สเปซเอ็กซ์ (SpaceX) บริษัทขนส่งอวกาศสหรัฐฯ จะปล่อยจรวดขนาดใหญ่ Falcon Heavy เป็นครั้งแรกในรอบ 3 ปี สำหรับทำภารกิจ USSF 44 ของกองทัพอวกาศสหรัฐฯ ในการขนส่งดาวเทียม 2 ดวง ซึ่งดวงแรกจะเป็นดาวเทียมขนาดใหญ่ที่ไม่ได้เปิดเผยถึงรายละเอียด และดวงที่ 2 เป็นดาวเทียมขนาดเล็กชื่อ TETRA-1 ซึ่งเป็นดาวเทียมดวงแรกที่อยู่ในชุดของต้นแบบดาวเทียมวงโคจรค้างฟ้า (GEO) ที่เปิดตัวโดยกองทัพสหรัฐฯ สำหรับทดสอบกระบวนการทำงานของระบบดาวเทียมในอนาคต จะออกจาก Launch Complex 39-A ที่ศูนย์อวกาศเคนเนดี รัฐฟลอริดา ในวันที่ 1 พฤศจิกายน เวลา 09:40 น. ET (20.40 น. ในประเทศไทย) หลังเลื่อนจากวันที่ 31 ตุลาคม
นับตั้งแต่ต้นปีมานี้ 49 เที่ยวบินของสเปซเอ็กซ์ล้วนเป็นการขนส่งอวกาศด้วยจรวด Falcon 9 ที่เกิดขึ้นประมาณทุกสัปดาห์ และก็มีข่าวการพัฒนาจรวด Falcon Super Heavy ที่ทำหน้าที่เป็นบูสเตอร์ให้กับยาน Starship ซึ่งกำลังจะทดสอบบินสู่อวกาศครั้งแรกในปีนี้ จึงอาจทำให้ผู้คนหลงลืมไปแล้วว่าสเปซเอ็กซ์ยังมีจรวด Falcon Heavy ที่จบภารกิจสุดท้ายเมื่อปี 2019 และไม่มีงานมานานถึง 3 ปี
Falcon Heavy เป็นจรวดที่ใช้ในการบรรทุกน้ำหนักสูงไปยังอวกาศของสเปซเอ็กซ์ ซึ่งพัฒนามาจากจรวด Falcon 9 โดยการเพิ่มส่วนของบูสเตอร์ 2 ลำขนาบไว้ด้านข้างรวมเป็น 3 บูสเตอร์ และได้ผ่านเที่ยวบินมาแล้ว 3 ครั้ง ซึ่งเริ่มจากการบรรทุกรถยนต์ Tesla Roadster ไปยังวงโคจรของดาวอังคารเมื่อ 6 กุมภาพันธ์ 2018 ต่อมาได้ปล่อยดาวเทียมสื่อสาร Arabsat-6A เมื่อ 11 เมษายน 2019 และครั้งล่าสุดส่งดาวเทียม 24 ดวง ให้กับกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ เมื่อ 25 มิถุนายน 2019
จรวด Falcon Heavy มีความพิเศษอยู่ที่ 2 บูสเตอร์ด้านข้างสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ด้วยคือเมื่อแยกตัวออกมาหลังถูกปล่อยจากฐานได้ไม่นานก็จะบินกลับมาลงจอดที่บนชายฝั่งได้พร้อมกัน ส่วนบูสเตอร์ท่อนที่อยู่ตรงกลางจะกลับมาลงจอดบนเรือโดรนในมหาสมุทรแอตแลนติก ทั้งนี้สามารถติดตามรับชมได้ผ่านการถ่ายทอดสดบนยูทูบด้านล่างนี้
ที่มา : cnet
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส