เมื่อวันพฤหัสที่ผ่านมา Reuters รายงานถึงกฏหมายว่าด้วยการจัดการข้อมูลเท็จของสิงคโปร์ กำลังตกเป็นเป้าวิพากวิจารณ์ให้กับกลุ่มสิทธิ รวมถึงบริษัทเทคโนโลยีต่างๆ เนื่องจากกฏหมายดังกล่าวอาจส่งผลต่อนวัตกรรม และ จำกัดสิทธิในการนำเสนอได้
กฏหมายดังกล่าวนี้จะบังคับให้ลบเนื้อหาหรือแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆที่รัฐบาลเห็นว่าเป็นข้อมูลเท็จโดยมีบทลงโทษสำหรับผู้กระทำความผิดที่มีโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปีหรือปรับสูงสุด 1 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ (735,000 ดอลลาร์) แต่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกฎหมายกล่าวว่ากฏหมายนี้จะไม่ครอบคลุมถึงการปราศัย
รัฐบาลกล่าวว่าสิงคโปร์ถือเป็นหนึ่งในเมืองที่เป็นศูนย์กล่างทางการเงินของโลก ทำให้ข้อมูลเท็จเป็นเรื่องที่อ่อนไหวการใช้กฏหมายที่เข้มงวดตอข้อมูลเท็จจึงเป็นเรื่องสำคัญ
ด้าน Google กลับออกมาให้ความเห็นว่า สิงคโปร์พยายามที่จะดันประเทศของตนเองให้เป็นศูนย์กลางทางด้านการเงิน การเดินทาง การสื่อสารของภูมิภาคนี้ ซึ่งนั่นเป็นสิ่งจำเป็นที่จะต้องพึ่งนวัตกรรมดิจิทัลใหม่ๆ แต่กฏหมายดังกล่าวกำลังจะเป็นกำแพงขวางกั้นการพัฒนานวัตกรรมต่างๆ เพราะมันจะสามารถส่งผลถึงนวัตกรรม และ ข้อมูลเชิงดิจิตอลเป็นอย่างมาก ทาง Google ไม่ได้จะคัดค้านกฏหมายของรัญบาลเพียงแค่อยากจะเตือนถึงปัญหาที่อาจเกิดขึ้นตามมา
เช่นเดียวกับ Simon Milner รองประธานภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกของ Facebook กล่าวว่า การให้อำนาจรัฐอย่างกว้างขวางในการลบเนื้อหาที่คิดว่าเป็นเท็จออกอาจส่งผลเสียต่อนโยบายสาธารณะได้เช่นกัน เพราะก่อนหน้านี้ Facebook กับรัฐบาลสิงคโปร์ก็เคยมีประเด็นในเรื่องของการแจ้งลบข่าวที่เกิดขึ้นในมาเลเซีย โดย Facebook ปฏิเสธที่จะลบข่าวดังกล่าวออกหลังจากที่รัฐบาลสิงคโปร์บอกว่านั่นคือข่าวเท็จ และเป็นอันตราย
ซึ่งสิ่งที่ทำให้เกิดความกังวลมากที่สุดคือรัฐบาลสามารถกำหนดข้อมูลที่จะเผยแพร่สู่ประชาชนได้ว่าจะให้ข้อมูลเหล่านั้นเป็นจริง หรือเท็จ และกฏหมายนี้กำลังคุกคามเสรีภาพในการใช้อินเตอร์เน็ททั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้