สเปซเอ็กซ์ (SpaceX) กำลังจะปล่อยภารกิจ Group 7-9 ในการส่งดาวเทียมสตาร์ลิงก์ (Starlink) ไปยังวงโคจรระดับต่ำของโลกเพิ่มอีก 21 ดวง ที่ขับดันโดยจรวด Falcon 9 ออกจากแท่นปล่อยจรวด SLC-4E ที่ฐานทัพอวกาศแวนเดนเบิร์กในแคลิฟอร์เนีย รัฐฟลอริดา ในวันพฤหัสบดีที่ 8 ธันวาคม เวลา 9:04 p.m. PT (วันศุกร์ เวลา 12:04 น. ในประเทศไทย) ภารกิจนี้จะเป็นเที่ยวบินที่ 88 ของจรวด Falcon 9 และภารกิจครั้งที่ 92 ของสเปซเอ็กซ์ในปี 2023
ภารกิจ Group 7-9 เป็นการปล่อยดาวเทียม Starlink V2 Mini ที่อยู่ในกลุ่มหรือเชลล์ 7 มีวงโคจรอยู่ที่ 525 กิโลเมตร มุมเอียง 53 องศา ทั้งนี้ V2 Mini ได้ถูกลดขนาดลงจากรุ่น V2 เพื่อให้รองรับการขนส่งด้วยจรวด Falcon 9 เนื่องจากรุ่น V2 มีขนาดใหญ่จะต้องขนส่งด้วยยานสตาร์ชิปที่กำลังพัฒนาอยู่ในขณะนี้
เที่ยวบินนี้สเปซเอ็กซ์ได้รวมดาวเทียมสตาร์ลิงก์ 6 ดวงแรกที่มีคุณสมบัติ Direct to Cell ซึ่งจะช่วยให้ผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือทั่วโลก สามารถเข้าถึงการส่งข้อความ การโทรด้วยเสียง และการท่องเว็บบนโทรศัพท์ LTE จากทั่วโลกได้อย่างราบรื่น ไม่ว่าจะอยู่ที่ใดทั้งบนผืนแผ่นดิน ทะเลสาบ หรือน่านน้ำชายฝั่ง (จุดเชื่อมต่อระหว่างพื้นดินและมหาสมุทร) รวมทั้งเชื่อมต่ออุปกรณ์ IoT ได้ตามมาตรฐาน LTE ทั่วไป
ภารกิจนี้จะใช้บูสเตอร์ B1082 ขึ้นบินเป็นครั้งแรก ซึ่งหลังจากจรวด Falcon 9 ถูกปล่อยขึ้นไปประมาณ 2 นาทีครึ่ง บูสเตอร์ B1082 จะแยกตัวกลับมาลงจอดบนเรือโดรน Of Course I Still Love You ที่จอดรออยู่ในมหาสมุทรแปซิฟิกในเวลาประมาณนาทีที่ 9 หลังจากปล่อยจรวด
ล่าสุด ณ วันที่ 14 ธันวาคม สเปซเอ็กซ์มีดาวเทียมสตาร์ลิงก์อยู่ในวงโคจรที่ 5,205 ดวง ซึ่งเป็นดาวเทียม Starlink V2 Mini ที่อยู่ในวงโคจรจำนวน 849 ดวง ทำงานผิดปกติ 18 ดวง ซึ่งทั้งหมดมาจากกลุ่มดาวเทียม Group 6 และ Group 7 เมื่อภารกิจนี้สำเร็จก็จะทำให้สเปซเอ็กซ์มีดาวเทียม Starlink V2 Mini อยู่ในวงโคจรเพิ่มขึ้นเป็น 870 ดวง และมีดาวเทียมในวงโคจรทั้งหมด 5,226 ดวง
เที่ยวบินนี้สเปซเอ็กซ์จะถ่ายทอดสดภารกิจให้ติดตามดูกันได้ผ่าน Broadcast บนแพลตฟอร์ม X (Twitter) ในชื่อบัญชี Official ของ SpaceX
ที่มา : spacex.com
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส