สเปซเอ็กซ์ (SpaceX) กำลังจะปล่อยภารกิจ Group 7-7 ในการส่งดาวเทียมสตาร์ลิงก์ (Starlink) ไปยังวงโคจรระดับต่ำของโลกเพิ่มอีก 22 ดวง ที่ขับดันโดยจรวด Falcon 9 ออกจากแท่นปล่อยจรวด SLC-4E ที่ฐานทัพอวกาศแวนเดนเบิร์กในแคลิฟอร์เนีย รัฐฟลอริดา ในวันเสาร์ที่ 18 พฤศจิกายน เวลา 10:55 p.m. PT (ในประเทศไทย วันอาทิตย์ เวลา 13:55 น.) ภารกิจนี้จะเป็นเที่ยวบินที่ 81 ของจรวด Falcon 9 และภารกิจครั้งที่ 85 ของสเปซเอ็กซ์ในปี 2023
เที่ยวบินนี้สเปซเอ็กซ์จะถ่ายทอดสดภารกิจให้ติดตามดูกันได้ผ่านบริการ Broadcast บนแพลตฟอร์ม X (Twitter) ในชื่อบัญชี Official ของ SpaceX
ภารกิจ Group 7-7 เป็นการปล่อยดาวเทียม Starlink V2 Mini ที่อยู่ในกลุ่มหรือเชลล์ 7 มีวงโคจรอยู่ที่ 525 กิโลเมตร มุมเอียง 53 องศา ทั้งนี้ V2 Mini ได้ถูกลดขนาดลงจากรุ่น V2 เพื่อให้รองรับการขนส่งด้วยจรวด Falcon 9 เนื่องจากรุ่น V2 มีขนาดใหญ่จะต้องขนส่งด้วยยานสตาร์ชิปที่กำลังพัฒนาอยู่ในขณะนี้
ภารกิจนี้จะใช้บูสเตอร์ B1063 ขึ้นบินเป็นครั้งที่ 15 สำหรับนำกลับมาใช้ใหม่อย่างคุ้มค่า โดยผ่านภารกิจปล่อยดาวเทียม Sentinel 6A สำหรับวัดระดับน้ำทะเล, ปล่อยยานอวกาศ DART เพื่อทดสอบการป้องกันดาวเคราะห์น้อย, ภารกิจ Transporter-7 มหกรรมแชร์เที่ยวบิน, ภารกิจแชร์เที่ยวบิน Iridium OneWeb, ภารกิจ SDA-0B และปล่อยดาวเทียมสตาร์ลิงก์ 9 เที่ยวบิน
หลังจากจรวด Falcon 9 ถูกปล่อยขึ้นไปประมาณ 2 นาทีครึ่ง บูสเตอร์ B1063 จะแยกตัวกลับมาลงจอดบนเรือโดรน Of Course I Still Love You ที่จอดรออยู่ในมหาสมุทรแปซิฟิกในเวลาประมาณนาทีที่ 9 หลังจากปล่อยจรวด
ล่าสุด ณ วันที่ 18 พฤศจิกายน สเปซเอ็กซ์มีดาวเทียมสตาร์ลิงก์อยู่ในวงโคจรที่ 5,077 ดวง ซึ่งเป็นดาวเทียม Starlink V2 Mini ที่อยู่ในวงโคจรจำนวน 713 ดวง ทำงานผิดปกติ 18 ดวง ซึ่งทั้งหมดมาจากกลุ่มดาวเทียม Group 6 และ Group 7 เมื่อภารกิจนี้สำเร็จก็จะทำให้สเปซเอ็กซ์มีดาวเทียม Starlink V2 Mini อยู่ในวงโคจรเพิ่มขึ้นเป็น 735 ดวง และมีดาวเทียมในวงโคจรทั้งหมด 5,099 ดวง
ที่มา : spacex.com และ nextspaceflight.com
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส