สเปซเอ็กซ์ (SpaceX) กำลังจะปล่อยภารกิจ Group 6-27 ในการส่งดาวเทียมสตาร์ลิงก์ (Starlink) ไปยังวงโคจรระดับต่ำของโลกเพิ่มอีก 23 ดวง ที่ขับดันโดยจรวด Falcon 9 ออกจากแท่นปล่อยจรวด SLC-40 ที่สถานีกองทัพอากาศแหลมคะแนเวอรัล รัฐฟลอริดา ในวันอังคารที่ 7 พฤศจิกายน เวลา 11:01 p.m. ET (วันพุธ เวลา 11.01 น. ในประเทศไทย) ซึ่งจะเป็นเที่ยวบินที่ 76 ของจรวด Falcon 9 และภารกิจที่ 80 ของสเปซเอ็กซ์ในปี 2023
ภารกิจ Group 6-27 เป็นการปล่อยดาวเทียม Starlink V2 Mini ที่อยู่ในกลุ่มหรือเชลล์ 6 มีวงโคจรอยู่ที่ 530 กิโลเมตร มุมเอียง 43 องศา ทั้งนี้ V2 Mini ได้ถูกลดขนาดลงจากรุ่น V2 เพื่อให้รองรับการขนส่งด้วยจรวด Falcon 9 เนื่องจากรุ่น V2 มีขนาดใหญ่จะต้องขนส่งด้วยยานสตาร์ชิปที่กำลังพัฒนาอยู่ในขณะนี้
ภารกิจนี้จะใช้บูสเตอร์ B1073 ขึ้นบินเป็นครั้งที่ 11 สำหรับนำกลับมาใช้ใหม่อย่างคุ้มค่า โดยผ่านภารกิจปล่อยดาวเทียมสื่อสาร SES-22, ขนส่งยานลงจอด HAKUTO-R ของ ispace ไปลงจอดบนดวงจันทร์, ดาวเทียมสื่อสาร Amazonas Nexus ของบริษัท Hispasat, CRS-27 ขนส่งเสบียงไปยัง ISS และอีก 6 ภารกิจในการปล่อยดาวเทียมสตาร์ลิงก์
หลังจากจรวด Falcon 9 ถูกปล่อยขึ้นไปประมาณ 2 นาทีครึ่ง บูสเตอร์ B1073 จะแยกตัวกลับมาลงจอดบนเรือโดรน Just Read the Instructions ที่จอดรออยู่ในมหาสมุทรแอตแลนติกในเวลาประมาณนาทีที่ 9 หลังจากปล่อยจรวด
ล่าสุด ณ วันที่ 5 พฤศจิกายน สเปซเอ็กซ์มีดาวเทียมสตาร์ลิงก์อยู่ในวงโคจรที่ 5,034 ดวง ซึ่งเป็นดาวเทียม Starlink V2 Mini ที่อยู่ในวงโคจรจำนวน 667 ดวง ทำงานผิดปกติ 18 ดวง ซึ่งทั้งหมดมาจากกลุ่มดาวเทียม Group 6 และ Group 7 เมื่อภารกิจนี้สำเร็จก็จะทำให้สเปซเอ็กซ์มีดาวเทียม Starlink V2 Mini อยู่ในวงโคจรเพิ่มขึ้นเป็น 690 ดวง และมีดาวเทียมในวงโคจรทั้งหมด 5,057 ดวง
เที่ยวบินนี้สเปซเอ็กซ์จะถ่ายทอดสดภารกิจให้ติดตามดูกันได้ผ่านบริการ Broadcast บนแพลตฟอร์ม X (Twitter) ในชื่อบัญชี Official ของ SpaceX
ที่มา : spacex.com
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส