จาก “แก้วน้ำ” พิเศษ ปัดไม่ตก น้ำไม่หกใส่แน่นอน แถมระดมทุนใน kickstarter ได้ 3 ล้านกว่าบาทเชียวนะ! ทำให้เกิดความสนใจในแก้วนี้ขึ้นมา จนทำให้เว็บแบไต๋ต้องหามาใช้ดูซะหน่อย มาดูกันว่าแก้ว Mighty Mug นี้จะน่าสนใจ หรือดีจริงอย่างที่ว่าหรือไม่ มาดูกัน
ส่วนรุ่นที่จะรีวิวกันคือ Mighty Mug Go สีดำ มาดูกันว่าหน้าตาเป็นอย่างไรกันบ้าง
คุณสมบัติของแก้ว Mighty Mug
- เป็นแก้วน้ำ หรือกระบอกใส่น้ำ สามารถใส่ได้ทั้งเครื่องดื่มร้อนหรือเย็นได้ปกติ
- ส่วนท้ายของแก้ว ถ้าเป็นแบบ Mug จะมีรอยต่อของแก้ว แต่ถ้าเป็นแบบแก้ว ส่วนก้นจะดูหนา แต่ก็ปัดไม่ล้มเหมือนกัน
- มี Grip สีส้ม ที่ส่วนก้นของแก้ว มีความหนึบ ทำให้แก้วสามารถตั้งได้โดยไม่ตกหล่น เทคโนโลยีนี้เรียกว่า Smart Grip Technology ซึ่งเป็นส่วนพิเศษที่ทำให้แก้วนี้เวลาผลักจะไม่ล้มได้ง่าย
ส่วนการรีวิวหลักที่จะทำการทดสอบก็คือ การวางและผลักแก้วตามพื้นผิวต่างๆ มาดูกันว่าเป็นอย่างไรบ้าง
- เมื่อวางบนพื้นผิวต่างๆ จะเห็นว่า ถ้าเป็นพื้นผิวที่เรียบ แข็ง มั่นคง เช่น โต๊ะ ชั้นวางหนังสือ พื้นกระเบื้อง บนรถ จะสามารถวางแก้วนี้ได้โดยไม่ล้ม ส่วนพื้นเรียบที่เปียก ก็สามารถวางได้โดยไม่ล้มเช่นกัน ในการทดสอบครั้งนี้ ได้ทดลองวางแปะที่ประตูตู้เย็น ประตูตู้เหล็ก จอโทรทัศน์ และกระจก ปรากฎว่า สามารถวางแปะไปได้โดยไม่หล่น
- เมื่อวางบนพื้นผิวที่ไม่เรียบ เช่น หินอ่อนหรุหระ พื้นปูนที่มีฝุ่น พื้นสนามกีฬา หรือบนเก้าอี้พลาสติกที่มีร่องหรือรู บนผ้าหรือพรม จะไม่สามารถวางได้ เพราะส่วนของพื้นไม่ได้วางสนิท หรือมีฝุ่นจับมาก ทำให้เมื่อวางไปแล้วสามารถล้มได้
- เมื่อลองจับคว่ำแก้ว ปิดฝาสนิท น้ำไม่มีซึมออกมาเลย วางใจได้ว่าสามารถพกพาไปได้ทุกที่ไม่มีรั่ว
- เมื่อลอง Drop Test พบว่า ส่วนท้ายที่มีรอยต่อสามารถหลุดออกได้เมื่อหล่นกับพื้นแรงๆ แต่ก็สามารถต่อได้ ใช้งานได้ปกติ ส่วนฝาสามารถแตกหักได้เมื่อกระแทกพื้น
จะเห็นได้ว่า แก้วใบนี้ใช่ว่าจะสามารถวางได้ในทุกพื้นผิวแล้วจะไม่ล้ม ก็ยังสามารถล้มได้ถ้าวางในพื้นผิวที่ไม่เรียบ ไม่มั่นคง ดังนั้น เวลาใช้งานกลางแจ้ง หรือข้างนอก ควรเลือกสถานที่วางให้ดี เพื่อที่จะได้ใช้งานแก้วนี้ได้อย่างเต็มที่
เป็นอย่างไรกันบ้างสำหรับแก้วใบนี้ ถ้าเกิดสนใจก็สามารถสั่งซื้อได้จากเว็บ FN Outlet ซึ่งมีอยู่ 2 แบบคือ แบบทรงเตี้ย (รุ่น Mighty Mug Desk) และแบบทรงสูง (รุ่น Mighty Mug Go) มีสีให้เลือก 6 สีคือ สีครีม เขียว ม่วง ส้ม แดง และดำ ราคาอยู่ที่ 610 บาททั้ง 2 รุ่น ไม่เสียค่าส่ง ตั้งแต่สั่งจากเว็บ จนถึงมาส่ง ใช้เวลาประมาณ 1 สัปดาห์ ส่วนแบบอื่น สามารถสั่งซื้อได้จากเว็บ The Mighty Mug โดยตรงได้ ถ้าอยู่ในอเมริกาส่งฟรี แต่ในไทยต้องบวกค่าส่งเพิ่มเติม ถ้าในกรุงเทพฯ แบบ Priority Mail ค่าส่งอยู่ที่ $46.23 หรือประมาณ 1,664 บาท หรือถ้าแบบ Priority Express Mail ค่าส่งจะอยู่ที่ $62.51 หรือประมาณ 2,250 บาท