6 ธันวาคม สเปซเอ็กซ์ (SpaceX) ได้ยื่นขออนุญาตต่อคณะกรรมการกลางกำกับดูแลกิจการสื่อสารของสหรัฐฯ (FCC) ในการติดตั้งดาวเทียม Starlink V. 2 ด้วยอุปกรณ์เชื่อมต่อกับโทรศัพท์มือถือได้โดยตรง ซึ่งเมื่อเดือนสิงหาคมสเปซเอ็กซ์ได้ประกาศจับมือกับ T-Mobile สำหรับเพิ่มการเชื่อมต่อในพื้นที่ไร้สัญญาณโทรศัพท์ทั่วสหรัฐฯ ด้วยดาวเทียม Starlink V. 2 โดยตรง และเป็นไปตามการอนุมัติของ FCC ที่ประกาศไว้เมื่อ 1 ธันวาคม ซึ่งอนุญาตให้สเปซเอ็กซ์สามารถปล่อยดาวเทียม Starlink V. 2 จำนวน 7,500 ดวง
การอนุมัติดังกล่าวนั้น FCC ได้กำหนดให้สเปซเอ็กซ์จะต้องปล่อยดาวเทียม Starlink V. 2 ครึ่งหนึ่งของยอดที่ได้รับการอนุมัติให้พร้อมใช้งานภายใน 6 ปีและอีกครึ่งหนึ่งต้องปล่อยและเปิดใช้งานก่อนวันที่ 1 ธันวาคม 2031 ซึ่งดาวเทียม Starlink V. 2 จำนวน 7,500 ดวง ได้รับอนุมัติแค่ส่วนหนึ่งจาก 29,988 ดวง ที่สเปซเอ็กซ์ยื่นขอไว้เมื่อปี 2020 และก่อนหน้านี้ FCC ได้อนุญาตให้สเปซเอ็กซ์ปล่อยดาวเทียม Starlink V. 1 ไปแล้วถึง 12,000 ดวง ซึ่งปัจจุบันได้ปล่อยดาวเทียม Starlink V.1 อยู่ในวงโคจรแล้วกว่า 3,500 ดวง
เอกสารที่สเปซเอ็กซ์ยื่นขออนุญาตครั้งล่าสุดนี้เผยว่าอุปกรณ์ที่ติดตั้งจะช่วยให้สตาร์ลิงก์ให้บริการเสียง ส่งข้อความและท่องเว็บขั้นพื้นฐานด้วยความเร็วอัปโหลดสูงถึง 3.0 Mbps หรือสูงสุดถึง 7.2 Mbps และความเร็วดาวน์ลิงก์สูงถึง 4.4 Mbps หรือ 18.3Mbps
เดือนกันยายนที่ผ่านมา AST SpaceMobile บริษัทเทคโนโลยีพัฒนาการเชื่อมต่อสมาร์ตโฟนกับดาวเทียมของสหรัฐฯ ได้ส่งดาวเทียม BlueWalker3 ในขั้นทดสอบไปยังวงโคจรต่ำของโลกเพื่อปล่อยสัญญาณบรอดแบนด์ที่ช่วยให้โทรศัพท์มือถือเชื่อมต่อได้โดยตรง และอนาคตจะปล่อยดาวเทียม Bluebirds ที่มีขนาดใหญ่กว่าขึ้นสู่อวกาศมากกว่า 100 ดวง เพื่อสร้างเป็นเครือข่ายสัญญาณบรอดแบนด์ของโทรศัพท์มือถือให้พร้อมใช้งานทั่วโลก
ที่มา : cnet
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส