“ผมขอโทษเดฟ ผมเกรงว่าผมจะทำอย่างนั้นไม่ได้”

ผู้ชมที่เคยได้รับชมนิยายวิทยาศาสตร์เรื่อง “2001: A Space Odyssey” คงจะคุ้นกันดี เมื่อหุ่นยนต์ที่มีชื่อว่า HAL 9000 มีความคิดเป็นของตนเอง และ เลือกที่จะปฏิเสธการรับคำสั่งจากนักบินอวกาศผู้ควบคุมยาน

50 ปีหลังจากที่ผู้กำกับ Stanley Kubrick ได้ปล่อยผลงานชิ้นเอกของเขาเกี่ยวกับการล่าอาณานิคมในอวกาศ ในเรื่องมนุษย์มีเพื่อนร่วมทางเป็นปัญญาประดิษฐ์ ( Artificial intelligence : AI) ที่เราไม่สามารถควบคุมได้ แล้วเราใกล้เข้าถึงจุดนั้นกันแล้วหรือยัง?

เครื่องจักรที่มีความฉลาด และ บางทีอาจเป็นอันตรายเช่นเดียวกับ HAL ที่แฝงตัวอยู่ทั่วไปบนโลกของเรา อ้างอิงจาก the journal Science Robotics. Robin Murphy ศาสตราจารย์ด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์และวิศวกรรมที่ Texas A & M University ผู้เขียนวิจัยนี้กล่าวว่า ภาพลักษณ์ของ AI ที่ Kubrick สื่อออกมาผ่านทาง HAL ถือเป็นมุมมองที่หาได้ยาก แสดงถึงสิ่งสำคัญ 3 อย่างที่มีความสำคัญต่อการพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ นั่นคือ การเข้าใจภาษาโดยธรรมชาติ การมองเห็นของคอมพิวเตอร์ และ การให้เหตุผล

HAL เรียนรู้จากการสังเกตสิ่งแวดล้อม วิเคราะห์คำพูด การแสดงออกทางสีหน้า และ การเคลื่อนไหวของนักบินอวกาศในยาน HAL มีหน้าที่ต่างๆ เช่น การรักษายาน แต่ในฐานะที่เป็นคอมพิวเตอร์ที่ HAL ก็สามารถตอบสนองการสนทนากับนักบินอวกาศได้ อย่างไรก็ตามเมื่อภารกิจล้มเหลว และมนุษย์อวกาศตัดสินใจที่จะปิด HAL ลง AI จึง ได้ข้อสรุปใหม่ที่ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของการเขียนโปรแกรมต้นฉบับ การตัดสินใจที่จะเอาตัวรอดโดยการฆ่าคนที่อยู่บนยาน สิ่งที่ AI ทำจึงเกิดเป็นอันตรายมากกว่าผลดี

ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่าในอนาคต AI อาจมีบทบาทสำคัญต่อการขัดแย้งในระดับโลก เช่นเดียวกับ Stephen Hawking ที่ได้กล่าวกับสำนักข่าว BBC ในปี 2014 ว่า AI อาจเป็นภัยคุกคามที่ยิ่งใหญ่ที่ต่อการอยู่รอดของมนุษย์ แต่สำหรับตอนนี้อาจกล่าวได้ว่าโอกาสที่จะเกิดขึ้นอาจยังห่างไกล แต่เราทุกคนก็ต้องยอมรับว่าในปัจจุบันนี้ AI เริ่มเข้ามามีบทบาทต่อชีวิตของเรามากขึ้นเรื่อยๆแล้ว

อ้างอิง