดับหนึ่ง กำลังฟังสบาย ไม่อึดอัด และไม่กวนย่านอื่นๆ
- เสียงกลาง-สูง : โปร่ง สดใสกำลังดี เวทีเสียงกว้าง
ถ้าเทียบกับหูฟังเกรดพรีเมียมที่แพงกว่านี้เกือบเท่าตัวอย่าง Huawei Freebuds Pro เสียงของ Freebuds 4i จะเป็นเสียงระดับกลาง ๆ เบสอาจจะไม่ได้ลงลึกกระแทกใจ หรือเสียงแหลมไม่ได้ใสโปร่งขนาดนั้น แต่ก็ใช้ฟังในชีวิตประจำวันได้ดีเกินพอในงบประมาณที่ประหยัดกว่าพอสมควรเลย
ส่วนเรื่องดีเลย์ หรือความหน่วงของเสียง ถ้าเปิดคลิปอย่างใน Youtube อันนี้ไม่มีปัญหาเลย เสียงตรงปากทั้งหมดครับ ส่วนเอาไปเล่นเกม ก็จับค่อนข้างยากว่าเสียงดีเลย์รึเปล่า คืออาจจะมีหน่วง เสียงออกช้ากว่าจังหวะบ้าง แต่น้อยจนแทบจับไม่ได้
ส่วนการตัดเสียงรบกวน ถือว่าทำได้ดีเลยครับ ลดเสียงจากภายนอกได้เยอะ เวลาเปิดเพลงก็แทบจะไม่ได้ยินเสียงภายนอกแล้ว โดยเฉพาะเสียงฮึมต่ำ ๆ ที่จะตัดไปได้เยอะ แต่ก็ยังไม่ได้ตัดได้เยอะเหมือนกลุ่มหูฟังเกรดพรีเมียมที่มีระบบตัดเสียงรบกวนแบบ Hybrid ที่มีไมโครโฟนอยู่ในช่องหูฟังด้วย ส่วนโหมด Awareness ที่ดึงเสียงจากภายนอกก็ทำได้ดีในระดับหนึ่งเลย แม้ว่าเสียงที่ผ่านเข้ามาจะไม่ได้ใสเหมือนที่ฟังผ่านหูตรงๆ แต่ก็ยังแยกมิติเสียงได้ว่าต้นกำเนิดเสียงมาจากทางทิศทางไหนครับ
แต่จุดที่ไม่ชอบคือการเปลี่ยนโหมดระหว่างการตัดเสียงรบกวนกับการดึงเสียงภายนอกทำได้ช้าไปหน่อย การแตะค้างที่หูฟังก็ต้องรอ 1-2 วินาทีกว่าจะทำงาน แล้วก็ต้องรอพูดชื่อโหมดด้วยสำเนียงยาน ๆ จนจบอีก สรุปใช้เวลาประมาณ 5 วินาทีตั้งแต่เริ่มแตะ กว่าจะเปลี่ยนโหมดครับ
การคุยโทรศัพท์

Huawei Freebuds 4i นั้นมีไมโครโฟน 2 ตัวครับ ตัวแรกอยู่ด้านใต้ชุดจุกหูฟังสำหรับตัดเสียงรบกวน และอีกตัวอยู่ที่ปลายหูฟังเพื่อเน้นรับเสียงพูดเป็นหลัก ซึ่งก็สามารถรับเสียงได้ดีครับ ใช้คุยโทรศัพท์ไม่มีปัญหาปลายสายขอให้พูดใหม่เลย
สรุป Huawei Freebuds 4i หูฟัง TWS ราคาดี คุ้มค่า

Huawei Freebuds 4i ถือเป็นหูฟัง True Wireless ที่ทำออกมาได้ดีเลยครับ ถ้าคิดตั้งต้นจากราคาขาย 2,799 บาท ก็ถือว่าเป็นหูฟังที่เซ็ตมาตรฐานของหูฟัง TWS ระดับราคา 3,000 บาทไว้ ว่าให้เสียงที่ดี ตัดเสียงรบกวนได้ ฟังสบายหู ใช้ง่าย ไมค์ดี แม้ว่าเรื่องคุณภาพเสียงจะยังข้ามรุ่นไปชกกับหูฟังที่ราคาแพงกว่าเป็นเท่าตัวไม่ได้ แต่ก็ดีพอสำหรับการใช้ฟังเพลงสนุก ๆ แล้วครับ
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส