‘มัมมี่’ หรือการทำเก็บรักษาศพของอียิปต์โปราณ เป็นหนึ่งในเรื่องลึกลับที่คนมักให้ความสนใจพูดถึงอยู่เสมอ ในแวดวงวิชาการเองก็เช่นเดียวกัน ด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำหน้าในปัจจุบัน การศึกษามัมมี่จึงช่วยให้เผยข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์มากขึ้นเรื่อย ๆ
ล่าสุด กระทรวงการท่องเที่ยวและโบราณวัตถุของอียิปต์แถลงเมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาว่า นักวิจัยชาวอียิปต์สองคนคือ ซาฮี ฮาวาสส์ (Zahi Hawass) นักโบราณคดีชื่อดังชาวอียิปต์และอดีตรัฐมนตรีกระทรวงโบราณวัตถุ และ ซาฮาร์ ซาลีม (Sahar Saleem) ศาสตราจารย์ด้านรังสีวิทยา ประจำคณะแพทยศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัยไคโร ได้ร่วมกันทำซีที สแกน หรือ เอกซเรย์คอมพิวเตอร์ (CT) มัมมี่ของฟาโรห์เซเคเนนเร ทาโอ ที่ 2 (Seqenenre Taa II) แห่งอียิปต์โบราณ และพบว่าพระองค์ถูกสังหารระหว่างการต่อสู้กับกลุ่มผู้รุกรานอียิปต์ เพื่อรวมแผ่นดินอียิปต์ เมื่อช่วง 16 ปีก่อนคริสต์ศักราช
ฟาโรห์เซเคเนนเร ทาโอ ที่ 2 ปกครองอียิปต์ตอนใต้ในช่วงที่ฮิกโซส (Hyksos) ชนเผ่าเรร่อนต่างชาติกำลังเรืองอำนาจในอียิปต์ มัมมี่ของพระองค์ ถูกค้นพบเมื่อปี 1881 เคยมีการเอกซเรย์มัมมี่ในช่วงทศวรรษ 1960 บางคนเชื่อว่า พระองค์ถูกสังหารในการสู้รบโดยพวกฮิกโซส ขณะที่คนอื่น ๆ ระบุว่า พระองค์อาจถูกลอบปลงพระชนม์ในห้องพระบรรทมโดยกลุ่มผู้สมคบคิด และเพราะมัมมี่ดังกล่าวมีสภาพย่ำแย่ จึงเชื่อกันว่าการทำมัมมี่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน ห่างไกลจากพื้นที่ที่ทำมัมมี่ของราชวงศ์
อย่างไรก็ตาม ข้อมูลที่ได้จากซีทีสแกนล่าสุดนี้พิสูจน์ให้เห็นว่า ผู้ฝังศพได้ซ่อนบาดแผลบริเวณพระเศียรของพระองค์ไว้อย่างชำนาญ เป็นวิธีที่คล้ายคลึงกับการอุดฟัน ทำศัลยกรรมตกแต่งสมัยใหม่ ดังนั้น การทำมัมมี่น่าจะเกิดขึ้นในสถานที่ทำมัมมี่ของราชวงศ์
ฮาวาสส์และซาลีม ได้นำเสนอคำอธิบายใหม่เกี่ยวกับเหตุการณ์ก่อนและหลังการสิ้นพระชนม์ของฟาโรห์เซเคเนนเร ทาโอ ที่ 2 ด้วยภาพจากซีทีสแกนแบบ 2 และ 3 มิติ ว่าพระองค์น่าจะถูกจับกุมในสนามรบ และถูกมัดพระหัตถ์ไพล่พระขนอง (หลัง) เพื่อไม่ให้พระองค์ขัดขืนได้ บาดแผลที่พระเศียรของพระองค์มีร่องรอยที่พอดีกับอาวุธของพวกฮิกโซส (Hyksos) ที่ถูกเก็บไว้ที่พิพิธภัณฑ์อียิปต์ในกรุงไคโร อันรวมถึงขวาน หอก และมีดสั้นหลายเล่ม
ผลการศึกษาในครั้งนี้จึงยืนยันว่า ฟาโรห์เซเคเนนเร ทาโอ ที่ 2 สิ้นพระชนม์จากการถูกกลุ่มนักรบของฮิกโซสโจมตีหลายครั้ง พิสูจน์ว่า พระองค์เป็นกษัตริย์ผู้กล้า ที่ถูกสังหารในแนวหน้าของการรบไม่ใช่การสิ้นพระชนม์ในพิธีสำเร็จโทษแต่อย่างใด โดยข้อมูลจากซีทีสแกนชี้ให้เห็นว่า พระองค์ถูกปลงพระชนม์ในวัย 40 พรรษา
พร้อมกันนี้ ในแถลงการณ์ของกระทรวง ฯ ยังเผยให้เห็นมุมมองใหม่ทางประวัติศาสตร์ว่า “การเสียชีวิตของฟาโรห์เซเคเนนเร ทาโอ ที่ 2 เป็นแรงกระตุ้นให้ผู้สืบราชสมบัติของพระองค์ มุ่งมั่นต่อสู้เพื่อรวมอียิปต์และก่อตั้งอาณาจักรใหม่ต่อไป”
อ้างอิง
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส