วันพฤหัสบดีที่ 11 มิถุนายน NASA ประกาศว่าได้เลือก Astrobotic ด้วยสัญญามูลค่ามูลค่า 199.5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในการขนส่ง VIPER หุ่นยนต์รถสำรวจแหล่งน้ำไปลงจอดยังขั้วใต้ของดวงจันทร์ในปลายปี 2023 เพื่อปฏิบัติภารกิจแรกของการทำแผนที่ทรัพยากรและแหล่งน้ำบนพื้นผิวของดวงจันทร์
VIPER (Volatiles Investigating Polar Exploration Rover) เป็นหุ่นยนต์รถสำรวจขนาดเท่ารถกอล์ฟ มีเครื่องมือวิทยาศาสตร์ 4 ตัว และสว่าน 1 เมตรเพื่อค้นหาน้ำแข็งและน้ำที่อยู่ใต้พื้นผิวบริเวณขั้วใต้ของดวงจันทร์ ซึ่งจะช่วยปูทางสำหรับโครงการ Artemis ในการส่งผู้หญิงคนแรกและผู้ชายคนต่อไปเหยียบพื้นผิวดวงจันทร์ภายในปี 2024 การมีแหล่งน้ำไว้ใช้อย่างสะดวกจะช่วยสร้างความยั่งยืนในการตั้งฐานบนดวงจันทร์ในระยะยาว เพราะจะสามารถสกัดออกมาเป็นส่วนประกอบที่จำเป็นให้กับโรงงานผลิตเชื้อเพลิงบนดวงจันทร์ ซึ่งไม่ต้องพึ่งพาการขนส่งจากโลกอีกต่อไป
ภารกิจขนส่ง VIPER จะใช้ยาน Griffin ที่มีความสูง 2 ม. ยาว 4.5 ม. สามารถบรรทุกสัมภาระได้สูงสุด 475 กก. (1,000 ปอนด์) ลงจอดได้อย่างแม่นยำภายในระยะ 100 เมตรจากเป้าหมายที่กำหนดและสามารถตรวจจับและหลีกเลี่ยงสิ่งกีดขวางที่มีขนาดเล็กเพียง 15 ซม. VIPER มีน้ำหนักโดยรวมทั้งหมด 1,000 ปอนด์เท่ากับการรับน้ำหนักสูงสุดของยาน Griffin โดยจะติดตั้งเซนเซอร์ตรวจจับน้ำ 3 ตัวในปี 2021 และทดสอบในปี 2022 และปล่อยตัวในปี 2023 ซึ่ง Astrobotic จะรับผิดชอบทุกอย่างตั้งแต่ปล่อยยาน Griffin บรรทุก VIPER ออกไปจนถึงลงจอดบนดวงจันทร์ ส่วนจะเซ็นสัญญาใช้บริการจรวดของบริษัทใดนั้นยังไม่ได้รับการยืนยัน แต่คาดว่าน่าจะเป็นผู้มีประสบการณ์อย่าง ULA หรือ SpaceX
ปี 2018 บริษัท Astrobotic ได้ทำสัญญากับ NASA เป็นส่วนหนึ่งของโปรแกรมบริการบรรทุกขนส่งไปดวงจันทร์เชิงพาณิชย์ (CLPS) เพื่อส่งอุปกรณ์เครื่องมือวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีไปยังดวงจันทร์ ด้วยมูลค่า 79.5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งจะเริ่มบินขนส่งเที่ยวแรกในปี 2021 ด้วยยาน Peregrine ไปกับจรวด ULA Vulcan ดังนั้นภารกิจขนส่ง VIPER ครั้งนี้ก็ถือว่าเป็นการเลือกพันธมิตรเดิมโดยการแยกเป็นสัญญาใหม่ต่างหากนั่นเอง
ที่มา : techcrunch
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส