ข่าวการแพร่ระบาดของไวรัสดังกล่าวทำให้รัฐบาลทั่วเอเชียต้องเพิ่มมาตราการในการตรวจคัดกรองเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสปริศนา หลังจากเจ้าหน้าสาธารณะสุขของจีนรายงานว่าพบผู้ป่วยกว่า 44 ราย มีอาการปอดอักเสบจากไวรัสที่ยังไม่สามารถระบุที่มาได้อย่างชัดเจน
ภายใต้ความกังวลที่เกิดขึ้นเจ้าหน้าที่ระบุว่าไวรัสนั้นจะทำให้ผู้ป่วยมีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ และพบว่ามีความสัมพันธ์กับการแพร่ระบาดของโรค SARS โรคที่เกิดจากเชื้อไวรัสที่เป็นสาเหตุให้คนทั่วเอเชีย และภูมิภาคอื่น ๆ กว่า 1,000 คนเสียชีวิตเมื่อ 17 ปีที่แล้ว การแพร่ระบาดดังกล่าวทำให้เจ้าหน้าที่ในฮ่องกง มาเก๊า ไต้หวัน เกาหลีใต้ สิงค์โปร์ และมาเลเซีย ถูกแจ้งให้ใช้มาตราการฉุกเฉินรวมถึงมาตราการควบคุมโรคระบาดอย่างเข้มงวดในการตรวจสอบผู้โดยสารทุกเที่ยวบิน โดยเฉพาะผู้ที่เดินทางมาจากหวู่ฮั่นในมณฑลหูเป่ยตอนกลางของประเทศจีนซึ่งมีการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสดังกล่าวอยู่
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ทางการจีนได้ประกาศว่าขณะนี้มีผู้ป่วย 11 รายที่อยู่ในขั้นวิกฤต ผู้ป่วยมีอาการติดเชื้อที่ระบบทางเดินหายใจ มีไข้ และหายใจลำบาก ในขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจากฮ่องกงก็กำลังติดตามเฝ้าระวังผู้ป่วย 5 รายที่มีอาการใกล้เคียงกับการติดเชื้อดังกล่าวหลังจากที่พวกเขาเพิ่งเดินทางกลับมาจากหวู่ฮั่นด้วยรถไฟเป็นระยะเวลากว่า 4 ชั่วโมงเช่นกัน แต่หลังจากการติดตามอาการอย่างใกล้ชิดพบว่าผู้ป่วย 2 คนกลับมามีสุขภาพแข็งแรงดีและสามารถออกจากโรงพยาบาลได้ อีก 1 คนหลังจากทำการตรวจหาเชื้อพบว่าไม่มีอาการติดเชื้อ SARS ไข้หวัดใหญ่และไข้หวัดนก ส่วนอีก 2 คนที่เหลือกำลังอยู่ในระหว่างการรอผลทดสอบ
อย่างไรก็ตาม Sophia Chan รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอาหารและสุขภาพของฮ่องกงกล่าวเมื่อคืนวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาว่ายังไม่พบการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสจากหวู่ฮั่นที่เกี่ยวข้องกับอาการปอดอักเสบในฮ่องกง รัฐบาลฮ่องกงก็ได้ออกมาตราการใหม่เพื่อการป้องกันการแพร่ระบาด พร้อมมีรายงานประจำวันถึงจำนวนผู้ป่วยที่คาดว่าจะมีการติดเชื้อ รวมถึงติดตั้งเครื่องตรวจจับอุณหภูมิที่สนามบินนานาชาติฮ่องกงมากขึ้น และเพิ่มขั้นตอนในการทำความสะอาด ฆ่าเชื้อบนเครื่องบิน และ รถไฟที่เดินทางมาจากหวู่ฮั่นมากขึ้นอีกด้วย
ที่ปรึกษาอาวุโสขององค์การอนามัยโลกในประเทศจีนบอกกับ South China Morning Post หรือ SCMP เมื่อวันพุธที่ผ่านมาว่าในตอนนี้ยังไม่สามารถระบุได้แน่ชัดว่าเชื้อที่ทำให้เกิดอาการดังกล่าวนั้นคืออะไร แต่ในขณะนี้ได้มีการจัดตั้งทีมเพื่อตรวจหาผู้ที่คาดว่าจะติดเชื้ออย่างละเอียด พร้อมทั้งเปิดช่องทางการสื่อสารและพร้อมที่จะรายงานความเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่องทั่วทั้งภูมิภาคแล้ว
Yuen Kwok-yung นักจุลชีววิทยาจากมหาวิทยาลัยฮ่องกงกล่าวกับสื่อท้องถิ่นเมื่อวันพุธว่า การติดเชื้อไวรัสในหวู่ฮั่นนั้นคล้ายกับการระบาดของไข้หวัดนกในปี 1997 และการแพร่ระบาดของโรค SARS ในประเทศจีน มันจึงมีความเป็นไปได้ว่าสัตว์อาจกลายเป็นพาหะนำเชื้อได้เช่นกัน แต่ยังไม่มีรายงานถึงความเป็นไปได้ดังกล่าว
SARS (Severe Acute Respiratory Syndrome: SARS) หรือโรคระบบทางเดินหายใจเฉียบพลันร้ายแรง เป็นโรคที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัส พบรายงานการอุบัติของโรคครั้งแรกที่ทางตอนใต้ของจีน ในปี 2002 ช่วงเวลานั้นมีผู้ติดเชื้อกว่า 8,000 ราย และมียอดผู้เสียชีวิตสูงถึง 775 รายทั่วโลก ในตอนนั้น Zhang Wenkang รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขถูก WHO วิพากษ์วิจารณ์เป็นอย่างมากในเรื่องการปกปิดยอดผู้ติดเชื้อ และการแพร่ระบาดของโรคดังกล่าว ทำให้รัฐบาลจีนสั่งปลด Zhang Wenkang ในเวลาต่อมา
คณะกรรมาธิการกล่าวในการแถลงการณ์ว่า ผู้ป่วยในหวู่ฮั่นได้รับการเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดจากทีมแพทย์ ผู้ติดเชื้อทุกคนถูกแยกห้องเพื่อป้องกันการแพร่เชื้อ แต่การทดสอบจากห้องปฏิบัติการเบื้องต้นพบว่าไม่มีการแพร่ระบาดจากคนสู่คน และตอนนี้ยังไม่มีเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์คนใดที่ได้รับเชื้อดังกล่าว ผู้ป่วยส่วนใหญ่ทำงานในตลาดขายส่งอาหารทะเล สื่อท้องถิ่นรายงานว่านอกจากพื้นที่ดังกล่าวจะเป็นตลาดขายอาหารทะเลแล้ว ยังมีการขายสัตว์ป่าอื่น ๆ เช่น กระต่าย งู ไก่ฟ้าอีกด้วย ซึ่งในตอนนี้ตลาดดังกล่าวได้ปิดตัวลงและทีมผู้เชี่ยวชาญจากคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติของจีนกำลังทำการตรวจสอบอยู่เช่นกัน
สาเหตุของเชื้อไวรัสยังไม่ปรากฏเป็นที่แน่ชัด และยังไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นไวรัส SARS ตามข่าวลือบนโลกออนไลน์หรือไม่ หนังสือพิมพ์ People’s Daily รายงานว่าตำรวจได้ทำการจับกุมตัวคน 8 คนซึ่งเป็นผู้เผยแพร่ข่าวเท็จดำเนินคดีเป็นที่เรียบร้อย
ทางด้านมาเก๊า สิงคโปร์ และเกาหลีใต้ ได้เพิ่มมาตราการการตรวจวัดอุณหภูมิของผู้โดยสารที่เดินทางมาจากหวู่ฮั่นมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะเกาหลีใต้ที่มีการจัดตั้งศูนย์ฉุกเฉินเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อดังกล่าวโดยเฉพาะ ส่วนทางด้านมาเลเซีย ก็ได้มีการใช้มาตราการตรวจวัดอุณหภูมิคนเข้าเมืองจากทุกประเทศแล้วเช่นกัน แต่อย่างไรก็ตามตอนนี้ยังไม่มีเจ้าหน้าที่จากส่วนไหนเข้าทำการตรวจสอบภูมิภาคอื่น ๆ ของจีนถึงการแพร่ระบาดของเชื้อดังกล่าวเลย
อ้างอิง Asian Review
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส