ตั้งแต่ปี 2000 นักวิทยาศาสตร์สังเกตว่าเด็กผู้หญิงเปลี่ยนเข้าสู่ช่วงวัยรุ่นเร็วขึ้น อะไรเป็นสาเหตุของเรื่องนี้ ?
จากการสังเกตเป็นเวลานาน นักวิจัยพบว่าสารเคมีที่ส่งผลต่อฮอร์โมนเป็นตัวการหลักในการเปลี่ยนแปลงที่เร็วขึ้น เป็นที่น่าตกใจว่าสารเคมีที่กล่าวถึงนี้ไม่ได้ปนมากับน้ำ หรือสภาพแวดล้อมต่าง ๆ แต่มันถูกพบอยู่ในผลิตภัณฑ์ที่เราใช้อยู่ทุก ๆ วันอย่าง แชมพู เครื่องสำอาง และผลิตภัณฑ์ที่เราใช้ชำระร่างกายเกือบทุกชนิด
งานวิจัยนี้ถูกตีพิมพ์เมื่อวันที่ 3 ธันวาคมที่ผ่านมา ในวารสาร Human Reproduction ซึ่งมันสามารถรองรับความเป็นไปได้ที่บอกว่าสารเคมีในผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดร่างกายเหล่านี้ ทำให้เด็ก ๆ โตเร็วกว่าปกติ ในงานวิจัยได้ทำการติดตามผู้หญิงที่ตั้งครรภ์และลูก ๆ ของพวกเขาเป็นเวลา 13 ปี ในการทดลองได้แบ่งกลุ่มอาสาสมัครเป็น 3 กลุ่มเพื่อดูว่าสารเคมีส่งผลอย่างไร โดยการตรวจความเข้มข้นของสารเคมีเหล่านั้นผ่านปัสสาวะ
Kim Harley หนึ่งในนักวิจัยจากมหาวิทยาลัย California ตั้งข้อสังเกตว่าสารเคมีที่คุณแม่ได้รับระหว่างตั้งครรภ์จะส่งผลผ่านมดลูก ทำให้สารเคมีในมดลูกส่งผลให้เด็กในครรภ์เข้าสู่ช่วงวัยรุ่นเร็วขึ้น และถึงแม้ว่าในตัวของผู้หญิงจะมีสารเคมีเหล่านั้นอยู่แล้วหรือไม่ ก็ไม่สำคัญ เพราะสิ่งที่เขาสนใจคือปริมาณที่มีอยู่ต่างหาก
นักวิจัยเรียกสารเคมีเหล่านั้นว่า hormone disruptors (เพราะมันเป็นสารที่ทำลายระบบฮอร์โมนของร่างกาย) โดยคุณแม่สามกลุ่มจะถูกแบ่งให้ได้รับสารเคมีที่ต่างกัน ประกอบไปด้วย phthalates สารเคมีที่พบในน้ำหอมหรือสารที่ให้กลิ่น parabens สารที่พบในเครื่องสำอางค์ และ phenols โดยในการทดลองนี้จะให้ใช้เป็นสบู่ antimicrobial ในช่วงระยะเวลาทดลอง
จากการทดลองพบว่าเด็กที่เกิดจากแม่ที่มีปริมาณ phthalates สูงระหว่างตั้งครรภ์ เด็กจะมีขนขึ้นตามร่างกายเร็วกว่าเด็กทั่วไป เช่นเดียวกับเด็กที่เกิดจากแม่ที่มีปริมาณ phenols สูงระหว่างตั้งครรภ์ เด็กจะมีประจำเดือนเร็วกว่าปกติ และเมื่อนักวิจัยลองตรวจที่ตัวเด็กเอง เขาพบว่าในเด็กอายุ 9 ขวบมีความเข้มข้นของ parabens ในปัสสาวะสูง ทำให้พวกเขาเข้าสู่ช่วงวัยรุ่นเร็วกว่าเด็กทั่วไป
เรื่องเหล่านี้อาจดูเหมือนไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไร แต่สารบางตัวสามารถส่งผลต่อร่างกายได้ในทันที และการมีประจำเดือนเร็วทำให้มีความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งเต้านมและมะเร็งรังไข่มากขึ้นด้วย นอกจากนี้การเข้าสู่ช่วงวัยรุ่นที่เร็วเกินไป ทำให้เกิดข้อกังวลในเรื่องของการปฏิบัติตัวในการเข้าสังคม ถึงแม้ร่างกายของพวกเธอจะก้าวเข้าสู่ช่วงวัยรุ่นแล้ว แต่ภายในจิตใจของพวกเธอยังเป็นเด็กอยู่
Harley กล่าวว่า เราจำเป็นต้องทำการทดลองมากกว่านี้เพื่อให้แน่ใจว่าสิ่งที่เรากำลังค้นพบนั้นเป็นเรื่องจริง เพื่อป้องกันสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับประชากรรุ่นหลัง เพราะเด็กและผู้หญิงในงานวิจัยนี้ส่วนใหญ่มาจากสังคมเกษตรกรรมที่ยากจน พวกเขาอาจจะได้รับสารเคมีจากการทำเกษตรในปริมาณมากอยู่แล้ว
ผู้บริโภคสามารถหลีกเลี่ยงที่จะใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบของสารเคมีเหล่านี้ได้ยาก สารที่หลีกเลี่ยงง่ายที่สุดในตอนนี้คือ Phenol โดยให้ดูผลิตภัณฑ์ที่บอกว่า ไม่มี Parabens เป็นส่วนประกอบ แต่สาร phthalates ยากที่จะหลีกเลี่ยงเพราะมันมักถูกรวมอยู่ในการผสมกลิ่นทางการค้า และบริษัทต่าง ๆ ไม่จำเป็นต้องเปิดเผย phthalates เป็นส่วนประกอบเสมอไป