สเปซเอ็กซ์ (SpaceX) กำลังจะปล่อยภารกิจ Group 6-12 ในการส่งดาวเทียมสตาร์ลิงก์ (Starlink) ไปยังวงโคจรระดับต่ำของโลกเพิ่มอีก 21 ดวง ที่ขับดันโดยจรวด Falcon 9 ออกจากแท่นปล่อยจรวด LC-39A ที่ศูนย์อวกาศเคนเนดี รัฐฟลอริดา ในวันอาทิตย์ที่ 3 กันยายน เวลา 7:25 p.m. ET (วันจันทร์ เวลา 06:25 น. ในประเทศไทย) ซึ่งจะเป็นเที่ยวบินที่ 59 ของจรวด Falcon 9 และภารกิจที่ 62 ของสเปซเอ็กซ์ในปี 2023
ภารกิจ Group 6-12 เป็นการปล่อยดาวเทียม Starlink V2 Mini ที่อยู่ในกลุ่มหรือเชลล์ 6 มีวงโคจรอยู่ที่ 530 กิโลเมตร มุมเอียง 43 องศา ทั้งนี้ V2 Mini ได้ถูกลดขนาดลงจากรุ่น V2 เพื่อให้รองรับการขนส่งด้วยจรวด Falcon 9 เนื่องจากรุ่น V2 มีขนาดใหญ่จะต้องขนส่งด้วยยานสตาร์ชิปที่กำลังพัฒนาอยู่ในขณะนี้
ภารกิจนี้จะใช้บูสเตอร์ B1073 ขึ้นบินเป็นครั้งที่ 10 สำหรับนำกลับมาใช้ใหม่อย่างคุ้มค่า โดยผ่านภารกิจปล่อยดาวเทียมสื่อสาร SES-22, ขนส่งยานลงจอด HAKUTO-R ของ ispace ไปลงจอดบนดวงจันทร์, ดาวเทียมสื่อสาร Amazonas Nexus ของบริษัท Hispasat, CRS-27 ขนส่งเสบียงไปยัง ISS และอีก 5 ภารกิจในการปล่อยดาวเทียมสตาร์ลิงก์
หลังจากจรวด Falcon 9 ถูกปล่อยขึ้นไปประมาณ 2 นาทีครึ่ง บูสเตอร์ B1073 จะแยกตัวกลับมาลงจอดบนเรือโดรน Just Read the Instructions ที่จอดรออยู่ในมหาสมุทรแอตแลนติกในเวลาประมาณนาทีที่ 9 หลังจากปล่อยจรวด
ล่าสุด ณ วันที่ 2 กันยายน สเปซเอ็กซ์มีดาวเทียมสตาร์ลิงก์อยู่ในวงโครที่ 4,683 ดวง ซึ่งเป็นดาวเทียม Starlink V2 Mini ที่อยู่ในวงโคจรจำนวน 301 ดวง ทำงานผิดปกติ 12 ดวง ซึ่งทั้งหมดมาจากกลุ่มดาวเทียม Group 6 และ Group 7 เมื่อภารกิจนี้สำเร็จก็จะทำให้สเปซเอ็กซ์มีดาวเทียม Starlink V2 Mini อยู่ในวงโคจรเพิ่มขึ้นเป็น 322 ดวง และมีดาวเทียมในวงโคจรทั้งหมด 4,704 ดวง
ที่มา : spacex.com และ nextspaceflight.com
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส