ดร.โจเซฟ ดิทูรี (Dr Joseph Dituri) ผู้จบปริญญาเอกทางด้านวิศวกรรมชีวการแพทย์ ปัจจุบันเป็นอาจารย์ประจำมหาวิทยาลัยเซาธ์ฟลอริดา ได้ทำลายสถิติโลกด้วยการอยู่ใต้น้ำเกิน 73 วัน สถิตเดิมที่นักการศึกษาชาวเทนเนสซี 2 คน ทำไว้เมื่อปี 2014 และเขาจะอยู่ให้ถึง 100 วันตามแผนการในสัปดาห์หน้านี้

แต่จุดประสงค์ที่แท้จริงของดิทูรีคือการทำการวิจัยว่าการอยู่ภายใต้สภาวะที่มีความดันสูงในระยะยาวจะมีผลกระทบต่อร่างกายมนุษย์เราอย่างไรบ้าง ในการทดลองนี้ ดิทูรีได้เข้าไปอยู่ในกระเปาะใต้น้ำที่มีพื้นที่เพียง 100 ตารางฟุต และอยู่ใต้ผิวน้ำลึกลงไป 6 เมตร ในทะเลสาบ คีย์ ลาร์โก รัฐฟลอริดา

ดร.โจเซฟ ดิทูรี (Dr Joseph Dituri)

ภายในกระเปาะใต้น้ำนี้จะมีความดันในชั้นบรรยากาศสูงกว่าบนบกถึง 70% ซึ่งดิทูรีเชื่อมั่นว่า การทดลองของเขานี้น่าจะนำไปสู่กุญแจสำคัญในการย้อนกระบวนการชราภาพของมนุษยชาติ และอาจจะทำให้ผู้คนสามารถมีชีวิตยืนยาวได้ถึง 110 ปี
“ผมไม่ได้อ้างว่าทฤษฎีของผมนี้จะพาคุณไปสู่ความอมตะนะ”
ดิทูรีกล่าวระหว่างให้สัมภาษณ์ผ่าน ZOOM
“แต่ผมรู้ว่าการอยู่ในภายใต้สภาวะแรงดันที่สูงขึ้นนั้น จะช่วยเพิ่มจำนวนเซลล์ และเพิ่มความยาวของ*เทโลเมียร์ แล้วยังช่วยเพิ่มคอลลาเจนอีกด้วย ดังนั้นผมจึงพยายามตรวจสอบอายุของเซลล์อยู่เสมอ ดูผมสิ ตอนนี้ผมอายุ 55 ปี เท่ากับว่ามาได้ครึ่งทางของเป้าหมายในการทดลองนี้แล้ว”

ดิทูรีปรากฎตัวผ่าน ZOOM ด้วยภาพลักษณ์ของชายที่ดูกระฉับกระเฉง ไว้เครายาวมีผมยาวประบ่า ระหว่างสัมภาษณ์เขาก็พาทัวร์ที่อยู่ของเขาผ่านกล้องบนแล็ปท็อป ดิทูรีคลานผ่านช่องที่เชื่อมระหว่างแต่ละกระเปาะใต้น้ำ และพาไปชมห้องน้ำ มันเป็นห้องน้ำที่มีขนาดเล็กมากพอ ๆ กับห้องน้ำในรถบัส และห้องน้ำนี้จะเชื่อมกับระบบขจัดของเสียเหนือพื้นดิน ดิทูรีเผยว่าห้องน้ำนี้จำเป็นมากสำหรับการดำเนินชีวิตใต้น้ำนี้
“ผมต้องเผชิญกับสภาวะแรงดันสูงข้างใต้น้ำนี้ และมันทำให้ผมต้องฉี่บ่อยมากขึ้นและต้องฉี่แบบเร่งด่วนด้วย”ความดันบนพื้นผิวโลกคือ 14.7 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว แต่ความดันใต้น้ำจะอยู่ที่ 25 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว นั่นหมายความว่าเมื่ออยู่ภายใต้สภาวะแรงดันสูง กระเพาะปัสสาวะจะต้องบีบตัวมากขึ้น

ห้องน้ำภายในพอดของดิทูรี

และงานวิจัยที่ดิทูรีกำลังดำเนินการอยู่นี้ เรียกว่า “hyperbaric medicine” หรือ “เวชศาสตร์เกี่ยวกับความดันบรรยากาศ” ซึ่งในแต่ละวันนั้น ดิทูรีจะต้องใช้เวลาอย่างมากไปกับการตรวจเลือดและน้ำลายเพื่อสังเกตความเปลี่ยนแปลงกับร่างกาย อันเป็นผลมาจากความเป็นอยู่ภายใต้สภาวะแรงดันสูง เขายังต้องตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจอีกด้วยเพื่อตรวจสอบการทำงานของหัวใจ และตรวจคลื่นไฟฟ้าสมองเพื่อบันทึกการทำงานของสมอง และทดสอบการทำงานของปอด

“เพราะผมรู้ดีกว่า ภายใต้สภาวะความดันสูงเช่นนี้จะช่วยเพิ่มจำนวนเซลล์ เพิ่มความยาวของเทโลเมียร์ และเพิ่มคอลลาเจนซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญของทุกเซลล์ในร่างกายเรา”

เทโลเมียร์เป็นลำดับดีเอ็นเอที่มีแนวโน้มจะสั้นลงเมื่ออายุเรามากขึ้น ซึ่งจะไปลดการผลิตเซลล์และนำไปสู่การชราภาพ การเพิ่มความยาวของเทโลเมียร์เหล่านี้อาจทำให้กระบวนการนั้นย้อนกลับได้ ในขณะที่คอลลาเจนนั้นเป็นส่วนประกอบสำคัญของทุกเซลล์ในร่างกาย

ดิทูรีทำงานอยู่ในกองทัพเรือเป็นเวลา 28 ปี ในฐานะผู้เชี่ยวชาญการดำน้ำ จากนั้นเขาก็หันมาทำงานจริงจังทางด้านวิชาการ และเขายังเป็นที่รู้จักในหมู่เด็ก ๆ ว่า “Dr Deep Sea” ในฐานะดอกเตอร์ที่ให้ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์แก่เด็ก ๆ


แม้ว่าการดำรงชีพอยู่ใต้ทะเลลึกนั้น ฟังดูไม่น่าพิศมัยกับหลาย ๆ คน แต่ในหมู่นักวิทยาศาสตร์ต่างมีความเชื่อว่า ในอนาคตเมื่อโลกเราต้องเผชิญปัญหาประชากรล้นโลก มีความเป็นไปได้สูงที่เราจะต้องสร้างเมืองใต้น้ำกัน

เมื่อปี 2016 Samsung ได้เผยแพร่รายงานว่า ในอนาคต 100 ปีข้างหน้า เมืองใต้น้ำน่าจะเป็นไปได้จริง เมืองใต้น้ำจะอยู่อาศัยได้ก็ด้วยการใช้น้ำที่รายรอบเมืองนั้นมาสร้างชั้นบรรยากาศที่สามารถหายใจได้ และผลิตเชื้อเพลิงไฮโดรเจนด้วยกระบวนการเดียวกันนี้ ในรายงานของ Samsung นั้น ยังมีภาพประกอบเป็นเมืองที่มีรูปทรงคล้ายลูกบอลขนาดใหญ่สามารถมองผ่านเข้าไปได้ และภายในมีอาคารสูงหลายชั้นตั้งเรียงราย และมีสวนสาธารณะ

ภาพเมืองใต้น้ำในอนาคต ตามวิสัยทัศน์ของศิลปิน

ในการดำรงชีวิตใต้ผิวน้ำนั้น ดิทูรีเสริมว่าเขาได้เจอกับปัญหาในการดำรงชีพหลายเรื่อง อย่างเช่น อสุจิหลังจากหลั่งออกมาแล้วจะเดินทางได้สั้นมาก ซึ่งตรงจุดนี้ ดิทูรีขอไม่ลงรายละเอียด แต่เขาสรุปสั้น ๆ เลยว่า
“มนุษย์ไม่สามารถขยายพันธุ์ได้ข้างล่างนี้ สำหรับผมน่ะไม่สามารถ ผมจนปัญญาจริง ๆ เรื่องนี้ ผมรู้แค่ว่ายิ่งลงลึกไปกว่านี้คุณก็ยิ่งไม่สามารถขยายพันธุ์ได้”
ปัญหาอื่น ๆ ที่ดิทูรีเจอก็คือ มีปริมาณออกซิเจนที่เข้มข้นในชั้นบรรยากาศใต้น้ำนี้ ฉะนั้นจึงห้ามจุดประกายไฟ อาหารที่ดิทูรีทานส่วนใหญ่จึงเป็นอาหารจากไข่ ที่ปรุงด้วยเตาอบไมโครเวฟ
“เรื่องยากที่สุดก็คือการจัดส่งอาหาร” ดิทูรีเล่าว่า นักประดาน้ำจะเอาอาหารมาส่งเขา ซึ่งอาหารจะมีอายุสั้นมาก แต่เขายังโชคดีที่มีน้ำดื่มเพียงพอ

ในขณะที่เขายังดำเนินชีวิตอยู่ใต้ผิวน้ำต่อไปนี้ พอคำนึงถึงเรื่องการจัดส่งข้าวของอุปโภคบริโภคต่าง ๆ มาให้เขา ทำให้ดิทูรีคิดต่อไปถึงการเอาชีวิตรอดในการเดินทางข้ามอวกาศ ซึ่งเขาได้ฝากคำแนะนำไปถึง อีลอน มัสก์ (Elon Musk) ว่าควรที่จะใคร่ครวญถึงแผนการส่งมนุษย์ไปยังดาวอังคารภายใน 5-10 ปีข้างหน้านี้อย่างถี่ถ้วนได้แล้ว การเดินทางไปยังดาวอังคารนั้นต้องมีอาหารและน้ำให้เพียงพอ 200 วัน และจะต้องคูณ 2 สำหรับการเดินทางกลับด้วย

“อาหารที่คนเราจะกินได้ต้องเก็บรักษาบนชั้นไว้ได้นานเพียงพอ มีความยั่งยืน โดยไม่ต้องแช่เย็น และคงรสชาติไว้ได้ และมันจะต้องไม่ทำให้เราตกอยู่ในภาวะคลุ้มคลั่ง”

เห็นได้เลยว่า การทดลองครั้งนี้ของดิทูรี สามารถต่อยอดไปในวิทยาการอนาคตในหลาย ๆ ด้าน รวมไปถึงตัวเขาเองที่ได้รับการกระตุ้นเมทาบอลิซึม ทำให้เขามีรูปร่างที่ผอมลงและจำนวนเซลล์เพิ่มมากขึ้น จึงเป็นผลดีต่อสุขภาพของเขา ในอนาคตอาจจะมีผู้คนสนใจที่จะไปอยู่ใต้น้ำสัก 2-3 สัปดาห์เพื่อเป็นการลบเลือนริ้วรอย และชะลอวัย

ที่มา : theguardian ladbible npr