ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อ Covid-19 นั้น ต้องยอมรับว่ากลุ่มเสี่ยงที่มีอัตราการติดเชื้อรวมไปถึงเสียชีวิตหลังจากติดเชื้อเพราะโรคแทรกซ้อนอื่น ๆ มีจำนวนสูงมากกว่ากลุ่มคนทั่วไปที่ไม่ได้ป่วยเป็นโรคอื่นอยู่แล้ว ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ผู้สูงอายุที่มักจะมีโรคประจำตัวอื่น เช่น เบาหวานหรือมะเร็ง กลายเป็นกลุ่มที่ติดเชื้อง่ายและเมื่อติดเชื้อแล้วจะมีอาการรุนแรงอย่างรวดเร็วจากรายงานการศึกษาผู้ป่วยที่ผ่านมาจากทั่วโลก พบว่า 1 ใน 4 ของผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงจนต้องเข้ารับการรักษาโรงพยาบาลเป็นผู้ป่วย “โรคเบาหวาน”
เมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2020 สมาคมแพทย์ต่อมไร้ท่ออเมริกา (American Association of Clinical Endocrinologists) จึงออกคำแนะนำสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวานในสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อ Covid-19 ที่ผู้ป่วยและญาติของผู้ป่วยสามารถนำไปปรับใช้ในช่วงนี้ได้เลย ดังนี้
- รับประทานหรือฉีดยาเบาหวานตามแพทย์สั่ง
- เตรียมยาเบาหวานและอุปกรณ์ เช่น เข็มฉีดยา ชุดตรวจระดับน้ำตาลในเลือดให้เพียงพอ กรณีมีการประกาศภาวะฉุกเฉิน ต้องเตรียมเพิ่มไปจากเดิมอีก 30 วัน
- หากไม่สามารถซื้อจากร้านยาได้ อาจสั่งซื้อผ่านทางอีเมล (เทียบเคียงได้กับโครงการรับยาใกล้บ้านผ่านร้านขายยาคุณภาพ สำหรับผู้ป่วยสิทธิหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า หรือการบริการส่งยาทางไปรษณีย์ของโรงพยาบาลบางแห่ง ที่สำหรับโรงพยาบาลก็ควรจะใช้โอกาสนี้ในการพัฒนาโครงการส่งยาให้กับผู้ป่วยทางบ้านอย่างเต็มรูปแบบ)
- อยู่บ้านเพื่อลดความเสี่ยงในการสัมผัสเชื้อ หากออกนอกบ้านควรหลีกเลี่ยงสถานที่แออัด ระมัดระวังการอยู่ใกล้ชิดกับผู้อื่น และหลีกเลี่ยงการเดินทางที่ไม่จำเป็น
- ล้างมือบ่อย ๆ ด้วยการฟอกสบู่นานอย่างน้อย 20 วินาที โดยเฉพาะก่อนรับประทานอาหารหรือดื่มน้ำ หลังเข้าห้องน้ำ และหลังสั่งน้ำมูกหรือไอจาม
- หากไม่มีสบู่ สามารถใช้เจลล้างมือแอลกอฮอล์ความเข้มข้นอย่างน้อย 60% (จะสังเกตว่าอเมริกาแนะนำความเข้มข้นต่ำกว่าไทย ซึ่งกำหนดให้ใช้ความเข้มข้นอย่างน้อย 70%)
- ไอหรือจาม ให้ปิดปากด้วยทิชชู่หรือการงอข้อศอก (ไอใส่ข้อพับหรือแขนเสื้อส่วนบนแทน) จากนั้นทิ้งทิชชู่ลงถังขยะทุกครั้ง
- ระมัดระวังไม่ให้มือสัมผัสตา ปาก หรือจมูกโดยไม่จำเป็น
- หากมีอาการผิดปกติ เช่น ไข้ ไอ หายใจลำบากหรือหายใจมีเสียงวี้ด โดยเฉพาะหากเคยสัมผัสผู้ป่วยติดเชื้อ หรือเดินทางกลับมาจากพื้นที่ที่มีการระบาด ต้องโทรปรึกษาหรือไปพบแพทย์ทันที และแจ้งประวัติเสี่ยงให้โรงพยาบาลทราบ
ส่วนผู้ที่มี ‘โรคความดันโลหิตสูง’ ร่วมด้วย ก่อนหน้านี้อาจมีคำเตือนว่า ให้ระมัดระวังยากลุ่ม ACEI หรือ ARB (ยาโรคความดันโลหิตสูงที่ลงท้ายด้วย -pril หรือ -sartan) แต่เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2020 แพทย์โรคหัวใจอเมริกา (HFSA / ACC / AHA) ได้ร่วมกันออกแถลงการณ์ระบุว่า “ปัจจุบันยังไม่มีการทดลองหรือการศึกษาทางการแพทย์ที่พบว่า ผู้ป่วยติดเชื้อ Covid-19 ได้รับผลข้างเคียงจากการรับประทานยากลุ่มนี้”
ดังนั้นผู้ป่วยโรคเบาหวานและโรคความดันโลหิตสูงจึงไม่ควรหยุดยาเอง สิ่งสำคัญนั่นก็คือ ต้องควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดและระดับความดันฯ ให้ได้ตามเกณฑ์ เพื่อลดความเสี่ยงจะป่วยรุนแรง ทั้งนี้ญาติก็ควรช่วยดูแลผู้ป่วยอย่างใกล้ขิด ให้รับประทานยาตามเวลาที่แพทย์สั่งด้วยอีกทางหนึ่ง
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส