ในที่สุด Adobe ก็เปิดตัวเครื่องมือปัญญาประดิษฐ์สำหรับสร้างรูปภาพของตนเองซึ่งก็คือ ‘Adobe Firefly’ ที่จะมาพร้อมเครื่องมือให้ผู้ใช้สามารถเขียนคำบรรยายเพื่อให้ AI สร้างภาพ, สร้าง template และยังสามารถสร้างตัวอักษรดีไซน์ต่าง ๆ คล้าย WordArt ที่มาจาก AI ได้อีกด้วย!


การเปิดตัว Adobe Firefly นับเป็นการเปิดตัวครั้งใหญ่สำหรับ Adobe หลังจากในช่วงปีที่ผ่านมามีคู่แข่งเปิดตัวเครื่องมือสำหรับสร้างภาพ, วิดีโอ และเสียงออกมาอย่างมากมาย ซึ่งในตอนนี้ Firefly จะเปิดตัวในเวอร์ชัน ‘เบตา (beta)’ ก่อนบนเว็บไซต์ แต่ในอนาคต Adobe ก็มีแผนที่จะรวมเครื่องมือ Generative AI ชิ้นนี้เข้ากับโปรแกรมต่าง ๆ ของ Adobe เช่น Photoshop, Illustrator และ Premiere

จุดเด่นหนึ่งอย่างของ AI วาดภาพตัวนี้คือมันเป็นปัญญาประดิษฐ์ที่ถูกป้อนโมเดลข้อมูลมาจากภาพที่ไม่ติดลิขสิทธิ์, ข้อมูลที่ได้รับอนุมัติสำหรับการฝึก AI, หรือเป็นภาพที่มาจาก Adobe Stock library ซึ่งบริษัทมีสิทธิ์ในการเข้าถึงและใช้งาน แตกต่างจาก AI สร้างภาพบางตัวที่พบประเด็นปัญหาละเมิดลิขสิทธิ์ภาพ นำภาพติดลิขสิทธิ์ไปให้ AI เรียนรู้


นอกจากนี้แทนที่ผู้ใช้จะทำได้เพียงใส่คำบรรยายเพื่อให้ AI สร้างภาพตามปกติ Firefly ยังมีฟังก์ชันให้ผู้ใช้สามารถปรับแก้ดีไซน์ต่าง ๆ เช่น แสง, สัดส่วนภาพ และเอฟเฟกต์ต่าง ๆ เข้าไปในภาพที่ AI สร้างขึ้นมาได้อีกด้วย
ที่มา: The Verge
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส