สเปซเอ็กซ์ (SpaceX) กำลังจะปล่อยดาวเทียมสตาร์ลิงก์ (Starlink) ไปยังวงโคจรระดับต่ำของโลกเพิ่มอีก 21 ดวง ในภารกิจ Group 7-2 ที่ขับดันโดยจรวด Falcon 9 ออกจากแท่นปล่อยจรวด SLC-4E ที่ฐานทัพอวกาศแวนเดนเบิร์กในแคลิฟอร์เนีย รัฐฟลอริดา ในวันจันทร์ที่ 11 กันยายน เวลา 11:57 p.m. PT (วันอังคาร เวลา 13:57 น. ในประเทศไทย) ซึ่งจะเป็นเที่ยวบินที่ 61 ของจรวด Falcon 9 และภารกิจที่ 64 ของสเปซเอ็กซ์ในปี 2023
ภารกิจ Group 7-2 เป็นการปล่อยดาวเทียม Starlink V2 Mini ที่อยู่ในกลุ่มหรือเชลล์ 7 มีวงโคจรอยู่ที่ 525 กิโลเมตร มุมเอียง 53 องศา ทั้งนี้ V2 Mini ได้ถูกลดขนาดลงจากรุ่น V2 เพื่อให้รองรับการขนส่งด้วยจรวด Falcon 9 เนื่องจากรุ่น V2 มีขนาดใหญ่จะต้องขนส่งด้วยยานสตาร์ชิปที่กำลังพัฒนาอยู่ในขณะนี้
ภารกิจนี้จะใช้บูสเตอร์ B1071 ขึ้นบินเป็นครั้งที่ 11 สำหรับนำกลับมาใช้ใหม่อย่างคุ้มค่า โดยได้ผ่านภารกิจการปล่อยดาวเทียมสอดแนม NROL-87, ปล่อยดาวเทียม NROL-85, ปล่อยดาวเทียมสอดแนม SARah 1, ปล่อยดาวเทียม SWOT, ภารกิจ Transporter 8 แชร์เที่ยวบินปล่อยดาวเทียม 72 ดวง และปล่อยดาวเทียมสตาร์ลิงก์ 5 ครั้ง (รวมภารกิจนี้ด้วยเป็นครั้งที่ 6)
หลังจากจรวด Falcon 9 ถูกปล่อยขึ้นไปประมาณ 2 นาทีครึ่ง บูสเตอร์ B1071 จะแยกตัวกลับมาลงจอดบนเรือโดรน Of Course I Still Love You ที่จอดรออยู่ในมหาสมุทรแปซิฟิกในเวลาประมาณนาทีที่ 9 หลังจากปล่อยจรวด
ล่าสุด ณ วันที่ 11 กันยายน สเปซเอ็กซ์มีดาวเทียมสตาร์ลิงก์อยู่ในวงโครที่ 4,724 ดวง ซึ่งเป็นดาวเทียม Starlink V2 Mini ที่อยู่ในวงโคจรจำนวน 343 ดวง ทำงานผิดปกติ 13 ดวง ซึ่งทั้งหมดมาจากกลุ่มดาวเทียม Group 6 และ Group 7 เมื่อภารกิจนี้สำเร็จก็จะทำให้สเปซเอ็กซ์มีดาวเทียม Starlink V2 Mini อยู่ในวงโคจรเพิ่มขึ้นเป็น 364 ดวง และมีดาวเทียมในวงโคจรทั้งหมด 4,745 ดวง
ที่มา : spacex.com และ nextspaceflight.com
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส