ดาวศุกร์ถือเป็นวัตถุท้องฟ้าที่สว่างสุดเป็นอันดับสาม รองจากดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ แม้ไม่มีกล้องดูดาวก็สามารถสังเกตเห็นได้ง่าย แต่ถ้ามันสว่างขึ้นอีกละ จะยิ่งสวยงามน่าจับตาขนาดไหน ?

โอกาสนั้นมาถึงแล้ว เมื่อ นายศุภฤกษ์ คฤหานนท์ หัวหน้างานบริการวิชาการทางดาราศาสตร์ สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) (สดร.) ชวนชม ดาวศุกร์สว่างที่สุด 2 ครั้งในรอบปี ช่วงค่ำวันที่ 28 เมษายน และเช้ามืดวันที่ 8 กรกฎาคม นี้

ดาวศุกร์สว่างที่สุดเมื่อไหร่ ที่ไหน อย่างไร ?

สำหรับวันที่ 28 เมษายน 2563 ช่วงหัวค่ำ หลังดวงอาทิตย์ตก เวลาประมาณ 18:30-21:00 น. ดาวศุกร์จะปรากฏบนท้องฟ้าทางทิศตะวันตก

ส่วนวันที่ 8 กรกฎาคม 2563 รุ่งเช้า ก่อนดวงอาทิตย์ขึ้น เวลาประมาณ 03:30-06:00 น. ดาวศุกร์จะปรากฏบนท้องฟ้าทางทิศตะวันออก

วันดังกล่าวจะสังเกตเห็นดาวศุกร์สว่างสุกใสที่สุดในรอบปี ดูได้ด้วยตาเปล่าอย่างชัดเจนทั่วประเทศ คาดว่าจะมีค่าอันดับความสว่างปรากฏถึง -4.6 (ดวงจันทร์เต็มดวงมีค่าอันดับความสว่างปรากฏ -12.6 ยิ่งค่าน้อยยิ่งสว่างมาก) และหากสังเกตผ่านกล้องโทรทรรศน์ดาวศุกร์จะปรากฏเป็นเสี้ยวคล้ายดวงจันทร์

ทำไมสว่างที่สุด แต่ยังเห็นเพียงแค่เสี้ยว ?

ดาวศุกร์ เป็นดาวเคราะห์ลำดับที่ 2 ถัดจากดาวพุธ และเพราะเป็นดาวเคราะห์วงใน คือโคจรรอบดวงอาทิตย์ด้วยระยะที่ใกล้กว่าโลก เราจึงไม่สามารถเห็นดาวศุกร์สว่างเต็มดวงซึ่งเป็นยามที่เคลื่อนไปอยู่หลังดวงอาทิตย์ได้ ดังนั้น คนบนโลกจึงมองเห็นดาวศุกร์ปรากฏเป็นเสี้ยวอยู่เสมอ ความหนาบางของเสี้ยวนั้นแตกต่างกันไปในแต่ละตำแหน่งของวงโคจร และปรากฏอยู่ห่างจากดวงอาทิตย์ได้มากที่สุด 47.8 องศา เราจึงสังเกตเห็นดาวศุกร์ได้ในช่วงเวลาสั้น ๆ ก่อนดวงอาทิตย์ขึ้นหรือหลังดวงอาทิตย์ตกเท่านั้น ไม่เคยปรากฏอยู่กลางท้องฟ้าหรือในช่วงเวลาดึก ทั้งนี้ หากเห็นดาวศุกร์ทางทิศตะวันตกในช่วงหัวค่ำ คนไทยมักเรียกว่า “ดาวประจำเมือง” หากเห็นดาวศุกร์ทางทิศตะวันออกในช่วงเช้ามืด คนไทยมักเรียกว่า “ดาวประกายพรึก”

นอกจากนี้ การคำนวนว่า ดาวศุกร์ปรากฏสว่างมากที่สุดในรอบปีเมื่อใด ไม่เพียงขึ้นอยู่กับช่วงที่ดาวศุกร์มีขนาดเสี้ยวค่อนข้างใหญ่ แต่ยังต้องเป็นช่วงที่โคจรห่างจากโลกในระยะทางที่เหมาะสมด้วย สำหรับในช่วงวันอื่น ๆ แม้ดาวศุกร์จะมีเสี้ยวที่หนากว่า แต่ด้วยตำแหน่งอยู่ห่างจากโลกมาก ความสว่างจึงลดลงตามไปด้วย 

รู้กำหนดการแล้วอย่าลืมลงตารางเตือนกันดี ๆ เพราะถ้าพลาด จะได้เห็น “ดาวประจำเมือง” และ “ดาวประกายพรึก” สว่างที่สุดกันอีกทีปีหน้าเลยทีเดียว

 

 

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส