สเปซเอ็กซ์ (SpaceX) เป็นบริษัทขนส่งอวกาศที่ขณะนี้มีการปล่อยจรวดเฉลี่ยสัปดาห์ละ 1 ภารกิจ ซึ่งที่คุ้นเคยกันก็คือ จรวด Falcon 9 ที่เร่งส่งดาวเทียมสตาร์ลิงก์จนตอนนี้มีอยู่ในวงโคจรมากกว่า 3,000 ดวง และยังมีจรวด Falcon Super Heavy ที่ทำหน้าที่เป็นบูสเตอร์ให้กับยาน Starship ซึ่งกำลังจะทดสอบบินสู่อวกาศครั้งแรกในปีนี้ ทั้งนี้หลายคนอาจจะหลงลืมไปแล้วว่าสเปซเอ็กซ์ยังมีจรวด Falcon Heavy เพราะพึ่งบินสู่อวกาศไปแค่ 3 ภารกิจ ล่าสุดได้มีงานอีกครั้งในรอบ 3 ปี สำหรับการทำภารกิจ USSF 44 ของกองทัพอวกาศสหรัฐฯ
Falcon Heavy เป็นจรวดที่ใช้ในการบรรทุกน้ำหนักสูงไปยังอวกาศของสเปซเอ็กซ์ ซึ่งพัฒนามาจากจรวด Falcon 9 โดยการเพิ่มส่วนของบูสเตอร์ 2 ลำขนาบไว้ด้านข้างหรือมี 3 บูสเตอร์นั่นเอง และได้ผ่านเที่ยวบินมาแล้ว 3 ครั้ง ซึ่งเริ่มเปิดตัวครั้งแรกด้วยการบรรทุกรถยนต์ Tesla Roadster ไปยังวงโคจรของดาวอังคารเมื่อ 6 กุมภาพันธ์ 2018 ต่อมาได้ปล่อยดาวเทียมสื่อสาร Arabsat-6A เมื่อ 11 เมษายน 2019 และได้ผ่านเที่ยวบินที่ 3 เมื่อ 25 มิถุนายน 2019 จนได้การรับรองในการบรรทุกน้ำหนักไปสู่อวกาศโดยโครงการ NSSL จากกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ
13 เมษายน 2021 Astrobotic บริษัทพัฒนาเทคโนโลยีหุ่นยนต์อวกาศสำหรับภารกิจบนดวงจันทร์และดาวเคราะห์ได้เลือกใช้จรวด Falcon Heavy ของสเปซเอ็กซ์ในการส่งรถสำรวจ Viper (Volatiles Investigating Polar Exploration Rover) รถสี่ล้อที่ออกแบบมาเพื่อค้นหาน้ำแข็งและสำรวจดินไปลงจอดบนขั้วใต้ของดวงจันทร์ ซึ่งภารกิจนี้จะปล่อยสู่อวกาศในปี 2023
USSF 44 เป็นภารกิจครั้งที่ 4 ของจรวด Falcon Heavy ซึ่งเป็นภารกิจลับของกองทัพอวกาศสหรัฐฯ โดยจะปล่อยดาวเทียมจำนวน 2 ดวง ซึ่งดวงแรกจะเป็นดาวเทียมขนาดใหญ่ที่ไม่ได้เปิดเผยถึงรายละเอียด และดวงที่ 2 เป็นดาวเทียมขนาดเล็กชื่อ TETRA-1 ซึ่งเป็นดาวเทียมดวงแรกที่อยู่ในชุดของต้นแบบดาวเทียมวงโคจรค้างฟ้า (GEO) ที่เปิดตัวโดยกองทัพสหรัฐฯ ซึ่งจะเป็นการทดสอบกระบวนการทำงานของระบบดาวเทียมในอนาคต ทั้งนี้จะปล่อยจรวด Falcon Heavy สู่อวกาศจาก LC 39-A ที่ศูนย์อวกาศเคนเนดี รัฐฟลอริดา ในวันที่ 28 ตุลาคม 2022
ที่มา : cnet
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส