สเปซเอ็กซ์ (SpaceX) กำลังจะปล่อยภารกิจ Group 6-25 ในการส่งดาวเทียมสตาร์ลิงก์ (Starlink) ไปยังวงโคจรระดับต่ำของโลกเพิ่มอีก 23 ดวง ที่ขับดันโดยจรวด Falcon 9 ออกจากแท่นปล่อยจรวด SLC-40 ที่สถานีกองทัพอากาศแหลมคะแนเวอรัล รัฐฟลอริดา ในวันอาทิตย์ที่ 29 ตุลาคม เวลา 7:45 p.m. ET (วันจันทร์ เวลา 06:45 น. ในประเทศไทย) ซึ่งจะเป็นเที่ยวบินที่ 74 ของจรวด Falcon 9 และภารกิจที่ 78 ของสเปซเอ็กซ์ในปี 2023
เที่ยวบินนี้สเปซเอ็กซ์จะถ่ายทอดสดภารกิจให้ติดตามดูกันได้ผ่านบริการ Broadcast บนแพลตฟอร์ม X (Twitter) ในชื่อบัญชี Official ของ SpaceX
ภารกิจ Group 6-25 เป็นการปล่อยดาวเทียม Starlink V2 Mini ที่อยู่ในกลุ่มหรือเชลล์ 6 มีวงโคจรอยู่ที่ 530 กิโลเมตร มุมเอียง 43 องศา ทั้งนี้ V2 Mini ได้ถูกลดขนาดลงจากรุ่น V2 เพื่อให้รองรับการขนส่งด้วยจรวด Falcon 9 เนื่องจากรุ่น V2 มีขนาดใหญ่จะต้องขนส่งด้วยยานสตาร์ชิปที่กำลังพัฒนาอยู่ในขณะนี้
ภารกิจนี้จะใช้บูสเตอร์ B1077 ขึ้นบินเป็นครั้งที่ 8 สำหรับนำกลับมาใช้ใหม่อย่างคุ้มค่า โดยได้ผ่านภารกิจ Crew-5 ในการส่ง 4 นักบินอวกาศของนาซาไปยังสถานีอวกาศนานาชาติ (ISS), ส่งดาวเทียมนำทาง GPS 3 SV06 ให้กับกองทัพอวกาศสหรัฐฯ, ส่งดาวเทียม Inmarsat 6-F2, ภารกิจ CRS-28 ส่งเสบียงไปยังสถานีอวกาศนานาชาติ, ส่งดาวเทียม Galaxy 37 ของ Intelsat และส่งดาวเทียมสตาร์ลิงก์ 2 ภารกิจ
หลังจากจรวด Falcon 9 ถูกปล่อยขึ้นไปประมาณ 2 นาทีครึ่ง บูสเตอร์ B1077 จะแยกตัวกลับมาลงจอดบนเรือโดรน Just Read the Instructions ที่จอดรออยู่ในมหาสมุทรแอตแลนติกในเวลาประมาณนาทีที่ 9 หลังจากปล่อยจรวด
ล่าสุด ณ วันที่ 29 ตุลาคม สเปซเอ็กซ์มีดาวเทียมสตาร์ลิงก์อยู่ในวงโคจรที่ 4,987 ดวง ซึ่งเป็นดาวเทียม Starlink V2 Mini ที่อยู่ในวงโคจรจำนวน 620 ดวง ทำงานผิดปกติ 18 ดวง ซึ่งทั้งหมดมาจากกลุ่มดาวเทียม Group 6 และ Group 7 เมื่อภารกิจนี้สำเร็จก็จะทำให้สเปซเอ็กซ์มีดาวเทียม Starlink V2 Mini อยู่ในวงโคจรเพิ่มขึ้นเป็น 643 ดวง และมีดาวเทียมในวงโคจรทั้งหมด 5,010 ดวง
ที่มา : spacex.com
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส