วันจันทร์ที่ 27 พฤศจิกายน เวลา 11:20 p.m. ET (วันที่ 28 เวลา 11:20 น. ในประเทศไทย) สเปซเอ็กซ์ (SpaceX) ได้ปล่อยภารกิจ Group 6-30 ในการส่งดาวเทียมสตาร์ลิงก์ (Starlink) ไปยังวงโคจรระดับต่ำของโลกเพิ่มอีก 30 ดวง ที่ขับดันโดยจรวด Falcon 9 ออกจากแท่นปล่อยจรวด SLC-40 ที่สถานีกองทัพอากาศแหลมคะแนเวอรัล รัฐฟลอริดา ได้สำเร็จ ซึ่งเป็นเที่ยวบินที่ 83 ของจรวด Falcon 9 และภารกิจที่ 87 ของสเปซเอ็กซ์ในปี 2023
หลังสิ้นสุดภารกิจนี้ได้ทำให้สเปซเอ็กซ์มีดาวเทียม Starlink V2 Mini อยู่ในวงโคจรเพิ่มขึ้นเป็น 759 ดวง และมีดาวเทียมในวงโคจรทั้งหมด 5,836 ดวง ทั้งนี้เมื่อเดือนกันยายน สเปซเอ็กซ์มีสมาชิกใช้งานเน็ตสตาร์แล้ว 2,000,000 ราย และเปิดให้บริการเน็ตสตาร์ลิงก์แล้วใน 66 ประเทศ ซึ่งเดือนพฤศจิกายนได้เปิดให้บริการใหม่ใน 3 ประเทศ
ภารกิจ Group 6-30 เป็นการปล่อยดาวเทียม Starlink V2 Mini ที่อยู่ในกลุ่มหรือเชลล์ 6 มีวงโคจรอยู่ที่ 530 กิโลเมตร มุมเอียง 43 องศา ทั้งนี้ V2 Mini ได้ถูกลดขนาดลงจากรุ่น V2 เพื่อให้รองรับการขนส่งด้วยจรวด Falcon 9 เนื่องจากรุ่น V2 มีขนาดใหญ่จะต้องขนส่งด้วยยานสตาร์ชิปที่กำลังพัฒนาอยู่ในขณะนี้
ภารกิจนี้ได้ใช้บูสเตอร์ B1062 ขึ้นบินเป็นครั้งที่ 17 สำหรับนำกลับมาใช้ใหม่อย่างคุ้มค่า โดยผ่านภารกิจปล่อยดาวเทียม GPS III SV04, ดาวเทียม GPS III SV05, ภารกิจ Inspiration4, เที่ยวบินโดยสารไปยังสถานีอวกาศนานาชาติ (ISS) ในภารกิจ Ax-1 (Axiom-1), ปล่อยดาวเทียมสื่อสารของอียิปต์ Nilesat 301, ภารกิจ OneWeb Launch 17, ภารกิจ ARABSAT BADR-8 และดาวเทียมสตาร์ลิงก์ 10 ภารกิจ
หลังจากจรวด Falcon 9 ถูกปล่อยขึ้นไปประมาณ 2:36 บูสเตอร์ B1062 ได้แยกตัวกลับมาลงจอดบนเรือโดรน Just Read the Instructions ที่จอดรออยู่ในมหาสมุทรแอตแลนติกในเวลา 8:30 หลังจากปล่อยจรวด (ชมคลิป)
ที่มา : spacex.com
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส