สเปซเอ็กซ์ (SpaceX) กำลังจะปล่อยภารกิจ Group 6-23 ในการส่งดาวเทียมสตาร์ลิงก์ (Starlink) ไปยังวงโคจรระดับต่ำของโลกเพิ่มอีก 22 ดวง ที่ขับดันโดยจรวด Falcon 9 ออกจากแท่นปล่อยจรวด SLC-40 ที่สถานีกองทัพอากาศแหลมคะแนเวอรัล รัฐฟลอริดา ในวันอังคารที่ 17 ตุลาคม เวลา 5:20 p.m. ET (วันพุธ เวลา 03:49 น. ในประเทศไทย) ซึ่งจะเป็นเที่ยวบินที่ 70 ของจรวด Falcon 9 และภารกิจที่ 74 ของสเปซเอ็กซ์ในปี 2023
ภารกิจ Group 6-23 เป็นการปล่อยดาวเทียม Starlink V2 Mini ที่อยู่ในกลุ่มหรือเชลล์ 6 มีวงโคจรอยู่ที่ 530 กิโลเมตร มุมเอียง 43 องศา ทั้งนี้ V2 Mini ได้ถูกลดขนาดลงจากรุ่น V2 เพื่อให้รองรับการขนส่งด้วยจรวด Falcon 9 เนื่องจากรุ่น V2 มีขนาดใหญ่จะต้องขนส่งด้วยยานสตาร์ชิปที่กำลังพัฒนาอยู่ในขณะนี้
ภารกิจนี้จะใช้บูสเตอร์ B1062 ขึ้นบินเป็นครั้งที่ 16 สำหรับนำกลับมาใช้ใหม่อย่างคุ้มค่า โดยผ่านภารกิจปล่อยดาวเทียม GPS III SV04, ดาวเทียม GPS III SV05, ภารกิจ Inspiration4, เที่ยวบินโดยสารไปยังสถานีอวกาศนานาชาติ (ISS) ในภารกิจ Ax-1 (Axiom-1), ปล่อยดาวเทียมสื่อสารของอียิปต์ Nilesat 301, ภารกิจ OneWeb Launch 17, ภารกิจ ARABSAT BADR-8 และปล่อยดาวเทียมสตาร์ลิงก์ 8 ภารกิจ
หลังจากจรวด Falcon 9 ถูกปล่อยขึ้นไปประมาณ 2 นาทีครึ่ง บูสเตอร์ B1062 จะแยกตัวกลับมาลงจอดบนเรือโดรน Just Read the Instructions ที่จอดรออยู่ในมหาสมุทรแอตแลนติกในเวลาประมาณนาทีที่ 9 หลังจากปล่อยจรวด
ล่าสุด ณ วันที่ 13 ตุลาคม สเปซเอ็กซ์มีดาวเทียมสตาร์ลิงก์อยู่ในวงโคจรที่ 4,905 ดวง ซึ่งเป็นดาวเทียม Starlink V2 Mini ที่อยู่ในวงโคจรจำนวน 534 ดวง ทำงานผิดปกติ 17 ดวง ซึ่งทั้งหมดมาจากกลุ่มดาวเทียม Group 6 และ Group 7
เมื่อภารกิจนี้สำเร็จก็จะทำให้สเปซเอ็กซ์มีดาวเทียม Starlink V2 Mini อยู่ในวงโคจรเพิ่มขึ้นเป็น 556 ดวง และมีดาวเทียมในวงโคจรทั้งหมด 4,927 ดวง อัปเดตเดือนกันยายน เน็ตสตาร์ลิงก์มีสมาชิกใช้บริการประมาณ 2,000,000 ราย และเดือนตุลาคมได้เปิดให้บริการแล้วใน 63 ประเทศ
ที่มา : spacex.com
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส