วันพฤหัสบดีที่ 14 กันยายน นาซา (NASA) ได้เผยแพร่รายงาน 36 หน้า ในการตรวจสอบเกี่ยวกับการพบเห็น วัตถุบินไม่สามารถระบุได้ (Unidentified Flying Object – UFO) หลายร้อยครั้ง โดยชี้ว่าไม่มีหลักฐานที่แน่ชัดว่าปรากฏการณ์ผิดปกติที่อธิบายไม่ได้ (Unidentified Anomalous Phenomena – UAP) จะมีมนุษย์ต่างดาวเป็นผู้กระทำการอยู่เบื้องหลัง แต่นาซาก็ไม่อาจปฏิเสธถึงความเป็นไปได้ และถ้ายอมรับว่าเป็นไปได้ วัตถุเหล่านั้นจะต้องเดินทางผ่านระบบสุริยะเพื่อมายังโลก พร้อมเน้นย้ำว่าจำเป็นต้องมีข้อมูลที่ดีขึ้นเพื่อทําความเข้าใจกับปรากฏการณ์ที่ท้าทายเหล่านี้
ปี 2022 นาซาได้มอบหมายให้คณะผู้เชี่ยวชาญอิสระ 16 คน ช่วยประเมินเกี่ยวกับปรากฏการณ์ผิดปกติที่อธิบายไม่ได้ (UAP) ซึ่งได้ศึกษาการพบเห็นวัตถุในท้องฟ้าที่ไม่ได้ถูกระบุว่าเป็นเครื่องบินหรือเหตุการณ์ตามธรรมชาติอื่น ๆ เพื่อตรวจสอบว่านาซาจะมีส่วนร่วมทางวิทยาศาสตร์อย่างไรในการช่วยให้เข้าใจปรากฏการณ์เหล่านี้ได้ดีขึ้น ข้อมูลใดบ้างที่นักวิทยาศาสตร์ควรวิเคราะห์และใช้แมชชีนเลิร์นนิง
บิล เนลสัน (Bill Nelson) ผู้บริหารของนาซาเผยในระหว่างการบรรยายสรุปว่า สิ่งที่ดีที่สุดจากการศึกษาคือมีมากมายให้เรียนรู้ ทั้งนี้คณะผู้เชี่ยวชาญไม่พบหลักฐานใด ๆ ว่าปรากฏการณ์ UAP มีต้นกำเนิดมาจากนอกโลก (หรือ UFO) แต่ก็ไม่รู้ว่าปรากฏการณ์ UAP เหล่านั้นคืออะไร และนาซาได้แต่งตั้ง มาร์ค แมคอิเนอร์นีย์ (Mark McInerney) มานั่งเป็นผู้อํานวยการฝ่ายวิจัย UAP เพื่อรวบรวมทรัพยากรในการสร้างฐานข้อมูลสําหรับการประเมิน UAP ในอนาคต
รายงานได้กล่าวถึงการส่องแสงปริศนาของ UFO โดยให้คำแนะนำว่านาซาควรใช้ประโยชน์จากดาวเทียมสังเกตการณ์บนโลก ในการช่วยจัดหาข้อมูลและหลักฐานที่ดีขึ้นของปรากฏการณ์ UAP
เนลสันกล่าวว่าการพบเห็นปรากฏการณ์ UAP ส่วนใหญ่มีข้อมูลที่จำกัด ทำให้ยากต่อการสรุปทางวิทยาศาสตร์ ดังนั้นคณะศึกษาจึงต้องรวบรวมนักวิทยาศาสตร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านข้อมูลและ AI รวมทั้งผู้เชี่ยวชาญด้านการบินอวกาศ ซึ่งทั้งหมดนี้มีค่าใช้จ่ายในการบริการจัดการ
รายงานเผยว่าปรากฏการณ์ UAP มีขนาดเล็กไม่สามารถระบุได้ทันทีว่าเป็นปรากฏการณ์ที่มนุษย์สร้างขึ้นหรือเกิดจากธรรมชาติที่เรารู้จัก ซึ่งจะต้องศึกษาโดยใช้วิธีการเก็บข้อมูลแบบใหม่ที่มีประสิทธิภาพด้วยเทคนิคการวิเคราะห์ขั้นสูง
รายงานมีข้อเสนอแนะว่านาซาและเอกชนควรร่วมมือกันเติมเต็มข้อมูล ซึ่งดาวเทียมของนาซาไม่สามารถตรวจจับวัตถุขนาดเล็กในปรากฏการณ์ UAP ได้ จึงอาจต้องใช้การตรวจจับด้วยเซนเซอร์อื่น ๆ ทั้งนี้เครื่องมือของนาซาสามารถตรวจสอบได้ว่าปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อมมีความเกี่ยวข้องกับปรากฏการณ์ UAP หรือไม่ รวมทั้งดาวเทียมของเอกชนสามารถถ่ายภาพความละเอียดได้สูงกว่า (ก็อาจจะช่วยให้ดีขึ้นได้)
นอกจากนี้คณะผู้เชี่ยวชาญได้เสนอให้รวบรวมข้อมูลจากผู้สังเกตการณ์ทั่วโลก โดยการใช้แอปโอเพนซอร์สบนสมาร์ตโฟนมาช่วยรวบรวมข้อมูลภาพ และข้อมูลเมตาจากเซนเซอร์บนสมาร์ตโฟนเข้ามาไว้ด้วยกัน
ที่มา : cbsnews.com, space.com และ bbc.com
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส