เมื่อทหารกำลังทำภารกิจอยู่ในสนามรบ เป็นเรื่องยากมากที่จะรู้ว่าพื้นที่ด้านหน้าที่กำลังก้าวไปถึงนั้นมีอันตรายอะไรรออยู่ ซึ่งกองทัพสหรัฐฯ กำลังทดสอบหุ่นยนต์ให้เป็นเพื่อนร่วมทีมกับทหารมนุษย์เพื่อประเมินอันตรายในสนามรบให้ล่วงรู้อย่างรวดเร็วก่อนที่จะโดนเชือด โดนส่องหรือโดนกับระเบิด
นักวิทยาศาสตร์ของกองทัพสหรัฐฯ กำลังพัฒนาหุ่นยนต์ที่มีล้อเคลื่อนที่อย่างอิสระและสามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงในสภาพแวดล้อมอันเล็กน้อยเพื่อบ่งบอกถึงอันตรายที่กำลังจะมาถึง โดยการติดตั้งเซนเซอร์เลเซอร์วัดระยะหรือ LIDAR เพื่อตรวจจับการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพโดยรอบในรูปแบบ 3 มิติที่ทหารอาจมองข้ามหรือไม่สามารถมองเห็น แล้วจะแชร์ข้อมูลแจ้งเตือนให้ทหารทราบแบบเรียลไทม์ผ่านการแสดงผลในแว่นตา AR
Dr. Christopher Reardon นักวิจัยจากกองทัพสหรัฐฯ ผู้เขียนบทความ “การเพิ่มขีดความสามารถในการรับรู้สถานการณ์ผ่าน AR ด้วยการตรวจจับการเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมที่ใช้หุ่นยนต์อัตโนมัติ” ที่ตีพิมพ์สำหรับการประชุมนานาชาติเรื่อง VR, AR และ MR ครั้งที่ 12 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการประชุมนานาชาติเกี่ยวกับการปฏิสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับคอมพิวเตอร์เมื่อเดือนกรกฎาคม กล่าวว่าหุ่นยนต์จะสามารถตรวจจับสภาพแวดล้อมเพื่อให้รู้ว่ามีข้าศึกกำลังพรางตัวอยู่ไปจนถึงรู้ว่ามีระเบิดแสวงเครื่อง (IED)
การวิจัยได้นำหุ่นยนต์คู่หูลาดตระเวนในสภาพแวดล้อมโดยรอบแล้วนำค่าที่เซนเซอร์อ่านได้ในปัจจุบันเปรียบเทียบกับค่าที่อ่านได้ก่อนหน้าเพื่อตรวจจับการเปลี่ยนแปลง จากนั้นจะแสดงการเปลี่ยนแปลงนั้นในแว่นตาของทหารทันทีเพื่อพิจารณาว่ามนุษย์จะสามารถตีความการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมได้หรือไม่ สรุปง่าย ๆ ว่าให้หุ่นยนต์และทหารสามารถทำงานประสานกันได้
ในอนาคตมีความเป็นไปได้ที่จะนำหุ่นยนต์คู่หูให้ทำงานร่วมกับอินเทอร์เฟซ MR ของทหาร เช่น แว่นตาในอุปกรณ์ IVAS (Integrated Visual Augmentation System) ของกองทัพ ซึ่งหุ่นยนต์คู่หูจะส่งข้อมูลที่เป็นประโยชน์ไปยังแว่นตาของทหาร และทหารสามารถโต้ตอบต่อการเปลี่ยนแปลงที่ตรวจพบ ซึ่งจะเป็นการให้ข้อมูลแก่หุ่นยนต์เพื่อปรับปรุงความเข้าใจในบริบทแวดล้อม จนสามารถเรียนรู้และคาดการณ์ถึงการเปลี่ยนแปลงที่จะก่อให้เกิดภัยคุกคามได้ รวมทั้งยังช่วยให้นักวิจัยได้เรียนรู้วิธีการปรับปรุงการทำงานร่วมกันระหว่างทหารกับหุ่นยนต์อีกด้วย
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส