จากการศึกษาของต่างประเทศพบว่าผู้หญิงมีแนวโน้มที่จะสามารถเผาผลาญไขมันได้มากกว่าผู้ชายในระหว่างที่ออกกำลังกาย และนักกีฬาที่กล้ามเนื้อหัวใจแข็งแรงไม่ว่าจะเป็นเพศใดจะมีความสามารถในการเผาผลาญไขมันมากกว่าคนที่ไม่ได้ออกกำลังกายอีกด้วย

การศึกษาชิ้นหนึ่งที่ตีพิมพ์ใน International Journal of Sport Nutrition and Exercise Metabolism โดยนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยบาธ ได้ศึกษาโดยให้ผู้มีสุขภาพดีจำนวน 73 คน มีอายุระหว่าง 19 – 63 ปี ทดสอบสมรรถภาพการขี่จักรยานขณะท้องว่าง จากการศึกษาผู้เข้าร่วมที่สามารถเผาผลาญไขมันได้มากที่สุดเป็นคนที่กล้ามเนื้อหัวใจมีความแข็งแรงโดยวัดจากปริมาณออกซิเจนที่ใช้ขณะออกกำลังกาย นอกจากนี้การศึกษายังพบอีกว่าผู้หญิงสามารถเผาผลาญไขมันได้ดีกว่าผู้ชายด้วย

นักวิจัยกลุ่มเดียวกันบอกว่าผู้เข้าร่วมเผาผลาญไขมันเป็นพลังงานได้อย่างไรในการศึกษาครั้งที่สองซึ่งตีพิมพ์วันที่ 6 มีนาคม ใน Experimental Physiology พวกเขาพบว่าโปรตีนเฉพาะในเนื้อเยื่อกล้ามเนื้อช่วยสลายไขมันให้เป็นพลังงานในขณะออกกำลังกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตามยังไม่มีข้อสรุปที่แน่ชัดว่าทำไมผู้หญิงถึงสามารถเผาผลาญไขมันได้มากกว่าผู้ชาย

ร่างกายที่แข็งแรงสามารถเพิ่มความสามารถในการเผาผลาญไขมันได้ไม่ว่าจะอายุเท่าไหร่หรือมีวิธีการใช้ชีวิตแบบไหน

คนที่มีร่างกายที่แข็งแรงสามารถเผาผลาญไขมันได้มากขึ้นในระหว่างการทดสอบการออกกำลังกายในการศึกษานี้ โดยไม่คำนึงถึงปัจจัยการดำเนินชีวิต เช่น อาหารและพฤติกรรมการออกกำลังกาย

ก่อนหน้านี้มีงานวิจัยระบุว่า คนที่มีการกระตุ้นหรือใช้งานกล้ามเนื้อมีแนวโน้มที่จะเผาผลาญไขมันมากขึ้น ถึงแม้ว่าการออกกำลังกายเป็นประจำจะทำให้ร่างกายมีความทนทานมากขึ้น แต่ข้อมูลพบว่าพฤติกรรมการออกกำลังกายดูเหมือนจะไม่เกี่ยวข้องกับความได้เปรียบในการเผาผลาญไขมัน นอกจากนี้ อาหารที่ผู้เข้าร่วมการทดลองกินก็ไม่มีผลถึงแม้ว่าจะกินคาร์โบไฮเดรตหรือไขมันมากขึ้นก็ตาม

ผลการศึกษานี้ชี้ให้เห็นว่าหากคุณต้องการให้ร่างกายให้มีประสิทธิภาพในการเผาผลาญไขมันในระหว่างออกกำลังกาย วิธีที่ดีที่สุดไม่ใช่การคาร์ดิโออย่างต่อเนื่องหรือการทานอาหาร แต่เป็นการเพิ่มความแข็งแรงของร่างกายโดยการออกกำลังกายแบบ Aerobic Endurance โดยตัวอย่างในการฝึกนั้นให้เพิ่มเวลาในการออกกำลังกายและมีเวลาหยุดพักที่น้อยลง เช่น การวิ่งเป็นเวลา 20 วินาที และหยุดพัก 10 วินาที ทำอย่างนี้ซ้ำ ๆ 6-8 ครั้ง จนรู้สึกเหนื่อยได้ในระยะเวลาเพียงไม่กี่นาที วิธีการฝึกแบบนี้เรียกว่า Tabata

การเผาผลาญไขมันที่ดีมากกว่าอาจทำให้ผู้หญิงได้เปรียบในกีฬาที่ใช้ความอดทน

การเผาผลาญไขมันได้อย่างมีประสิทธิภาพขณะออกกำลังกายเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการออกกำลังกายบางประเภท นั่นเป็นเพราะไขมันเป็นแหล่งพลังงานของร่างกายในช่วงที่ออกกำลังกายที่ไม่หนักมากแต่ต้องใช้เวลาในการออกกำลังกายอย่างเป็นเวลานาน ในการออกกำลังกายระยะสั้นร่างกายจะใช้คาร์โบไฮเดรตที่เก็บไว้ในการให้พลังงานแต่คาร์โบไฮเดรตจะหมดลงอย่างรวดเร็ว และเมื่อถึงเวลานั้นร่างกายจะนำไขมันที่เก็บไว้ออกมาแปลงเป็นพลังงานเพื่อให้คุณสามารถทำกิจกรรมต่อได้และนั้นทำให้การเผาผลาญไขมันมีความสำคัญต่อกีฬาที่ต้องใช้ความอดทนสูง เช่น การวิ่งมาราธอน และถ้าหากผู้หญิงมีประสิทธิภาพมากกว่าก็จะทำให้ร่างกายสามารถทนต่อความเหนื่อยล้าระหว่างออกกำลังกายได้นานกว่าผู้ชาย

“ในท้ายที่สุดความสามารถในการเผาผลาญไขมันมากขึ้นเป็นพลังงานมีประโยชน์สำหรับนักกีฬาที่มีความอดทนโดยการชะลอช่วงเวลาที่คาร์โบไฮเดรตจะหมดลง” ดร. ฆาเวียร์ กอนซาเลซ นักวิจัยอาวุโสและนักสรีระวิทยามนุษย์ของมหาวิทยาลัยบาธที่เขียนงานวิจัยนี้่ออกมา กล่าว

ผู้หญิงอาจมีความยืดหยุ่นของร่างกายมากกว่าผู้ชายเช่นกัน

การค้นพบนี้สนับสนุนหลักฐานก่อนหน้านี้ว่าผู้หญิงอาจมีความแข็งแรงในการออกกำลังกายเป็นระยะเวลานาน, การวิ่ง หรือการทำกิจกรรมอื่นๆได้ดีกว่าผู้ชาย

โดยผู้หญิงมีแนวโน้มที่จะต้านทานความเหนื่อยล้า, การไหลเวียนเลือดที่กล้ามเนื้อดีและการฟื้นตัวจากการออกกำลังกายได้ดีกว่าผู้ชาย สอดคล้องกับการศึกษาของ เกรก นักโคลส์ (Greg Nuckols) นักวิจัยด้านวิทยาศาสตร์การออกกำลังกายและผู้เขียนหนังสือ Stronger By Science ที่ได้ศึกษาความแตกต่างทางเพศในการออกกำลังกาย นักโคลส์ให้สัมภาษณ์ว่า เขาก็ไม่รู้ว่าต้นกำเนิดแนวความคิดที่ว่าผู้หญิงไม่สามารถฝึกหนักหรือไม่ควรทำอะไรที่ต้องออกแรงมันมาจากไหน

การเผาผลาญไขมันที่ดีกว่านี้ยังสามารถอธิบายได้ว่าทำไมผู้หญิงถึงมีความไวต่ออินซูลินซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ความไวต่ออินซูลินเป็นสิ่งที่สามารถบ่งบอกถึงควมสามารถในการเผาผลาญอาหาร บ่งชี้ว่าผู้หญิงมีความยืดหยุ่นในการเผาผลาญมากกว่าผู้ชาย

อ้างอิง Insider

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส