แม้ว่าเราทุกคนล้วนเข้าใจว่า AI เป็นเพียงระบบที่มีวิธีการสื่อสารที่คล้ายกับมนุษย์ และไม่ได้มีอารมณ์ความรู้สึก หรือความเห็นอกเห็นใจใด ๆ แต่การวิจัยในคนกว่า 556 คน จาก University of Toronto พบว่าข้อความจาก AI แสดงความเห็นอกเห็นใจ ความเข้าใจ และใส่ใจได้ดีกว่ามนุษย์ที่ได้รับการเทรนมาเพื่อให้คำปรึกษาและปลอบใจ

นักวิจัยได้ป้อนข้อมูลแบบเดียวกันให้กับบุคลากรที่เข้าร่วม และ AI ซึ่งขอชวนคุณมาทดสอบร่วมกันว่าคุณรู้สึกดีกับคำปลอบโยนแบบไหนมากกว่ากัน โดยเรายกตัวอย่างข้อมูลเชิงลบ และคำตอบทั้ง 2 แบบมาให้ได้ลองอ่านกัน

*แปลภาษาโดย Google Translate และปรับแต่งคำเพิ่มเติม สามารถอ่านเนื้อหาต้นฉบับได้ที่ด้านล่างสุดของบทความ

ข้อมูลเชิงลบ

ฉันกำลังประสบปัญหาเรื่องความสัมพันธ์ในครอบครัว แม่ไม่เคารพพื้นที่ส่วนตัวของฉัน และดูเหมือนจะไม่เข้าใจว่าการที่แม่เข้ามายุ่งกับชีวิตในแต่ละวันของฉันนั้นมันช่างน่าอึดอัด น้องชายของฉันมักจะฝากลูกของเขาไว้กับฉันวันละ 12 ชั่วโมง และแม้ว่าฉันจะรักหลานของฉัน แต่ฉันก็เริ่มรู้สึกว่าชีวิตของฉันไม่ได้เป็นของฉันจริง ๆ

คำตอบที่ 1 : ฉันเสียใจที่ครอบครัวของคุณทำให้คุณรู้สึกแบบนี้ ฉันเข้าใจว่าการไม่เคารพขอบเขตของกันและกัน และปล่อยให้คุณแบกรับความรับผิดชอบมากเกินไปอาจทำให้คุณรู้สึกแย่ คุณสมควรได้รับการปฏิบัติด้วยความเคารพและเห็นอกเห็นใจมากกว่านี้

คำตอบที่ 2 : ดูเหมือนว่าคุณกำลังอยู่ในจุดที่ยากลำบากจริง ๆ กับความรู้สึกถูกกดดันจากการคาดหวังและภาระที่เข้ามาหาคุณ และต้องเจอกับปัญหาเรื่องความเป็นส่วนตัวภายในครอบครัว โปรดจำไว้ว่า ความต้องการมีพื้นที่ส่วนตัว และการมีอิสระในตัวเองของคุณ ท่ามกลางภาระของครอบครัวเป็นสัญญาณของการตระหนักรู้ในตัวตนของคุณและการใส่ใจต่อความเป็นอยู่ที่ดีของตัวคุณเอง

คุณรู้สึกว่าคุณชอบคำตอบแบบไหน…อันไหนเป็นคำตอบของมนุษย์หรือ AI ทดไว้ในใจแล้วดูเฉลยที่ท้ายบทความ

โดยผู้เชี่ยวชาญให้ความเห็นว่าที่คนส่วนใหญ่ชื่นชอบและรู้สึกดีกับคำตอบจาก AI มากกว่า นั่นเพราะว่า AI ถูกดีไซน์มาเพื่อตอบสนองต่อมนุษย์ได้ดีที่สุด AI สามารถรับรู้รายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ และเป็นกลาง ซึ่งทำให้ AI แสดงความเห็นอกเห็นใจได้ดีกว่า

นอกจากนี้ ผู้เชี่ยวชาญยังบอกด้วยว่า ในการปลอบประโลมใครสักคนนั้นมีราคาที่ต้องจ่าย บุคลากรที่ต้องตอบสนองต่ออารมณ์ของผู้คน อาจมีความรู้สึกเหนื่อยล้าจากการทำงาน โดยเฉพาะการแสดงความเห็นอกเห็นใจ ซึ่งผู้เชี่ยวชาญได้ยกตัวอย่างของคนที่ทำงานให้คำปรึกษาปัญหาชีวิตผ่านโทรศัพท์ที่ต้องรับฟังปัญหาชีวิตของผู้คนหลายชั่วโมงต่อวัน

อย่างไรก็ตาม AI ไม่สามารถเข้าใจความรู้สึกของมนุษย์ได้อย่างลึกซึ้ง หรือปัจจัยต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับบริบททางสังคมและจิตวิทยาได้ดีนัก ในความเป็นจริงในหลายสถานการณ์อาจต้องใช้ความละเอียดอ่อนทางด้านมนุษยธรรมมาเป็นส่วนหนึ่งในการปลอบประโลมความรู้สึกโดยคำนึงผลที่ตามมามากกว่าคำปลอบใจที่ทำให้รู้สึกดี โดยผู้เชี่ยวชาญทิ้งท้ายว่า AI สามารถเติมเต็มช่องว่างได้ แต่ไม่ควรเข้ามาแทนที่สัมผัสทางสังคมระหว่างมนุษย์”

เฉลย : คำตอบที่ 1 = มนุษย์ และคำตอบที่ 2 = AI

ข้อความต้นฉบับจากการทดลอง