สเปซเอ็กซ์ (SpaceX) กำลังจะปล่อยภารกิจ Group 6-11 ในการส่งดาวเทียมสตาร์ลิงก์ (Starlink) ไปยังวงโคจรระดับต่ำของโลกเพิ่มอีก 22 ดวง ที่ขับดันโดยจรวด Falcon 9 ออกจากแท่นปล่อยจรวด SLC-40 ที่สถานีกองทัพอากาศแหลมคะแนเวอรัล รัฐฟลอริดา ในวันศุกร์ที่ 25 สิงหาคม เวลา 9:30 p.m. ET (วันเสาร์ เวลา 08:30 น. ในประเทศไทย) ซึ่งจะเป็นเที่ยวบินที่ 56 ของจรวด Falcon 9 และภารกิจที่ 59 ของสเปซเอ็กซ์ในปี 2023
ล่าสุด ณ วันที่ 24 สิงหาคม สเปซเอ็กซ์มีดาวเทียมสตาร์ลิงก์อยู่ในวงโครที่ 4,640 ดวง ซึ่งเป็นดาวเทียม Starlink V2 Mini ที่อยู่ในวงโคจรจำนวน 257 ดวง ซึ่งทั้งหมดมาจากกลุ่มดาวเทียม Group 6 และ Group 7 เมื่อภารกิจนี้สำเร็จก็จะทำให้สเปซเอ็กซ์มีดาวเทียม Starlink V2 Mini อยู่ในวงโคจรเพิ่มขึ้นเป็น 279 ดวง และมีดาวเทียมในวงโคจรทั้งหมด 4,662 ดวง
ภารกิจ Group 6-11 เป็นการปล่อยดาวเทียม Starlink V2 Mini ที่อยู่ในกลุ่มหรือเชลล์ 6 มีวงโคจรอยู่ที่ 530 กิโลเมตร มุมเอียง 43 องศา ทั้งนี้ V2 Mini ได้ถูกลดขนาดลงจากรุ่น V2 เพื่อให้รองรับการขนส่งด้วยจรวด Falcon 9 เนื่องจากรุ่น V2 มีขนาดใหญ่จะต้องขนส่งด้วยยานสตาร์ชิปที่กำลังพัฒนาอยู่ในขณะนี้
ภารกิจนี้จะใช้บูสเตอร์ B1080 ขึ้นบินเป็นครั้งที่ 3 สำหรับนำกลับมาใช้ใหม่อย่างคุ้มค่า โดยได้ผ่านภารกิจ Axiom Ax-2 ในการส่งนักบินอวกาศของบริษัทเอกชนไปยังสถานีอวกาศนานาชาติ (ISS) และการขนส่งเทเลสโคป Euclid ขององค์การอวกาศยุโรป (ESA)
หลังจากจรวด Falcon 9 ถูกปล่อยขึ้นไปประมาณ 2 นาทีครึ่ง บูสเตอร์ B1080 จะแยกตัวกลับมาลงจอดบนเรือโดรน Just Read the Instructions ที่จอดรออยู่ในมหาสมุทรแอตแลนติกในเวลาประมาณนาทีที่ 9 หลังจากปล่อยจรวด
ที่มา : spacex.com
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส