นาซา (NASA) เผยว่ายานอวกาศ Boeing Starliner ที่เดินทางกลับมายังโลกโดยไร้คนขับ ได้ลงจอดในทะเลทรายที่ท่าอวกาศยาน White Sands Space Harbor ในนิวเม็กซิโกอย่างปลอดภัย เมื่อ 7 กันยายน เวลา 12:01 a.m. EDT (ในประเทศไทย วันที่ 8 เวลา 11.01 น.) หลังจากได้ปลดล็อกออกจากท่าของสถานีอวกาศนานาชาติ (ISS) เมื่อวันวันศุกร์ที่ 6 กันยายน เวลา 18:04 น. EDT (ในประเทศไทย วันที่ 7 เวลา 05:04 น.)
เมื่อยาน Starliner กลับเข้าสู่ชั้นบรรยากาศของโลก (ปกติที่ระดับความสูง 121 กิโลเมตร) ก็ได้ชะลอความเร็วลงจากความเร็ววงโคจรที่ 17,500 ไมล์ต่อชั่วโมง (28,163 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) ซึ่งตัวยานจะมีโล่กันความร้อนปกป้องไม่ให้ตัวยานระเบิด และเมื่อลงมาที่ระดับความสูง 30,000 ฟุต (9.14 กิโลเมตร) ก็ได้แยกโล่ป้องกันความร้อนด้านหน้าออกจากตัวยาน และกางร่มชูชีพ Drogue เพื่อลดความเร็ว
ต่อมาที่ระดับความสูง 8,000 ฟุต (2.43 กิโลเมตร) ได้ปลดร่มชูชีพ Drogue ออก จากนั้นปลดแผ่นป้องกันความร้อนที่ฐานของยานออกไป พร้อมเปิดถุงลมนิรภัย 6 ใบ และกางร่มชูชีพหลักขนาดใหญ่ 3 ลูก เพื่อช่วยชะลอความเร็วลงเหลือ 4 ไมล์ต่อชั่วโมง (6.43 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) ซึ่งทำให้ยานสามารถลงจอดบนพื้นได้อย่างนิ่มนวล
นาซาและโบอิ้งได้ปล่อยยาน Starliner ส่ง 2 นักบินอวกาศไปจอดเทียบท่าสถานีอวกาศนานาชาติ (ISS) ได้อย่างปลอดภัยเมื่อ 6 มิถุนายน แต่เนื่องจากพบว่ายานมีปัญหาเครื่องขับดันเสียและมีก๊าซฮีเลียมรั่วไหล ซึ่งการแก้ไขปัญหาและการตรวจสอบความปลอดภัยได้มีความล่าช้านานกว่า 2 เดือน
ต่อมา 24 สิงหาคม นาซาได้ตัดสินใจให้นำยานอวกาศ Starliner กลับมายังโลกโดยไม่มีนักบินอวกาศควบคุม และเพื่อความปลอดภัยได้กำหนดให้ 2 นักบินอวกาศ บัช วิลมอร์ (Butch Wilmore) และซูนี วิลเลียมส์ (Suni Williams) อยู่ช่วยทำภารกิจบน ISS ต่อไปจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2025 จากนั้นจะได้กลับมายังโลกด้วยยานอวกาศ SpaceX Crew Dragon ในภารกิจ Crew-9 ที่จะปล่อยภารกิจช่วงปลายเดือนนี้ ซึ่งจะมีการจัดที่นั่งใหม่ให้ว่าง 2 ที่สำหรับวิลมอร์และวิลเลียมส์นั่งกลับมายังโลก