วันศุกร์ที่ 17 กุมภาพันธ์ เวลา 10:59 p.m. ET (วันเสาร์ เวลา 10:59 น. ในประเทศไทย) สเปซเอ็กซ์ (SpaceX) ได้ปล่อยภารกิจ INMARSAT’S I-6 F2 ด้วยจรวด Falcon 9 ในการขนส่งดาวเทียมสื่อสาร Inmarsat I-6 F2 ไปยังวงโคจรค้างฟ้า (GEO) ซึ่งออกจากแท่นปล่อยจรวด SLC-40 ที่สถานีกองทัพอากาศแหลมคะแนเวอรัล รัฐฟลอริดา ทั้งนี้จัดว่าเป็นเที่ยวบินที่ 11 ของจรวด Falcon 9 และภารกิจครั้งที่ 12 ของสเปซเอ็กซ์ในปี 2023
Inmarsat-6 (I-6) เป็นดาวเทียมรุ่นที่ 6 ของ Inmarsat ผู้ให้บริการการสื่อสารแบบเคลื่อนที่ผ่านดาวเทียมของอังกฤษ ซึ่งพัฒนาโดย Airbus Defence and Space และดาวเทียมรุ่นนี้มี 2 ดวงด้วยกันคือ I-6 F1 และ I-6 F2 ส่งสัญญาณได้ทั้งความถี่ L-band และ Ka-band เพื่อสนับสนุนการสื่อสารในแบบเคลื่อนที่ทั้งทางเรือและเครื่องบิน
ดาวเทียม I-6 ทั้ง F1 และ F2 ใช้แพลตฟอร์ม Eurostar รุ่น E3000e ที่เพิ่มวงโคจรโดยอาศัยการขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า จึงทำให้มีมวลลดลงและช่วยบรรทุกน้ำหนักได้ 2 เท่า นอกจากนี้มาพร้อมด้วยเสาอากาศช่องเปิด L-band ขนาดใหญ่ 9 เมตร และเสาอากาศมัลติบีม Ka-band 9 ตัว รวมทั้งสามารถเชื่อมต่อและมีความยืดหยุ่นระดับสูง
ดาวเทียม I-6 F2 ถูกส่งขึ้นไปเพื่อทำงานร่วมกับ I-6 F1 ที่ถูกปล่อยสู่วงโคจรไปเมื่อเดือนธันวาคม 2021 ซึ่ง I-6 F2 จะให้บริการครอบคลุมเหนือมหาสมุทรแอตแลนติกและได้รับการสนับสนุนจากเสาอากาศภาคพื้นดินใหม่ 2 แห่งในสเปน
ภารกิจนี้ได้ใช้บูสเตอร์ B1077 ในเที่ยวบินที่ 3 ซึ่งผ่าน 2 ภารกิจก่อนหน้านี้คือ Crew-5 ในการส่ง 4 นักบินอวกาศของนาซาไปยังสถานีอวกาศนานาชาติ (ISS) เมื่อ 5 ตุลาคม 2022 และภารกิจ GPS III Space Vehicle 06 (GPS 3 SV06) ในการขนส่งดาวเทียมนำทาง GPS Block III ตัวที่ 6 ให้กับกองทัพอวกาศสหรัฐฯ
หลังจากจรวด Falcon 9 ถูกปล่อยขึ้นไปนาที 2.38 บูสเตอร์ B1077 ก็ได้แยกตัวกลับมาลงจอดบนเรือโดรน Just Read the Instructions ที่จอดรออยู่ในสมุทรแอตแลนติกในเวลานาทีที่ 6.54 หลังจากปล่อยจรวด
ที่มา : spacex.com และ spacelaunchschedule.com
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส