หลายคนอาจยังไม่รู้ว่าจริง ๆ แล้ว ‘ช็อกโกแลต’ ไม่มีการระบุ ‘วันหมดอายุ (EXP : Expired)’ มีแต่วันที่ ‘ควรบริโภคก่อน (ฺBBF : Best Before)’ ซึ่งแปลว่าเราสามารถรับประทาน ‘ช็อกโกแลต’ ได้อย่างปลอดภัยหรือไม่เป็นอันตราย แม้ผ่านพ้นวันที่ควรบริโภคไปแล้วก็ตาม

แล้วทำไม ‘ช็อกโกแลต’ ถึงไม่มีวันหมดอายุล่ะ? นั่นเพราะ ‘ช็อกโกแลต’ ไม่มีน้ำเป็นส่วนประกอบ ทำให้แบคทีเรียไม่สามารถเติบโตได้ การเก็บรักษาที่ดีจะทำให้รักษาคุณภาพและรสชาติได้นานขึ้น ซึ่งวิธีที่เหมาะสมกับการเก็บ รักษารสชาติของ ‘ช็อกโกแลต’ คือควรหลีกเลี่ยงแสงแดดและรักษาอุณหภูมิให้ไม่เกิน 28°C ขณะเดียวกันก็ควรเก็บไว้ในที่แห้งและเย็น แม้การเก็บในตู้เย็นก็ควรระวังเพราะช็อกโกแลตซึมซับกลิ่นได้ดี

แล้วอย่างนี้หลายคนก็คงตั้งคำถามต่อว่า ‘ช็อกโกแลต’ สามารถเก็บได้นานแค่ไหน? คำตอบก็คือนานมากจนหาคำตอบไม่ได้ชัดเจน แต่เมื่อปี 2020 ที่ออสเตรเลียได้ค้นพบกล่องช็อกโกแลต Cadbury ที่ผลิตเมื่อปี 1900 หรือราว ๆ 120 ปีที่แล้ว ในสภาพสมบูรณ์ถูกเก็บรักษาด้วยกรรมวิธีโบราณคือห่อกระดาษฟอยล์และฟาง บรรจุในกล่องเหล็ก แต่ทั้งนี้ไม่ใช่ว่า ‘ช็อกโกแลต’ ทุกประเภทสามารถเก็บได้ตลอดกาล ขึ้นอยู่กับประเภทของ ‘ช็อกโกแลต’ ไม่ว่าจะเป็นแบบไวต์, มิลค์หรือดาร์กก็มีอายุเฉลี่ยไม่เท่ากัน ไปจนถึงวัตถุดิบที่ใส่เพิ่มเติมลงไปใน ‘ช็อกโกแลต’ ด้วย เช่น ถั่วหรือผลไม้ ตลอดจนวิธีการเก็บรักษาล้วนมีผลต่ออายุของ ‘ช็อกโกแลต’ ทั้งสิ้น
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส