ครั้งแรกที่เคยมีการบันทึกว่า มีผู้พบเห็นวัตถุบินลึกลับนั้น ต้องย้อนไปตั้งแต่ยุค 1940s แต่นั่นก็เป็นไปได้ว่า มนุษย์ต่างดาวเคยมาเยี่ยมเยียนโลกเราตั้งแต่ก่อนหน้านั้นแล้ว ถ้านับถึงวันนี้ก็เป็นเวลากว่า 80 ปีแล้ว ถ้านับจากวันที่มีการพบเห็นและมีการบันทึกอย่างเป็นทางการ แต่ทำไมหนอ จนป่านนี้เราถึงยังไม่ได้รับการติดต่อจากอารยธรรมต่างโลกอย่างเป็นทางการเสียที เรื่องนี้นักวิทยาศาสตร์ทั่วโลกต่างก็ทำการวิเคราะห์ศึกษากันอย่างจริงจัง ล่าสุดก็มีการเปิดเผยผลการวิจัยใหม่ออกมา โดยตั้งข้อสมมติฐานไว้ว่า มนุษย์ต่างดาวน่าจะเลือกติดต่อกับดวงดาวที่มีพัฒนาการทางเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำ ซึ่งในกรณีนี้โลกมนุษย์เรายังไม่อยู่ในเครือข่ายนั้น
แอมรี แวนเดล (Amri Wandel) นักฟิสิกส์ดาราศาสตร์ แห่งมหาวิทยาลัยเยรูซาเล็ม ผู้ทำการวิจัยในเรื่องนี้ ได้วิเคราะห์ในบทวิจัยของเธอว่า ระบบสุริยจักรวาลของเรานี่ก็นับว่ากว้างใหญ่มาก ซึ่งเป็นไปได้อย่างมากว่า น่าจะมีสิ่งมีชีวิตบนดาวอีกหลายดวง ซึ่งมนุษย์ต่างดาวที่มาจากดาวที่มีวิทยาการทางเทคโนโลยีก้าวไกลมาก ก็ตระเวนแวะเวียไปดูตามดาวต่าง ๆ แล้ว พวกเขาให้ความสนใจเฉพาะดาวที่มีอารยธรรมรุดหน้าทางด้านเทคโนโลยีเท่านั้น แล้วคลื่นวิทยุที่โลกราส่งออกไป ก็มีแต่ข้อมูลทางด้านชีวภาพทั้งนั้น ซึ่งมนุษย์ต่างดาวจะให้ความสนใจข้อมูลทางด้านเทคโนโลยีเสียมากกว่า
ข้อมูลวิจัยนี้ยังอ้างทฤษฎี Fermi paradox อันเลื่องชื่อของ เอนริโก แฟร์มี นักฟิสิกส์ชาวอิตาเลียน ที่ตั้งข้อสังเกตไว้ว่า ระบบสุริยจักรวาลของเรานั้นมีอายุเก่าแก่มาก มันต้องมีมนุษย์ต่างดาวบนดาวอื่นที่มีเทคโนโลยีรุดหน้าไปไกลจนสามารถเดินทางท่องไปในอวกาศได้แล้ว แต่ทำไมยังไม่มีหลักฐานว่าพวกเขามาเยือนโลก (ตามทฤษฎี Fermi Paradox อ้างไว้เช่นนั้น) หรือนี่จะเป็นข้อยืนยันว่า ในระบบสุริยจักรวาลทางช้างเผือก มีเพียงแค่โลกเรานี้ที่มีสิ่งมีชีวิตถือกำเนิด
แต่ก็มีผู้เชี่ยวชาญมากมายออกมาโต้แย้งทฤษฎี Fermi Paradox ว่า เหตุที่เราไม่ได้รับการติดต่อจากมนุษย์ต่างดาวนั้น ก็เป็นไปได้ว่า มนุษย์ต่างดาวเคยมาเยี่ยมเราแล้วในอดีตกาลสมัยที่มนุษย์ยังไม่ไร้ซึ่งอารยธรรม และมีไม่มีเครื่องไม้เครื่องมือหรืออุปกรณ์ในการบันทักใด ๆ ได้ หรือแท้จริงแล้ว การเดินทางท่องจักรวาลนั้นยังเป็นเรื่องยากกว่าที่เราคิด แม้จะมาจากโลกที่มีวิทยาการก้าวล้ำก็ตาม หรือบางดวงดาวอาจจะเพิ่งพัฒนาเทคโนโลยีเดินทางท่องจักรวาลกันก็เป็นไปได้ หรือบางดาวก็ไม่สนใจที่จะออกสำรวจดวงดาวต่าง ๆ
ส่วนบทวิเคราะห์ของแวนเดลนั้น ก็ตั้งสมมติฐานในเรื่องนี้ไว้ว่า ในระบบสุริยจักรวาลทางช้างเผือกของเรานั้้น มีดวงดาวที่มีสิ่งมีชีวิตเต็มไปหมด ถ้าดวงดาวที่มีมนุษย์ต่างดาวอาศัยอยู่นั้น มีดาวที่อยู่ในละแวกใกล้ ๆ กันแล้วมีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ พวกเขาก็ไม่จำเป็นที่จะต้องสิ้นเปลืองทรัพยากรเพื่อออกมาสำรวจดวงดาวที่อยู่ไกล ๆ อย่างเช่นโลกมนุษย์เรา แล้วถ้ามีดาวที่มีสิ่งมีชีวิตอยู่มากมายในระบบสุริยจักรวาลนี้ แต่ละดาวก็ส่งสัญญาณออกไปเพื่อติดต่อดาวอื่นเหมือนที่เราทำ ดาวที่มีพัฒนาการทางด้านเทคโนโลยีแล้วก็จะเลือกสนใจสัญญาณที่มาพร้อมข้อมูลทางด้านเทคโนโลยีเสียมากกว่า
โลกมนุษย์เราก็เคยส่งสัญญาณออกไปเช่นกัน ต้้งแต่ยุค 1930s แล้ว ส่งเป็นคลื่นวิทยุออกไป ซึ่งมีการประเมินว่า นับถึงปัจจุบันนี้คลื่นดังกล่าวควรไปจะไปถึงดวงดาวต่าง ๆ ในยะยะ 50 ปีแสง ซึ่งมีมากกว่า 15,000 ดวงแล้ว แต่นั่นก็ถือว่าเป็นปริมาณที่น้อยนิดมากถ้าเทียบกับจำนวนของดาวทั้งหมดในสุริจักรวาลนี้ที่มีมากกว่า 400,000 ล้านดวง หรือถ้าสัญญาณวิทยุดังกล่าวเดินทางไปถึงดาวที่มีมนุษย์ต่างดาวแล้วจริง ๆ ละก็ ถ้าพวกเขาส่งสัญญาณกลับมา ก็ต้องใช้เวลาอีกมากก็สัญญาณตอบรับจะเดินทางกลับมาถึงโลกเรา
และสาเหตุหนึ่งและน่าจะเป็นไปได้มาก ก็คือสัญญาณวิทยุที่ส่งออกไปเมื่อยุค 1930s นั้นยังเป็นยุคที่เทคโนโลยีเรายังไม่พัฒนานัก คลื่นวิทยุที่ส่งออกไปก็ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อการณ์นี้โดยเฉพาะ และเมื่อคลื่นเดินทางไปเกิน 1 ปีแสงแล้ว สัญญาณก็จะบิดเบือน ต่อให้มนุษย์ต่างดาวในพิภพไหนได้รับ ก็จะงง ๆ ไม่สามารถเข้าใจสัญญาณที่ได้รับ ผ่านมาจนถึงปี 1974 โลกมนุษย์จึงส่งคลื่นวิทยุใหม่ออกไป รอบนี้มีการออกแบบคลื่นเพื่อการณ์นี้โดยเฉพาะ มีชื่อว่า ‘Arecibo message’ แล้วตั้งเป้าไปที่ กระจุกดาว M13
แวนเดลมั่นอกมั่นใจอย่างมากว่า ในสุริยจักรวาลทางช้างเผือกของเรานี้ มีดาวที่มีความศิวิไลซ์มากมายเต็มไปหมด อย่างน้อย ๆ ต้องมีมากกว่า 100 ล้านดวง เหตุที่ยังไม่มีการตอบรับกลับมานั้น ก็น่าจะเป็นเพราะคลื่นวิทยุยังเดินทางไปไม่ถึงแค่นั้นเอง ตอนนี้โลกเราจึงควรยิงคลื่นวิทยุออกไปให้ถี่ขึ้น ยิ่งมากโอกาสที่คลื่นวิทยุจะไปถึงดวงดาวที่มีสิ่งมีชีวิตที่มีพัฒนการทางด้านเทคโนโลยีสูงก็เป็นไปได้มากขึ้น แต่แวนเดลก็แนะนำว่าให้เผื่อใจไว้ ว่าเราอาจจะไม่ได้รับการตอบกลับมาเลย เพราะเป็นไปได้เช่นกันว่าในช่วงระยะทาง 50 ปีแสงจากโลกมนุษย์เรานี้ อาจจะไม่มีดาวที่มีสิ่งมีชีวิตที่ทรงสติปัญญาก็เป็นได้