ไม่กี่วันที่ผ่านมา สเปซเอ็กซ์ (SpaceX) ได้ยื่นคำร้องต่อศาลขอแทรกแซงเพื่อเข้าร่วมเป็นจำเลยกับสำนักงานบริหารการบินแห่งชาติสหรัฐฯ (FAA) ในฐานะจำเลย ซึ่ง FAA ได้ถูกกลุ่มไม่แสวงหาผลกำไรด้านสิ่งแวดล้อมและสัตว์ป่าฟ้องศาล โดยกล่าวหาว่าล้มเหลวในการประเมินผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมของโครงการสตาร์ชิป (Starship) บริเวณสถานที่ปล่อยจรวดในโบคาชิกา รัฐเท็กซัส หลังจาก FAA อนุญาตให้สเปซเอ็กซ์ทดสอบบินสตาร์ชิปสู่อวกาศครั้งแรก และได้เกิดการระเบิดกลางอากาศ มีเศษซากปลิวว่อนในพื้นที่วงกว้าง
20 เมษายน สเปซเอ็กซ์ได้ทดสอบบินสตาร์ชิปไปสู่อวกาศครั้งแรก แต่ขณะที่สตาร์ชิปบินขึ้นไปที่ระดับ 30 กิโลเมตรก็ได้เกิดการระเบิดของสตาร์ชิป และมีเศษซาก เถ้าถ่าน ฝุ่นละออง ปลิวว่อนไปทั่วพื้นที่รอบบริเวณปล่อยจรวดหลายร้อยเอเคอร์ (ประมาณพันไร่) ปกคลุมไปยังบ้าน โรงเรียน และที่ดินของชาวบ้านในแถบนั้น รวมทั้งทำให้เกิดไฟไหม้ที่ดินของรัฐ 3.5 เอเคอร์ (8.85 ไร่) แต่โชคดีที่ไม่พบสัตว์ป่าตายและประชาชนเสียชีวิต
ด้วยเหตุนี้ทำให้กลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมฟ้องร้อง FAA โดยกล่าวหาว่าละเมิดกฎหมายนโยบายสิ่งแวดล้อมแห่งชาติสหรัฐฯ ซึ่งอนุญาตให้สเปซเอ็กซ์ปล่อยสตาร์ชิปโดยไม่ทำการประเมินผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม (EIS) ซึ่งก่อนหน้านี้ FAA ได้เข้าตรวจสอบด้านสิ่งแวดล้อมรอบพื้นที่ปล่อยจรวดที่โบคาชิกา และแจ้งให้สเปซเอ็กซ์ปรับปรุงแก้ไขมากกว่า 75 รายการ แต่ไม่ได้ผลักดันให้ผ่านการประเมิน EIS ให้เสร็จเรียบร้อยก่อน ซึ่งขั้นตอนเหล่านี้จะใช้เวลาหลายปีและจะส่งให้ภารกิจไปดวงจันทร์ของนาซาล่าช้า
สเปซเอ็กซ์ร้องว่าการที่โจทก์ฟ้องร้อง FAA จะส่งผลให้มีการถอดใบอนุญาตการปล่อยภารกิจ และผลักดันให้มีการประเมิน EIS ซึ่งจะส่งผลให้การออกใบอนุญาตเพิ่มเติมสำหรับโครงการสตาร์ชิปและจรวดซูเปอร์เฮฟวีในอนาคตอาจล่าช้าอย่างมาก รวมทั้งสร้างความเสียหายต่อผลประโยชน์ของชาติอย่างมากมาย ซึ่งสตาร์ชิปอยู่ในโครงการอาร์เทมิสสำหรับส่งนักบินอวกาศสหรัฐฯ กลับไปเหยียบดวงจันทร์ และยังมีสัญญาทำงานให้กับกองทัพอีกด้วย
สเปซเอ็กซ์อ้างว่า FAA ไม่ได้เป็นตัวแทนในการรักษาผลประโยชน์ให้กับบริษัทได้อย่างเพียงพอ ดังนั้นจึงขอเข้ามาแทรกแซงคดีโดยร่วมเป็นจำเลยเพื่อปกป้องตัวเอง ซึ่งทางฝั่งโจทก์ก็ไม่ได้ขัดข้องที่สเปซเอ็กซ์จะเข้ามามีส่วนในคดีที่ใบอนุญาตของบริษัทเป็นปัญหา
คืนวันเสาร์ที่ผ่านมา มัสก์ได้เผยว่าเท่าที่ทราบยังไม่มีความเสียหายใด ๆ ที่มีความหมายต่อสิ่งแวดล้อม และบริษัทกำลังปรับปรุงแท่นปล่อยจรวดไม่ให้เกิดพายุฝุ่นและหินในการปล่อยยานครั้งต่อไป รวมทั้งจะปรับปรุงสตาร์ชิปให้ระบบระเบิดทำลายตัวเองในทันทีที่เกิดความล้มเหลว ไม่ใช่ผ่านไป 40 วินาทีหรือนานกว่านั้น
สเปซเอ็กซ์ได้ทวีตเผยว่าได้เคลื่อนย้ายต้นแบบ Ship 25 ไปยังแท่นปล่อยจรวดเพื่อทำการทดสอบการจุดระเบิดเครื่องยนต์ Raptor จำนวน 6 ตัว ในขณะที่ยึดตัวยานไว้กับที่ ซึ่งเป็นการเตรียมพร้อมที่จะบินทดสอบสตาร์ชิปไปสู่อวกาศอีกครั้ง
ที่มา : engadget.com และ apnews.com
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส