สเปซเอ็กซ์ (SpaceX) กำลังจะปล่อยดาวเทียมสตาร์ลิงก์ (Starlink) ไปยังวงโคจรระดับต่ำของโลกเพิ่มอีก 22 ดวง ในภารกิจ Group 6-16 ที่ขับดันโดยจรวด Falcon 9 ออกจากแท่นปล่อยจรวด SLC-40 ที่สถานีกองทัพอากาศแหลมคะแนเวอรัล รัฐฟลอริดา ในวันศุกร์ที่ 15 กันยายน เวลา 11:38 p.m. ET (วันเสาร์ เวลา 10:38 น. ในประเทศไทย) ซึ่งจะเป็นเที่ยวบินที่ 62 ของจรวด Falcon 9 และภารกิจที่ 65 ของสเปซเอ็กซ์ในปี 2023
ภารกิจ Group 6-16 เป็นการปล่อยดาวเทียม Starlink V2 Mini ที่อยู่ในกลุ่มหรือเชลล์ 6 มีวงโคจรอยู่ที่ 530 กิโลเมตร มุมเอียง 43 องศา ทั้งนี้ V2 Mini ได้ถูกลดขนาดลงจากรุ่น V2 เพื่อให้รองรับการขนส่งด้วยจรวด Falcon 9 เนื่องจากรุ่น V2 มีขนาดใหญ่จะต้องขนส่งด้วยยานสตาร์ชิปที่กำลังพัฒนาอยู่ในขณะนี้
ภารกิจนี้จะใช้บูสเตอร์ B1078 ขึ้นบินเป็นครั้งที่ 5 สำหรับนำกลับมาใช้ใหม่อย่างคุ้มค่า โดยผ่านภารกิจ Crew-6 ในการส่งนักบินอวกาศไปยังสถานีอวกาศนานาชาติ เมื่อ 2 มีนาคม 2023 และปล่อยดาวเทียมสื่อสาร O3b mPOWER 3 เมื่อ 28 เมษายน 2023, ปล่อยดาวเทียม Starlink Group 6-4 และ Group 6-8
หลังจากจรวด Falcon 9 ถูกปล่อยขึ้นไปประมาณ 2 นาทีครึ่ง บูสเตอร์ B1078 จะแยกตัวกลับมาลงจอดบนเรือโดรน Just Read the Instructions ที่จอดรออยู่ในมหาสมุทรแอตแลนติกในเวลาประมาณนาทีที่ 9 หลังจากปล่อยจรวด
ล่าสุด ณ วันที่ 12 กันยายน สเปซเอ็กซ์มีดาวเทียมสตาร์ลิงก์อยู่ในวงโครที่ 4,743 ดวง ซึ่งเป็นดาวเทียม Starlink V2 Mini ที่อยู่ในวงโคจรจำนวน 363 ดวง ทำงานผิดปกติ 14 ดวง ซึ่งทั้งหมดมาจากกลุ่มดาวเทียม Group 6 และ Group 7 เมื่อภารกิจนี้สำเร็จก็จะทำให้สเปซเอ็กซ์มีดาวเทียม Starlink V2 Mini อยู่ในวงโคจรเพิ่มขึ้นเป็น 385 ดวง และมีดาวเทียมในวงโคจรทั้งหมด 4,765 ดวง
ที่มา : spacex.com และ nextspaceflight.com
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส