สเปซเอ็กซ์ (SpaceX) จะปล่อยภารกิจ USSF-52 ของกองทัพอากาศสหรัฐฯ ด้วยจรวด Falcon Heavy ในส่งเครื่องบินอวกาศ X-37B หรือที่รู้จักในชื่อ OTV-7 ไปยังวงโคจร ซึ่งออกจากแท่นปล่อยจรวด LC-39A ที่ศูนย์อวกาศเคนเนดีในรัฐฟลอริดา ในวันจันทร์ที่ 11 ธันวาคม เวลา 08:14 p.m. ET (08:14 น. วันอังคาร ในประเทศไทย) และเป็นเที่ยวบินทดสอบครั้งที่ 7 ของเครื่องบินอวกาศ X-37B
X-37B เป็นยานทดสอบไร้คนขับที่ออกแบบและผลิตโดย Boeing และดำเนินการใช้งานโดยกองทัพอวกาศสหรัฐฯ ซึ่งเครื่องบินอวกาศที่นำกลับมาใช้ใหม่นี้ถูกพัฒนามาจากเครื่องบินโบอิ้ง X-40 รุ่นก่อน ๆ และมีการออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์ที่คล้ายคลึงกับยานอวกาศโคจรที่เป็นส่วนประกอบในกระสวยอวกาศ
USSF-52 เป็นภารกิจแรกของจรวด Falcon Heavy สำหรับกองทัพอากาศสหรัฐฯ ซึ่งจรวด Falcon Heavy ของสเปซเอ็กซ์สามารถชนะการประมูลแข่งกับจรวด Delta IV Heavy ของ ULA มาได้ด้วยมูลค่า 130 ล้านเหรียญ (4,635 ล้านบาท)
USSF-52 เป็นเที่ยวบินครั้งที่ 5 ของจรวด Falcon Heavy ในปี 2023 หลังจากผ่านเที่ยวบินครั้งที่ 4 ในภารกิจ Psyche สำหรับการสำรวจดาวเคราะห์น้อยของ NASA เมื่อ 13 ตุลาคม, เที่ยวบินที่ 3 ในภารกิจ EchoStar 24 (Jupiter 3) ดาวเทียมสื่อสารเชิงพาณิชย์, เที่ยวบินที่ 2 ในภารกิจปล่อยดาวเทียมสื่อสาร ViaSat-3 Americas และเที่ยวบินแรกของปีคือ ภารกิจ USSF-67 ของกองทัพอวกาศสหรัฐฯ
Falcon Heavy เป็นจรวดที่ใช้ในการบรรทุกน้ำหนักสูงไปยังอวกาศของสเปซเอ็กซ์ ซึ่งพัฒนามาจากจรวด Falcon 9 โดยการเพิ่มส่วนของบูสเตอร์ 2 ลำขนาบไว้ด้านข้าง ทั้งนี้บูสเตอร์ทั้ง 2 ข้างในภารกิจนี้ประกอบด้วย B1064 และ B1065 ที่ผ่านเที่ยวบินมาแล้ว 4 ครั้งเหมือนกัน ได้แก่ USSF-44, USSF-67, Hughes JUPTER 3 และ Psyche ของนาซา
บูสเตอร์ทั้ง 2 ข้างของจรวด Falcon Heavy จะบินกลับมาลงจอดหลังจากแยกตัวเพื่อนำมาใช้ใหม่ โดยบูสเตอร์ B1064 จะกลับมาลงจอดที่โซนลงจอด 1 ส่วนบูสเตอร์ B1065 จะกลับมาลงจอดที่โซนลงจอด 2 ณ สถานีกองทัพอากาศแหลมคะแนเวอรัล รัฐฟลอริดา ส่วนแกนกลางก็คือบูสเตอร์ B1084 จะขึ้นบินเป็นเที่ยวบินแรก แต่ไม่มีการกู้คืนนำกลับมาใช้ใหม่
ที่มา : nextspaceflight, spacex.com และ everydayastronaut.com
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส