นาซาได้อัปเดตแผนการสำรวจดวงจันทร์ว่า ภารกิจ Artemis IV จะส่ง 4 นักบินอวกาศขึ้นไปพักอาศัย และทำงานอยู่บน Gateway สถานีอวกาศที่โคจรรอบดวงจันทร์แห่งแรกของมนุษย์โลก ซึ่งจะใช้ทดลองทางวิทยาศาสตร์และเตรียมพร้อมในการส่งนักบินอวกาศไปยังดาวอังคาร หลังจากเมื่อเดือนมกราคม นาซาได้ประกาศเลื่อนภารกิจ Artemis II การส่งนักบินอวกาศบินผ่านดวงจันทร์แล้วกลับมายังโลก ซึ่งขยับจากปี 2024 ไปเป็นเดือนกันยายน 2025 และปล่อยภารกิจ Artemis III การส่งนักบินอวกาศกลับไปเหยียบพื้นผิวดวงจันทร์ในปี 2026
นาซาจะร่วมมือกับประเทศพันธมิตรและบริษัทเอกชนสร้างสถานีอวกาศ Gateway ซึ่งจะมีท่าสำหรับเชื่อมต่อยานอวกาศที่หลากหลาย มีพื้นที่สำหรับนักบินอวกาศอยู่อาศัย ทำงาน และเตรียมพร้อมในการไปสำรวจพื้นผิวของดวงจันทร์ โดยจะมีเครื่องมือทางวิทยาศาสตร์สำหรับศึกษาสุริยฟิสิกส์ สุขภาพของมนุษย์ วิทยาศาสตร์เพื่อชีวิตและอื่น ๆ นอกจากนี้จะโคจรเป็นวงรีเพื่อช่วยให้เข้าถึงพื้นผิวดวงจันทร์จากวงโคจรระดับต่ำของดวงจันทร์
ตอนนี้กำลังสร้าง Gateway ด้วยการประกอบ 2 โมดูลแรก คือ โมดูล PPE แหล่งพลังงานและการขับเคลื่อนที่สร้างโดย Maxar และโมดูล HALO เป็นที่พักอาศัยและระบบขนส่ง จากนั้นจะปล่อยสู่อวกาศด้วยจรวด Falcon Heavy ของสเปซเอ็กซ์ แล้วส่วนประกอบต่าง ๆ จะเดินทางไปสู่วงโคจรของดวงจันทร์โดยใช้เวลานานประมาณ 1 ปี ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานแสงอาทิตย์
ต่อจากนั้นจะส่งยานอวกาศ Starship ของสเปซเอ็กซ์ ซึ่งจะนำชุดอวกาศรุ่นใหม่ไปทดสอบเดินบนดวงจันทร์ และการส่งยาน SpaceX Dragon XL เพื่อขนส่งการทดลองทางวิทยาศาสตร์และอุปกรณ์อื่น ๆ สำหรับใช้ในภารกิจไปยัง Gateway
สุดท้ายจะส่งนักบินอวกาศ Artemis IV พร้อมกับขนส่งโมดูลที่อยู่อาศัยหลังที่ 2 คือ I-Hab ซึ่งจัดทำโดยองค์การอวกาศยุโรป (ESA) สำหรับพักอาศัย ทำงาน ทดลองด้านวิทยาศาสตร์ และเตรียมพร้อมสำหรับภารกิจบนพื้นผิวของดวงจันทร์ นอกจากนี้จะมีระบบช่วยชีวิตที่จัดทำโดยองค์การอวกาศญี่ปุ่น (JAXA) ซึ่งจะถูกขนส่งด้วยจรวด SLS ของนาซาที่มีการอัปเกรดจรวดให้บรรทุกน้ำหนักไปยังดวงจันทร์ได้ 84,000 ปอนด์ (38,101 กิโลกรัม)