เมื่อวันที่ 16 มีนาคมที่ผ่านมา สื่อในสหรัฐอเมริการายงานว่าประชาชนที่มีอายุน้อยไม่ใส่ใจต่อมาตรการการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสที่กรมป้องกันและควบคุมโรคแนะนำเท่าที่ควร
จากงานวิจัยของ CDC ในผู้ติดเชื้อโคโรนาไวรัสจำนวน 4,226 คน ที่ถูกบันทึกในสหรัฐอเมริกาตั้งแต่วันที่ 12 กุมภาพันธ์จนถึงวันจันทร์ที่ผ่านมาพบว่า 1 ใน 5 ของคนจำนวน 705 คนที่มีอายุระหว่าง 20-44 ปี ต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล ร้อยละ 2-4 ต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษ
ทั้งนี้ข้อมูลจากสหรัฐอเมริกา สอดคล้องกับข้อมูลจากประเทศจีนที่ให้ข้อมูลว่า ความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรง และการเสียชีวิตที่เกิดจากการติดเชื้อ Covid-19 จะเพิ่มขึ้นตามอายุ ผู้ที่มีอายุมากกว่า 65 ปี และมีโรคประจำตัวอื่น ๆ เป็นกลุ่มที่อ่อนแอที่สุด จากการศึกษาของ CDC พบว่า 31% ของการติดเชื้อทั้งหมดที่บันทึกในงานวิจัยเกิดขึ้นในผู้ที่มีอายุมากกว่า 65 ปี แม้ว่านักระบาดวิทยาจะออกมาบอกว่าความเสี่ยงในการติดเชื้อนั้นสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัยก็ตาม
จากการบันทึกข้อมูล คนในช่วงอายุดังกล่าวคิดเป็นผู้ติดเชื้อ 45% ที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล 53% สำหรับกรณีผู้ป่วยหนัก และ 80% ของผู้เสียชีวิต มีการบันทึกว่าผู้ติดเชื้อที่มีอายุระหว่าง 20-64 ปี 9 คนเสียชีวิตจากโรคนี้ และยังไม่มีรายงานการเสียชีวิตของผู้ติดเชื้อที่มีอายุน้อยกว่า 19 ปี
ดร. Deborah Birx เจ้าหน้ารับมือกับการแพร่ระบาดของ Covid-19 ในทำเนียบขาว กล่าวว่าคนส่วนมากให้ความสำคัญกับข้อมูลแรกที่ออกมาจากประเทศจีน และเกาหลีใต้ถึงความเกี่ยวข้องของไวรัสและผู้สูงอายุมากกว่าที่จะปฏิบัติตามคำแนะนำด้านสุขภาพ ในขณะที่จำนวนผู้ป่วยหนักที่เป็นคนหนุ่มสาวในประเทศฝรั่งเศส และอิตาลีในห้อง ICU ก็มีจำนวนมากไม่แพ้กัน
ในขณะนี้กลุ่มวัยรุ่นส่วนมากไม่ตระหนักถึงความเสี่ยงที่พวกเขาจะได้รับ เพียงเพราะพวกเขาเข้าใจว่าช่วงวัยของพวกเขามีภูมิคุ้มกันที่แข็งแรง แต่งานวิจัยจากจีนที่ถูกเผยแพร่ก่อนหน้านี้ระบุว่าเด็กติดเชื้อจะมีอาการแสดงน้อยกว่าผู้ใหญ่ ในขณะที่เด็กเล็กกำลังจะมีพัฒนาการของโรคที่เลวร้ายมากขึ้น
อ้างอิง SCMP
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส