ปีนี้ถือว่าความหนาวทำหน้าที่ได้สมศักดิ์ศรีสุด ๆ โดยกรมอุตุนิยมวิทยากล่าวว่าเมื่อวันที่ 13 ม.ค. 68 มีอากาศหนาวเย็นที่สุดในรอบปีนี้และหลายปีที่ผ่านมา อุณหภูมิต่ำที่สุดอยู่ที่จังหวัดสกลนคร (6.6 องศาเซลเซียส) หลายพื้นที่มีอากาศหนาวถึงหนาวจัด รวมทั้งพื้นที่บริเวณพื้นที่ กทม. และปริมณฑล โดยอุณหภูมิต่ำสุดบริเวณพื้นที่ปริมณฑล วัดได้ 14.8 องศาเซลเซียส ที่นครปฐม ส่วนในพื้นที่ กทม. ต่ำสุด 15.2 องศาเซลเซียส ที่บางนาและที่สนามบินสุวรรณภูมิอยู่ที่ 15.9 องศาเซลเซียส

สาเหตุแท้จริงของความหนาว
สงสัยกันไหมว่าทำไมปีนี้มันช่างหนาวเหลือเกิน ชนิดที่ว่าคุ้มค่าเสื้อกันหนาวที่ซื้อมาสักที ซึ่งนักวิชาการด้านสิ่งแวดล้อมไทย สนธิ คชวัฒน์ เผยว่า ผลมาจากการที่ประเทศจีนมีอากาศหนาวมากสุดในรอบ 30 ปี (จากปรากฏการณ์ Polar Vortex) จึงทำให้เกิดมวลอากาศเย็นจัด แผ่ขยายลงมายังประเทศทางใต้ใกล้กับเส้นศูนย์สูตร นำพาความหนาวเย็นปกคลุมภาคเหนือของไทยและประเทศใกล้เคียง พัดลงมาเป็นระลอก ๆ จึงทำให้ไทยมีอากาศหนาวเย็นมากกว่าปกติและหนาวนานกว่าปีก่อน ๆ นั่นเอง
แสดงว่าไทยได้รับผลกระทบโดยตรงจาก Polar Vortex ?
แต่อย่าเพิ่งสับสนล่ะว่า Polar Vortex มีผลกระทบกับไทยโดยตรง เพราะกรมอุตุนิยมวิทยาเคยกล่าวไว้ว่า “ปรากฏการณ์ Polar Vortex ที่อ้างถึงดังกล่าว มักจะไม่มีผลกระทบถึงประเทศไทยเพราะกระแสลมวนที่ไหลเวียนจากทางด้านตะวันตกไปตะวันออก จะมีเทือกเขาสูงกีดขวางเป็นอุปสรรคคือเทือกเขาหิมาลัย ซึ่งเป็นเทือกเขาที่สูง ทำให้ทิศทางลมของกระแสลมวนที่ไหลเวียนลงมาเปลี่ยนทิศทางไป โอกาสที่นำความหนาวเย็นจากขั้วโลกเหมือนที่เคยเกิดขึ้นในประเทศสหรัฐอเมริกาเกิดขึ้นได้ค่อนข้างยาก ดังนั้นอุณหภูมิที่ลดลงในระยะนี้ จึงไม่ได้มาจากอิทธิพลของกระแสลมวนขั้วโลก (Polar Vortex) ดังกล่าวแต่อย่างใด” ทำให้ความหนาวในครั้งนี้เป็นเพียงความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นจากจีนที่แผ่ขยายลงมายังประเทศไทยเท่านั้น
โดยทางกรมอุตุนิยมวิทยาชี้ว่าช่วงนี้จะหนาว ๆ เย็น ๆ ไปจนถึงกลางเดือนกุมภาพันธ์เลยทีเดียว ทั้งนี้ขอให้ทุกคนระวังภัยเงียบที่มากับหน้าหนาวอย่างฝุ่น PM 2.5 กันด้วยนะ