เมื่อวันที่ 24 ธันวาคมที่ผ่านมายานอินไซต์ (InSight) ของ นาซ่า (NASA) ตรวจจับแผ่นดินไหวขนาด 4 แมกนิจูดบนผิวของดาวอังคาร โดยไม่สามารถระบุสาเหตุได้ว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร ทั้งนี้นักวิจัยได้เรียนรู้ว่าการปะทุดังกล่าวเป็นอุกกาบาตที่เกิดขึ้นบนดาวอังคารและเกิดเป็นหลุมขนาดใหญ่ แล้วค้นพบหลังจากดูภาพก่อนและหลังจากยานสำรวจดาวอังคาร (MRO) ซึ่งเผยให้เห็นรอยบาก 492 ฟุต
เชื่อกันว่าอุกกาบาตนี้มีความยาวระหว่าง 16 ถึง 39 ฟุต มันอาจจะถูกเผาไหม้ในชั้นบรรยากาศของโลก แต่มันก็ใหญ่พอที่จะเอาชีวิตรอดในชั้นบรรยากาศบางพิเศษของดาวอังคารได้ การกระแทกนั้นรุนแรง โดยหลุมมีขนาดลึกถึง 70 ฟุตและทิ้งเศษซากอุกกาบาตห่างจากปากปล่องไปกว่า 23 ไมล์ นอกจากนี้ยังเผยให้เห็นน้ำแข็งใต้ผิวดินที่ไม่เคยเห็นใกล้กับเส้นศูนย์สูตรของดาวอังคารมาก่อน ซึ่งเป็นจุดที่ไม่น่าจะพบได้ และอาจเป็นประโยชน์สำหรับนักบินอวกาศที่จะไปสำรวจในอนาคต
ทีม Malin Space Science Systems ใช้กล้องสองตัวของ MRO เพื่อค้นหาปล่องภูเขาไฟในเดือนกุมภาพันธ์ ภาพจากกล้องสีช่วยลดผลกระทบให้เหลือกรอบเวลา 24 ชั่วโมง
การค้นพบนี้สามารถช่วยให้นักวิทยาศาสตร์เข้าใจลำดับเวลาทางธรณีวิทยาของดาวอังคารด้วยการกำหนดอัตราของหลุมอุกกาบาตที่ปรากฏบนโลก นอกจากนี้ยังอาจพิสูจน์ได้ว่ามีความสำคัญต่อชาวอาณานิคมและนักสำรวจดาวอังคารที่อาจต้องการน้ำแข็งใต้ดินเพื่อการยังชีพและพบเชื้อเพลิงใต้ดินได้
ก่อนหน้านี้นาซ่าเตือนว่ายานอินไซต์จะอยู่ได้ไม่นานนักและตอนนี้คาดว่าเครื่องลงจอดและจะปิดตัวลงภายใน 6 สัปดาห์ เนื่องจากฝุ่นที่สะสมส่งผบต่อประสิทธิภาพของแผงโซลาร์เซลล์ทำให้พลังงานลดลงอย่างมาก ซึ่งอาจทำให้การตรวจจับอุกกาบาตเป็นความสำเร็จครั้งสำคัญครั้งสุดท้ายของยานอินไซต์
ที่มา Engadget
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส