Our score
8.4Sony LinkBuds
จุดเด่น
- ดีไซน์หูฟังแบบโดนัทแตกต่างจากหูฟังทั้งตลาด สร้างจุดเด่นได้ยินเสียงรอบข้างพร้อมเสียงในหูฟัง
- Wide Area Tap ล้ำมาก สั่งงานโดยแตะที่ข้างแก้ม ทำให้หยิบจับหูฟังแล้วไม่ลั่น
- ให้เสียงเบสเยอะกว่าที่คาด (เมื่อฟังในที่เงียบๆ)
- ไมโครโฟนดี สามารถคุยโทรศัพท์ได้ดี
- ขนาดหูฟังและเคสเล็กมาก พกพาสะดวก
จุดสังเกต
- การไม่ลดเสียงรบกวนภายนอกใดๆ เลย ทำให้ไม่เหมาะสำหรับการฟังเพลงที่เน้นจับรายละเอียดของเสียง
- ไม่ใช่หูฟังที่เหมาะกับหูของทุกคน ควรลองใส่ก่อนตัดสินใจ
- ต้องระวังเรื่องระดับเสียงในหูฟัง ที่อาจปรับจนดังเกินไปโดยไม่รู้ตัว เพราะต้องปรับสู้กับความดังของเสียงภายนอก
-
คุณภาพเสียง
7.0
-
คุณภาพวัสดุ
8.5
-
ความคล่องตัวในการใช้
10.0
-
ความสามารถในการคุยโทรศัพท์
9.0
-
ความคุ้มค่า
7.5
เราพูดมาเสมอว่าตอนนี้หูฟังแบบ TWS หรือ True Wireless Stereo กำลังแข่งขันกันดุเดือดมาก โซนี่เองก็เป็นผู้ผลิตหูฟังไร้สายที่แท้ทรูยอดนิยมอย่าง Sony WF-1000Xm4 (อ่านรีวิวได้ที่นี่ครับ) เหมือนกัน แต่ถ้าจะเพิ่มพื้นที่ในตลาดให้มากขึ้น ก็ต้องสร้างผลิตภัณฑ์ที่แตกต่างจากของเดิม และแตกต่างจากทั้งตลาด นี่คือที่มาของ Sony LinkBuds (WF-L900) หูฟังไร้สายที่แท้ทรู ดีไซน์โดนัทไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือน เพราะไร้ความสามารถตัดเสียงรบกวนโดยสิ้นเชิง แต่ผู้ใช้จะได้ยินเสียงภายนอกตลอดเวลาเหมือนตอนไม่ได้ใส่หูฟัง แต่เราก็มองว่านี่คือหูฟังที่เลือกคนใช้้เหมือนกัน จะมีแค่คนกลุ่มหนึ่งที่เหมาะกับมันครับ
ดีไซน์ของ Sony LinkBuds
สิ่งแรกที่เราประทับใจ Sony LinkBuds คือชื่อรุ่น ที่ไม่ต้องเรียกรหัสยาวๆ ชวนจำยากเหมือนรุ่นอื่น เอ้ย ผิดๆ จุดแรกที่เราประทับใจคือดีไซน์ของเคสชาร์จที่เล็กมาก น้ำหนักรวมหูฟังในตัวแล้วไม่ถึง 50 กรัมเท่านั้นเอง เป็นหูฟังแบบ TWS ที่เคสเล็กที่สุดรุ่นหนึ่งตั้งแต่เราเคยรีวิวมาเลย พกพาได้สะดวกสุดๆ ครับ
ถ้าสังเกตเนื้อพลาสติกของเคสและตัวหูฟังให้ดีๆ จะเป็นว่าเป็นพลาสติกที่มีจุดเล็กๆ อยู่ในเนื้อด้วย ซึ่งก็เป็นดีไซน์ที่ดูแปลกดี แต่มันไม่ใช่เป็นแค่ลวดลายของพลาสติกนะครับ จริงๆ แล้วมันคือพลาสติกรีไซเคิลจากชิ้นส่วนรถยนต์ เลยมีลวดลายแบบนี้ ก็ดูแปลกตาและช่วยโลกด้วย นอกจากนี้กล่องของ LinkBuds เองก็ดีไซน์ตามรอยรุ่นพี่คือ Sony WF-1000Xm4 ที่ไม่มีพลาสติกเป็นส่วนประกอบของกล่องเลย เป็นกระดาษทั้งหมด ทำให้ย่อยสลายในธรรมชาติได้ครับ แต่กล่องของ LinkBuds จะดีไซน์ดีกว่าเดิมตรงที่หลังจากเปิดใช้แล้ว ยังเก็บกล่องเป็นทรงเดิมได้สวยงามอยู่ ไม่เหมือนของรุ่นพี่ที่แกะแล้วเก็บกลับไปให้สวยยากครับ
ซึ่ง Sony LinkBuds นั้นมี 2 สีให้เลือกคือสีเทาที่เรารีวิวในครั้งนี้ กับสีขาวครีมๆ ที่สวยงามก็เลือกให้เหมาะกับความต้องการได้เลย
ตัวหูฟังแยกดีไซน์เป็น 2 ส่วนคือวงกลมเหมือนโดนัท จุดนี้คือตัวไดร์เวอร์หรือลำโพงของหูฟังที่เวลาใส่แล้วจะไปอยู่บริเวณรูหูของเรา ซึ่งดีไซน์พิเศษเหมือนโดนัทนี้ก็ทำให้เสียงภายนอกเข้าถึงหูของเราได้เหมือนเราไม่ได้ใส่หูฟัง อีกส่วนก็คือก้อนกลมๆ จุดนี้จะเป็นไมโครโฟนและหน่วยประมวลผลของหูฟัง ส่วนนี้เองที่มีห่วงยางของหูฟังสำหรับเกี่ยวกับด้านในหูของเราครับ ซึ่งในกล่องจะมีห่วงยางให้เลือกอีก 3 ขนาด รวมแล้วเป็น 4 ขนาดเพื่อให้เลือกใส่ให้เหมาะกับใบหูของเราครับ ซึ่งถ้าเลือกขนาดใหญ่ไปจะเจ็บหู ส่วนถ้าเลือกเล็กไปหูฟังก็จะไม่เกาะกับหู
การควบคุม Sony LinkBuds
การควบคุมของ LinkBuds ต้องเรียกว่าเป็นนวัตกรรมเลยนะครับ คือ Wide Area Tap ที่ไม่ต้องแตะที่ตัวหูฟัง แต่ให้แตะข้างแก้มบริเวณหน้าหูฟังแทน (คือส่วนที่มีแสงในรูปข้างบน) ทำให้หูฟังรุ่นนี้ไม่มีอาการหูฟังลั่น หยิบจับยังไงก็ไม่สั่งงานไปเอง เพราะมันจะสั่งงานได้ก็ต่อเมื่อหูฟังอยู่ในหูแล้วเราแตะไปที่ใบหน้าเท่านั้น
ซึ่งการควบคุมพื้นฐานคือ
- หูฟังข้างซ้าย
- แตะ 2 ครั้งเพื่อเร่งเสียง
- แตะ 3 ครั้งเพื่อลดเสียง
- หูฟังข้างขวา
- แตะ 2 ครั้งเพื่อเล่นเพลง/หยุดเพลง
- แตะ 3 ครั้งเพื่อเปลี่ยนเพลง
ซึ่งเราก็สามารถเปลี่ยนการควบคุมเหล่านี้ได้ในแอป Sony Headphone Connect ครับ จะใช้สั่งงานกับผู้ช่วยเสียง หรือใช้ร่วมกับ Spotify Tap เพื่อให้แตะแล้วเล่น Playlist ที่ต้องการเลยก็ได้ครับ
นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชันอัจฉริยะจากรุ่นพี่อย่าง Speak to Chat ที่เมื่อเราเริ่มพูด หูฟังจะหยุดเพลงให้ทันที แล้วหลังจากหยุดพูดไประยะหนึ่งเพลงก็จะกลับมาเล่นใหม่ครับ ก็ทำให้ใช้งานในชีวิตประจำวันได้สะดวกขึ้น
ส่วนแบตเตอรี่ของ LinkBuds นั้นใช้งานต่อเนื่องได้ 5.5 ชั่วโมง และสามารถนำกลับไปชาร์จในกล่องชาร์จได้อีก 2 รอบ รวมแล้วสามารถใช้งานได้ 17.5 ชั่วโมง ซึ่งก็ใกล้เคียงกับระยะเวลาในการใช้งานต่อเนื่องของ Sony WF-1000XM4 ครับ
สเปกด้านเสียงของ Sony LinkBuds
หูฟังรุ่นนี้ใช้ Bluetooth 5.2 พร้อมรองรับ Codec เสียง SBC และ AAC แต่ไม่รองรับ LDAC ที่เป็น Codec เสียงคุณภาพสูงสุดของโซนี่ (ซึ่งจริงๆ ก็ไม่จำเป็นสำหรับหูฟังแบบเปิดโล่งที่อาจจะไม่ได้ยินดีเทลของเพลงมากนัก) นอกจากนี้ยังมีตัวเลือกให้เปิดระบบ DSEE (Digital Sound Enhancement Engine) เพื่อช่วยคืนรายละเอียดของเพลงที่หายไปจากการบีบอัดได้ด้วย
ซึ่งถ้าคุณต้องการคุณภาพการในการฟังเพลงสูงที่สุด ให้ติดตั้งแอป Sony Headphone Connect ในโทรศัพท์ แล้วเข้าไปที่หน้า Sound แล้วเลือกคุณภาพในการเชื่อมต่อเป็น “Priority on Sound Quality” เพื่อให้ใช้ AAC ในการส่งสัญญาณเสียง และเปิดใช้ DSEE ให้เป็น Auto ครับ ซึ่งถ้าทุกอย่างถูกเซ็ตแล้ว จะมีโลโก้ของ AAC และ DSEE ขึ้นมาเหนือรูป LinkBuds ในแอปครับ
คุณภาพเสียงของ Sony LinkBuds
คุณภาพเสียงเมื่อเราเห็น Sony LinkBuds ครั้งแรก เราก็ไม่ได้คิดว่าเสียงมันจะดีได้ขนาดนี้นะครับ ด้วยความที่เป็นหูฟังแบบ Earbuds และไม่ได้กั้นเสียงภายนอกเลย แต่เสียงของ LinkBuds ทำได้หนักแน่นและโปร่งกว่าที่คิด
เสียงเบสของ LinkBuds นั้นถือว่าลงลึกกำลังสวย แม้ว่าเบสจะไม่ใช่ลูกใหญ่มาก ไม่ได้มีแรงปะทะมากมายนัก แต่ก็ฟังเพลงที่เน้นเบสได้กำลังเพลิน ซึ่งเบสนี้ก็ไม่ไปรบกวนเสียงกลางด้วย
เสียงกลาง-สูง ให้ความโปร่งกำลังดี เสียงร้องทำได้หวาน แต่เสียงแหลมไม่ได้มีรายละเอียดที่ชัดเจนนัก
แต่เสียงทั้งหมดที่เรารีวิวนี้ต้องนั่งฟังในห้องเงียบๆ เนื่องจากหูฟังตัวนี้ไม่ได้กันเสียงภายนอกเลย เพราะฉะนั้นถ้าฟังในพื้นที่ที่มีเสียงภายนอกเยอะๆ เช่นในร้านอาหาร หรือห้างสรรพสินค้า เสียงเบสจะจางลงไปครับ เหลือแต่เสียงกลาง-แหลมที่ได้ยินชัดเจนอยู่
LinkBuds จะมีฟังก์ชั่น Adaptive Volume Control ให้ปรับในแอป Sony Headphone Connect ด้วย เพื่อปรับระดับเสียงให้ดังขึ้นเองเมื่อใช้งานในพื้นที่ที่มีเสียงภายนอกเยอะๆ จะได้ได้ยินเสียงจากหูฟังอยู่ครับ และปรับลดระดับเสียงลงมาเองเมื่อฟังในห้องเงียบ แต่ปกติเราจะปิดฟังก์ชันนี้ไว้ เพราะเมื่อดูระดับเสียงที่หูฟังปรับขึ้นให้เองแล้วมันดังมาก ซึ่งเมื่อเอาเสียงระดับนี้กลับมาฟังในที่เงียบๆ แล้วรู้สึกว่ามันดังจนกลัวว่าจะมีผลต่อหูของเราครับ (ซึ่งตอนใช้หูฟังที่ตัดเสียงรบกวนได้ เราจะไม่ต้องปรับเสียงให้ดังขนาดนี้ครับ)
นอกจากนี้ Sony LinkBuds ยังรองรับ 360 Reality Audio หรือเพลงที่ให้เสียงรอบทิศทางด้วย ซึ่งในไทยก็สามารถฟังได้ผ่าน Tidal ครับ ก็เข้าไปเซ็ตอัป 360RA ให้เรียบร้อยในแอปก่อน เสร็จแล้วก็เปิด Tidal หาหมวด 360 Reality Audio ฟังได้เลย ซึ่งเสียงที่ได้ก็ออกมาโอเคเลยคือจะโปร่งกว้างมากยิ่งขึ้นไปอีก เหมือนมิติเสียงมาโอบล้อมอยู่รอบตัว ก็ลองฟังกันดูได้ว่าชอบไหมครับ
คุณภาพไมค์ของ Sony LinkBuds
เราทดสอบไมค์ของ Sony LinkBuds ในสถานการณ์ที่มีเสียงรบกวนนะครับ ซึ่งก็ได้ไฟล์เสียงด้านบนมาให้ฟังกัน ซึ่งถือว่าไมค์ของหูฟังรุ่นนี้สามารถเอาไปใช้งานได้จริง แม้มีเสียงรบกวนรอบข้างครับ แถมให้คุณภาพเสียงไมค์ดีกว่า Sony WF-1000XM4 ที่เราเคยเทสต์มาอีกครับ
ทำไม Sony LinkBuds ถึงเป็นหูฟังที่เลือกคนใช้
หนึ่งในข้อจำกัดของหูฟังลักษณะ Earbuds คือขนาดหูฟังนั้นส่งผลกระทบกับผู้ใช้มากครับ อย่าง Apple AirPods 3 ที่ขนาดของตัว Pod ที่เข้าไปในหูใหญ่กว่ารุ่นเดิมนิดหน่อย ก็ทำให้ใส่สบายต่างจาก AirPods 2 แล้ว ซึ่งในหูฟังแบบ In-Ear ที่ยังยืดหยุ่นเพราะเปลี่ยนจุกที่ใส่ให้เข้าไปรูหูให้เหมาะกับขนาดหูแต่ละคนได้ แต่แบบ Earbuds ต้องเลือกให้เหมาะสมมาตั้งแต่แรก
ซึ่งกรณีของ LinkBuds คือถ้าช่องหูเรามีขนาดไม่เหมาะกับวงโดนัทกลมๆ ตั้งแต่แรก ก็ไม่สามารถปรับแก้ไขอะไรได้เลย เพราะส่วนที่ปรับได้คือส่วนห่วงยางที่ไปเกี่ยวกับช่องหูเท่านั้น
นั่นจึงทำให้ประสบการณ์การใช้ Sony LinkBuds นั้นมีความหลากหลาย ตั้งแต่ใส่ได้ทั้งวันไม่รู้สึกระคายเคืองอะไรสำหรับผู้ใช้ที่หูใหญ่พอ หรือใส่ได้แต่มีความระคายเคืองบ้างถ้าใส่เป็นชั่วโมง (อย่างผู้เขียน) หรือใส่ไม่ได้เลยเพราะช่องหูเล็กกว่าตัววงโดนัท (เช่นภรรยาของผู้เขียน) เราจึงแนะนำให้ไปลองใส่ดูก่อนว่ารู้สึกสบายหูหรือไม่ครับ
นอกจากนี้จุดเด่นที่หูฟังรุ่นนี้ไม่ตัดเสียงรบกวนเลย ไม่มีทางเลือกให้ผู้ใช้ว่าจะดึงเสียงภายนอกเข้ามาในหูฟังหรือตัดเสียงรบกวนแบบที่หูฟังส่วนใหญ่ในปัจจุบันจะมี ก็ทำให้หูฟังรุ่นนี้ไม่เหมาะสำหรับคนที่รักการฟังรายละเอียดของดนตรีเช่นกันครับ เพราะในสถานที่ที่เสียงภายนอกไม่ดังมากอย่างในห้างสรรพสินค้า เราก็ไม่ได้ยินรายละเอียดของภาคดนตรีผ่าน LinkBuds แล้ว เหลือแต่เสียงร้องที่ยังเด่นชัดออกมา
แม้ว่าประสบการณ์การฟังเพลงแบบยังได้ยินเสียงรอบข้างแบบนี้ จะเหมาะมากสำหรับเวลาเดินทางที่เรายังได้ยินเสียงรอบข้างอยู่ แต่บางช่วงเราแค่อยากนั่งพักในห้างและฟังเพลงให้ได้ยินรายละเอียดเพลินๆ เจ้า LinkBuds ก็ไม่มีทางเลือกปิดเสียงภายนอกให้ ซึ่งถ้าใช้หูฟังอย่าง Sony WF-1000XM4 ก็ในช่วงเดินทางก็ยังเปิดเสียงภายนอกเข้ามาได้ หรือเวลาอยากนั่งฟังเพลงเงียบๆ ก็เลือกตัดเสียงภายนอกได้
หูฟังนี้จึงเลือกคนใช้อีกกลุ่มหนึ่งที่แตกต่างไปจากผู้ใช้หูฟังกลุ่ม ANC ที่ตัดเสียงรบกวน หรือกลุ่มผู้ใช้ที่อยากได้หูฟังตัวที่ 2 ที่แตกต่างไปเลยจากหูฟังที่มีอยู่เดิมครับ
สรุป Sony LinkBuds น่าใช้หรือไม่
Sony LinkBuds เปิดตัวด้วยราคา 6,990 บาท ก็เป็นราคาตรงกลางระหว่าง Sony WF-1000MX3 ที่ปัจจุบันตั้งราคาไว้ 5,990 บาท และ Sony WF-1000MX4 ที่ขาย 8,990 บาท ซึ่งถ้าวัดกันที่คุณภาพเสียงในการฟังเพลง WF-1000MX3 ก็ยังคงดีกว่าแบบไม่ต้องสงสัย (แต่เรื่องไมโครโฟนสำหรับคุยโทรศัพท์จะสู้ LinkBuds ไม่ได้) จึงเป็นจุดที่ผู้ใช้ต้องเลือกว่าเราต้องการหูฟังใหม่เพื่อตอบสนองการใช้งานแบบไหนครับ
ซึ่งสำหรับ LinkBuds จะเหมาะสำหรับการใช้งานแบบที่กลมกลืนกับสิ่งรอบข้าง เช่น ใช้ดูหนัง ดูซีรีส์ ฟังเสียงพูดในหนังชัดๆ ที่ยังอยากได้ยินรอบข้างเผื่อมีคนมาเรียก แต่ไม่เหมาะสำหรับคนรักเสียงดนตรีที่ต้องการให้มีแค่เพลงอยู่กับคุณ ตัดรอบข้างออกไปให้หมด ซึ่งโซนี่ก็มีผลิตภัณฑ์ที่รองรับความต้องการแบบนี้อยู่แล้วคือ WF-1000MX4 ครับ