Roger Kneebone ศาสตราจารย์ด้านการศึกษาเกี่ยวกับศัลยกรรม ของมหาวิทยาลัย Imperial ณ กรุงลอนดอนกล่าวว่า คนรุ่นใหม่มีประสบการณ์การใช้ทักษะที่น้อย นั่นทำให้พวกเขาอาจพบปัญหาเมื่อลงมือปฏิบัติงานจริง มันเป็นเรื่องที่สำคัญมากสำหรับนักเรียนแพทย์ เพราะการที่พวกเขาได้เกรดสูงในมหาวิทยาลัย นั่นไม่ได้หมายความว่าเขาสามารถผ่าตัดได้อย่างดี มันเป็นความกังวลที่เกิดกับศาสตราจารย์ และเพื่อนร่วมวิชาชีพ ที่ตั้งความหวังไว้ว่าแพทย์รุ่นใหม่จะสามารถประยุกต์ความรู้ให้เกิดประโยชน์ได้ แต่มันกลับไม่เป็นเช่นนั้น
ศาสตราจารย์ผู้สอนวิชาการผ่าตัดกล่าวว่านักเรียนแพทย์ควรได้รับการเรียนองค์รวมทั้งทางด้าน การสร้างสรรค์ และศิลปะ มากกว่านี้ เพื่อที่เขาจะได้เรียนรู้การใช้มือของพวกเขาในการเย็บ และผ่าตัดได้เป็นอย่างดี เขาได้เห็นทักษะของนักเรียนแพทย์ตลอดเวลา 10 ปีที่ผ่านมา ซึ่งมันเป็นปัญหาสำหรับศัลยแพทย์ ที่ต้องการความชำนาญในด้านงานฝีมือ และความรู้ทางวิชาการ ทักษะบางอย่างเราจะได้รับจากที่บ้านไม่ก็ที่โรงเรียน ไม่ว่าจะเป็นการตัดเย็บ การชั่งส่วนผสม การซ่อมแซมสิ่งของ งานไม้ หรือแม้กระทั่งการเล่นดนตรี แต่นักเรียนที่เข้ามาเรียนกลับมีความมั่นใจ และทักษะที่น้อยมาก
Alice Barnard หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านการศึกษากล่าวว่า ทางรัฐบาลจ่ายค่าสนับสนุนเป็นจำนวนมากเพื่อสนับสนุนให้เด็กมีความคิดสร้างสรรค์ แต่สิ่งที่เขาแสดงออกมันกลับขัดกับนโยบายของเขา ทางรัฐวัดผลการปฏิบัติการของโรงเรียนโดยการมุ่งเน้นไปที่การวัดผลทางวิชาการ ซึ่งนั่นจะทำให้เกิดผลเสียต่อวิชาศิลปะ และการสร้างสรรค์ จากผลการรายงานได้เตือนว่า รายวิชาที่มีผลต่อการสร้างสรรค์ลดลง 20% รวมถึงรายวิชาที่มีผลต่อการออกแบบ และเทคโนโลยี GCSE อีก 57% ตั้งแต่ปี 2010
ความคิดสร้างสรรค์ไม่ได้มีเพียงเฉพาะกับศิลปินเท่านั้น วิชาด้านการออกแบบ และ เทคโนโลยี ดนตรี ศิลปะ และละคร เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับเด็กๆในการพัฒนาจินตนาการและความชำนาญ ความยืดหยุ่นในการแก้ปัญหาการทำงานเป็นทีม และทักษะทางเทคนิค สิ่งเหล่านี้เป็นทักษะที่จะช่วยนำทางเด็กๆ ไปสู่สถานการณ์ที่กำลังจะเปลี่ยนไปในอนาคต ไม่ใช่ผลการสอบ