30 มีนาคม เวอร์จินออร์บิต (Virgin Orbit) บริษัทในกลุ่ม เวอร์จิน (Virgin) ซึ่งดำเนินธุรกิจให้บริการปล่อยดาวเทียมขนาดเล็กไปสู่วงโคจรได้ประกาศผ่านเอกสารที่ยื่นต่อ กลต. สหรัฐฯ ว่าบริษัทไม่มีเงินทุนที่จะดำเนินงานต่อไปและจะปิดกิจการในอนาคตอันใกล้ รวมทั้งจะปลดพนักงาน 675 คน ประมาณ 85% ของพนักงานทั้งหมดพร้อมเงินชดเชย
เวอร์จินออร์บิตก่อตั้งขึ้นในปี 2017 ต่อมาในปี 2018 ได้เปิดตัว Cosmic Girl คือ เครื่องบิน Boeing 747 ที่ดัดแปลงไว้สำหรับติดจรวด LauncherOne ที่ใช้ขนส่งดาวเทียมขนาดเล็ก (Cubesats) น้ำหนัก 500 ปอนด์ (222 กิโลกรัม) ไปยังวงโคจรระดับต่ำของโลก
เวอร์จินออร์บิตทำภารกิจปล่อยจรวด LauncherOne จาก Cosmic Girl เป็นครั้งแรกเมื่อ 25 พฤษภาคม 2020 แต่จรวดถูกปล่อยออกไปได้ไม่ไกลถึงอวกาศ ต่อมา 17 มกราคม 2021 สามารถทดสอบปล่อยจรวด LauncherOne จาก Cosmic Girl ส่ง 10 ดาวเทียมขนาดเล็กของนาซาไปสู่วงโคจรสำเร็จเป็นครั้งแรก และ 30 มิถุนายน 2021 จรวด LauncherOne สามารถให้บริการเชิงพาณิชย์ครั้งแรกด้วยการปล่อย 7 ดาวเทียมขนาดเล็กไปสู่วงโคจรได้สำเร็จ
13 มกราคม 2022 จรวด LauncherOne สามารถปล่อย 7 ดาวเทียมขนาดเล็กไปสู่อวกาศได้สำเร็จเป็นครั้งที่ 3 และ 2 กรกฎาคม 2022 สามารถปล่อย 7 ดาวเทียมขนาดเล็กในช่วงเวลากลางคืนไปสู่อวกาศได้สำเร็จ
9 มกราคม 2023 เวอร์จินออร์บิตได้ปล่อยจรวด LauncherOne จากดินแดนของอังกฤษเป็นครั้งแรกที่สนามบินคอร์นวอลล์ (Spaceport Cornwall) ในการปล่อยดาวเทียมขนาดเล็ก 9 ดวง แต่น่าเสียดายที่ภารกิจนี้ล้มเหลว
16 มีนาคม เวอร์จินออร์บิตได้ประกาศหยุดดำเนินงานชั่วคราวและพักงานพนักงานประมาณ 750 คน นาน 1 สัปดาห์ เพื่อจัดหาแหล่งทุนใหม่ ต่อมาก็ได้ขยายการพักงานอีก 2 สัปดาห์ และล่าสุดไม่สามารถหาแหล่งทุนได้จึงต้องประกาศหยุดดำเนินงาน ปิดตำนานการปล่อยจรวดจากใต้ปีกของเครื่องบินที่บินอยู่เหนือพื้นดินที่ระดับ 35,000 ฟุต เพื่อปล่อยดาวเทียมขนาดเล็กสู่วงโคจร ซึ่งน่าเสียดายความสำเร็จ 4 ครั้ง จากภารกิจทั้งหมด 6 ครั้ง
ที่มา : engadget.com
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส