หลังจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาทำให้หน้ากากอนามัยขาดตลาดในหลายประเทศ แต่ผู้เชี่ยวชาญว่าจริง ๆ แล้วการใส่หน้ากากอนามัยหรือ Surgical Mask ไม่ได้ช่วยป้องกันได้มากนัก
Eric Toner นักวิทยาศาสตร์จากศูนย์สุขภาพของ Johns Hopkins บอกว่า “การใส่มาสก์ไม่ได้ช่วยป้องกันได้ดีนัก” และยังมี ดร. William Schaffner ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อที่มหาวิทยาลัย Vanderbilt ในรัฐเทนเนสซีกล่าวกับ Live Science ว่าหน้ากากอนามัยธรรมดาไม่สามารถป้องกันไวรัสโคโรนาได้ นอกจากนี้ ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคหรือ CDC ระบุว่า ทางป้องกันไวรัสโคโรนาที่ดีที่สุดคือการล้างมือบ่อย ๆ หลีกเลี่ยงการสัมผัสใบหน้า และหลีกเลี่ยงการสัมผัสหรือใกล้ชิดบุคคลที่มีอาการป่วย ทั้งนี้ CDC เพิ่มเติมว่า มาสก์เหมาะกับผู้ป่วยมากกว่าเพราะจะช่วยลดการแพร่กระจายของไวรัส ไม่ว่าจะไวรัสโคโรนาหรือไวรัสใด ๆ ก็ตามที่อาจแพร่ไปทางน้ำมูกหรือสารคัดหลั่งต่าง ๆ
แล้วหน้ากาก N95 ไม่ช่วยหรือ? หน้ากากอนามัยชนิด N95 สามารถกรองวัตถุที่มีขนาดเล็ก 0.3 ไมครอนได้ ซึ่งปกติแล้วมักจะถูกใช้ในสภาพอากาศที่ค่อนข้างแย่อย่างเช่นช่วง PM2.5 ปกคลุมท้องฟ้า แต่สำหรับตัวไวรัสโคโรนานั้นมีขนาดที่เล็กมากเพียง 0.12 ไมครอนเท่านั้น แต่หากมาพร้อมกับสารคัดหลั่งที่มีขนาดใหญ่ ตัวหน้ากากชนิด N95 ก็มีความหนามากพอที่จะกันได้
ด้าน WHO หรือองค์กรอนามัยโลกก็ได้ออกมายืนยันชัดเจนแล้วว่าหน้ากากอนามัยแบบธรรมดาหรือ Surgical Mask อย่างเดียวนั้นไม่สามารถต้านเชื้อไวรัสโคโรนาได้ (ให้ควบคุมสุขอนามัยอื่น ๆ ร่วมด้วย) เช่นเดียวกับ CDC ซึ่ง WHO แนะนำให้คนที่มีอาการป่วย เช่น ไอ หวัด หรือเหมือนจะมีไข้ ต้องสวมหน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อผ่านสารคัดหลั่งต่าง ๆ ส่วนใครที่ไม่ได้เป็นอะไร ไม่จำเป็นต้องใส่หน้ากากเพราะไม่มีหลักฐานยืนยันว่าหน้ากากสามารถป้องกันเชื้อได้
แต่หากเป็นกรณีที่คุณเป็นคนที่มีสุขภาพดี แต่ต้องดูแลผู้ป่วยที่ติดไวรัสโคโรนาก็ควรใส่หน้ากากป้องกันเอาไว้ครับ
อ้างอิง LiveScience WHO, BusinessInsider
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส