กลุ่มนักวิจัยจากมหาวิทยาลัย Brown เชื่อว่าพวกเขาได้ค้นพบการเชื่อมโยงบางอย่างของกลุ่มผู้ใช้งาน Facebook ในงานทดลองของพวกเขา ซึ่งงานทดลองดังกล่าวจะเกี่ยวกับการเจอประสบการณ์แย่ๆ บน Facebook จนอารมณ์หดหู่ที่ได้เจอนั้นส่งผลไปยังชีวิตจริง โดยกลุ่มนักวิจัยมหาวิทยาลัย Brown ได้ทดลองกับกลุ่มคนทั้งหมด 264 คน ด้วยการตรวจสอบและตามติดผลอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหากกลุ่มคนดังกล่าวเกิดประสบการณ์ด้านลบบน Facebook กลุ่มนักวิจัยก็ทำการจดบันทึกข้อมูลในทันที ผลสรุปที่ได้จากการทดลองนี้นั้นพบว่ากลุ่มผู้ทดลองดังกล่าวมีประสบการณ์ด้านลบบน Facebook มากและมีความเสี่ยงสูงที่จะเป็นโรคซึมเศร้าได้ถึง 3.2 เท่า! 

does-facebook-cause-depression

งานทดลองดังกล่าวจัดทำขึ้นเพื่อพิสูจน์ว่าการรังแกกันบนโลกออนไลน์ (Cyber Bullying) ทั้งการทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง การรุมประชาทันฑ์ ฯลฯ ผู้ที่ได้รับสารเหล่านี้จะไม่สามารถลืมมันไปได้อย่างง่ายดาย และจะมีผลไปยังชีวิตและความเป็นอยู่บนโลกความจริง และบางรายอาจได้รับผลกระทบต่อสภาพจิตใจเยอะกว่าการโดนรังแกในชีวิตจริง โดยหนึ่งในสมาชิกกลุ่มวิจัยอย่าง Samantha Rosenthal ได้กล่าวว่า “ผลกระทบบนโลกออนไลน์นั้นไม่ได้น้อยไปกว่าในชีวิตจริง เพราะมันยังคงเป็นประสบการณ์ที่เขาเหล่านั้นยังได้รับมันโดยตรงอยู่ดีและอาจจะมากกว่า เพราะผู้ที่ด่าจะรู้สึกปลอดภัยซึ่งนั่นทำให้พวกเขาสามารถปลดปล่อยสารด้านลบได้อย่างเต็มที่”

ในปัจจุบันจะเห็นได้ว่าการรังแกบนโลกออนไลน์เป็นอีกหนึ่งปัญหาที่ร้ายแรงไม่แพ้เรื่องใดๆ เพราะผู้คนนั้นกล้าที่จะส่งสารด้านลบ (การด่า ถ้อยคำหยาบคาย ดูถูก ดูหมิ่น) ไปยังเรื่องราวที่ถูกเผยแพร่บนโลกออนไลน์อย่างใจนึก โดยไม่สนว่าเรื่องที่ถูกเผยแพร่ดังกล่าวมีมูลเท็จจริงมากน้อยเพียงใด ส่งผลให้มีผู้คนจำนวนไม่น้อยเริ่มมีแนวโน้มป่วยเป็นโรคซึมเศร้าจากการเสพสารด้านลบบนโลกออนไลน์ที่อาจส่งผลไปยังชีวิตความเป็นอยู่บนโลกความจริงที่ได้ตั้งแต่ เก็บตัว ทำร้ายตัวเอง และร้ายแรงที่สุดคือการฆ่าตัวตาย

Credit: engadget